อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

เมื่อชีวิตถึงช่วงที่มืดมนที่สุด




มีผู้หญิงคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า...
สามีฉันเสียชีวิตตนที่ฉันอายุ 30 มีลูก 5 คน
ในตอนนั้นฉันรู้สึกเศร้าเสียใจ ทุกสิ่งทุกอย่างมืดมนไปหมด
ฉันคิดว่าทำไมฉันถึงโชคร้ายเช่นนี้ ลูกๆ ยังเด็ก เงินก็ไม่มี
จนวันหนึ่งฉันได้เปิดวิทยุ ได้ยินชัยค์ท่านหนึ่งกล่าวว่า...
ท่านรอซูล (ซ.ล.) กล่าวว่า
"ใครก็ตามที่วิงวอนขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺเป็นประจำ
อัลลอฮฺจะให้เขากับทางออกจากทุก ๆ ทางตันและจะให้พ้นจากทุกๆ
ความหม่นหมองและพระองค์จะประทานปัจจัยยังชีพแก่เขาอย่างที่คาดไม่ถึง"
ดังนั้นฉันได้ขออภัยโทษต่ออัลลอฮฺอย่างมากมาย
และบอกให้ลูกๆ ทำเช่นเดียวกัน
เพียง 6 เดือนหลังจากนั้น
มีนักพัฒนาที่ดินกลุ่มหนึ่ง
มาขอซื้อทรัพย์สินเก่าของเราด้วยเงินหลายล้าน
ลูกชายของฉัน
เป็นคนแรกของหมู่บ้านที่ท่องจำอัลกุรอ่านได้ทั้งหมด
ครอบครัวของเราได้รับความเมตตาโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
พระองค์ทรงปัดเป่าความกังวลและความทุกข์ยากทั้งหลาย
หมดไปจากชีวิตของฉันและตอนนี้ฉันกลายเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด
(เรื่องจากหนังสือ "เธอ หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก")
บางครั้งอัลลอฮฺทรงพรากเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากคุณ
…เพื่อที่ว่าคุณอาจหันกลับสู่พระองค์
และบางครั้งอัลลอฮฺทรงส่ง "คนบางคน" มา
…เพื่อบั่นทอนคุณ สร้างความผิดหวังให้กับคุณ
เพราะพระองค์ต้องการสอนให้คุณรู้ว่า...
…คุณไม่ควรคาดหวังที่จะพึ่งพาผู้ใดก็ตาม นอกจากพระองค์
และแท้จริงแล้วอัลลอฮฺย่อมไม่มีทางที่จะสร้างความผิดหวังให้กับคุณ


.............................
อับดุลรอมาน หะระตี





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น