อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

ที่มาของการละหมาดเราะฆออิบ


เราะฆออิบมีที่มาอย่างไร?

อัลฏ็อรฏูสีย์ได้ชี้แจงถึงจุดเริ่มต้นของการอุปโลกน์ละหมาดประเภทนี้ว่า “อบูมุหัมมัด อัลมักดะสีย์ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า “พวกเราที่อาศัยอยู่ที่บัยตุลมักดิส ไม่เคยรู้จักละหมาดเราะฆออิบที่มีการละหมาดในเดือนเราะญับและชะอฺบานมาก่อนเลย และเริ่มแรกที่มีการอุตริละหมาดนี้ขึ้นมาที่เขตของเราเกิดขึ้นในปี ฮ.ศ. 448 โดยมีชายชาวนาบุลูสคนหนึ่งเดินทางมาอาศัยอยู่กับพวกเราที่บัยตุลมักดิสแห่งนี้ เขาเป็นที่รู้จักในนามของอิบนุอบีอัลหัมรออ์ เขาเป็นคนที่อ่านอัลกุรอานเพราะ เขาได้ลุกขึ้นละหมาดที่มัสยิดอัลอักศอในคืนกลางเดือนชะอฺบาน (คืนนิศฟุชะอฺบาน)...” จนกระทั่งท่านกล่าวว่า “ส่วนละหมาด (เราะฆออิบในเดือน) เราะญับนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นที่เขตของเราบัยตุลมักดิส นอกจากหลังจากปี ฮ.ศ. 480 ไปแล้ว และเราไม่เคยพบเห็นละหมาดนี้มาก่อนและไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วย” (อัลบาอิษ อะลา อินการ อัลหะวาดิษ วัลบิดะอฺ หน้า 103)

ละหมาดเราะฆออิบเพื่อเอาใจชาวบ้าน

อิหม่ามอบูชามะฮฺกล่าวว่า “มีอิหม่ามไม่รู้กี่คนได้กล่าว (แก้ตัว) ต่อ (หน้า) ข้าพเจ้าว่า “พวกเขาไม่ได้ละหมาดเราะฆออิบ นอกจากเพื่อรักษาจิตใจของชาวบ้าน และเพื่อให้พวกเขายึดมั่นกับมัสยิด กลัวว่าพวกเขาจะหนีเตลิดและถอนตัวออกห่าง!”

การกระทำของพวกเขาเช่นนี้ เป็นการเข้าละหมาดด้วยเจตนาที่ไม่ถูกต้อง และเป็นการพยายามยืนต่อหน้าอัลลอฮฺ (ด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจ) และถ้าไม่มีสิ่งอื่นในอุตริกรรมนี้ นอกจากการกระทำเช่นนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว และทุกๆคนที่สบายใจ (ไม่รู้สึกเดือดร้อน) กับละหมาดนี้ หรือเห็นดีเห็นงามกับมัน ถือว่าเขาเป็นต้นเหตุของการทำอุตริกรรมนี้ด้วย เป็นผู้ที่หลอกลวงชาวบ้านต่อสิ่งที่พวกเขากำลังเชื่อถืออยู่เกี่ยวกับการละหมาดดังกล่าว (เพราะไม่ยอมชี้แจงข้อเท็จจริงให้พวกเขาทราบ) และถือว่า การนิ่งเฉยและเห็นดีเห็นงามของเขาต่อละหมาดดังกล่าวเป็นการโกหกต่อบัญญัติอิสลามอีกด้วย ถ้าหากว่าชาวบ้านเหล่านั้นได้รับการชี้แจง และสอนสั่ง (ให้รู้จักถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับละหมาดดังกล่าว อย่างค่อยเป็นค่อยไป) จากปีหนึ่งไปสู่อีกปีหนึ่ง แน่นอนอย่างยิ่งว่าชาวบ้านเหล่านั้นต้องละทิ้งและยกเลิกการกระทำนั้น แต่ (ถ้าทำเช่นนั้น) ตำแหน่งความเป็นผู้นำของบรรดาผู้ที่ชอบกระทำอุตริกรรมและชอบฟื้นฟูมันก็จะล่มสลาย วัลลอฮุลมุวัฟฟิก

เมื่อก่อน บรรดาแกนนำชาวคัมภีร์ไม่ยอมเข้ารับอิสลาม เพราะกลัวว่าตำแหน่งทางสังคมของเขาจะล่มสลาย อัลลอฮฺได้ตรัสเกี่ยวกับจุดยืนของพวกเขาว่า

فَوَيْلٌ لِّلَّذِينَ يَكْتُبُونَ الْكِتَابَ بِأَيْدِيهِمْ ثُمَّ يَقُولُونَ هَـذَا مِنْ عِندِ اللهِ لِيَشْتَرُواْ بِهِ ثَمَناً قَلِيلاً فَوَيْلٌ لَّهُم مِّمَّا كَتَبَتْ أَيْدِيهِمْ وَوَيْلٌ لَّهُمْ مِّمَّا يَكْسِبُونَ

ความว่า  “ดังนั้น ความวิบัติจงมีแด่ผู้เขียนคัมภีร์ด้วยมือของพวกเขาแล้วกล่าวว่า นี่คือสิ่งที่มาจากอัลลอฮฺ ทั้งนี้เพื่อที่พวกเขาจะได้รับสิ่งแลกเปลี่ยนบางอย่าง (ตำแหน่งและยศศักดิ์ทางสังคม)ที่มีราคาเพียงเล็กน้อย ดังนั้น สิ่งที่พวกเขาเขียนด้วยมือของพวกเขาจะนำความวิบัติมาสู่พวกเขา และสิ่งที่พวกเขาได้รับนั้นก็นำพาพวกเขาไปสู่ความหายนะ” ( อัลบะเกาะเราะฮฺ 79 และดู อัลบาอิษ อะลา อินการ อัลบิดะอฺ วัลหะวาดิษ หน้า(105)


.......................................
ไฟศ็อล บิน อาลี อัลบุอฺดานีย์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น