มีการอ้างรายงานมาจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ (ร่อฎียัลลอฮุอันฮา) จากท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า ...
أَعْلِنُوْاهَذَاالنِّكَاحَ، وَاجْعَلُوْهُ فِى الْمَسَاجِدِ، وَاضْرِبُوْاعَلَيْهِ بِالدُّفُوْفِ
“พวกท่านจงให้มีผู้รู้เห็นการนิกาห์นี้, จงทำมันในมัสยิด และจงตีกลองประโคมข่าวการนิกาห์ด้วย” ...
(บันทึกโดย ท่านอัต-ติรฺมีซีย์ หะดีษที่ 1089 และท่านอัล-บัยฮะกีย์ เล่มที่ 7 หน้า 290) ...
คำว่า “จงให้มีผู้รู้เห็นการนิกาห์” อาจมีความหมายว่า จงให้มี “พยาน” ในการนิกาห์ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นในการนิกาห์, หรืออาจมีความหมายว่า จงกระทำการนิกาห์อย่างเปิดเผยและให้ชาวบ้านทั่วไปรับรู้ ซึ่งเป็นเรื่องสมควรปฏิบัติในการนิกาห์ทุกครั้ง ...
(จากหนังสือ “ตุห์ฟะตุ้ลอะห์วะซีย์” เล่มที่ 4 หน้า 210) ...
หะดีษบทนี้เป็นหะดีษที่เฎาะอีฟมาก เพราะในสายรายงานของมันมีชื่อของ “ท่านอีซา บินมัยมูน อัล-อันศอรีย์” ซึ่งถูกท่านบุคอรีย์วิจารณ์ว่า “مُنْكَرُالْحَدِيْثِ” ...
(จากหนังสือ “อัฎ-ฎุอะฟาอ์ อัศ-ศอฆีรฺ” ของท่านบุคอรีย์ หน้า 90)
คำว่า “มุงหัรฺหะดีษ” ในทัศนะของท่านบุคอรีย์ หมายถึงบุคคลที่ห้ามรายงานหะดีษใดๆจากเขา ...
แต่ข้อความวรรคแรกที่ว่า “จงให้มีผู้รู้เห็นการนิกาห์” ถือเป็นรายงานที่เชื่อถือได้ เพราะมีการรายงานสนับสนุนมาจากกระแสอื่น ...
การเฎาะอีฟของหะดีษนี้ จึงอยู่ที่ 2 วรรคหลังของมัน คือ ให้นิกาห์ในมัสยิด, และให้ตีกลองประโคมข่าวการนิกาห์ ...
ความหมายที่ว่า “หะดีษเรื่องให้นิกาห์ในมัสยิดเป็นหะดีษเฎาะอีฟ” มิได้หมายความว่า ห้ามนิกาห์ในมัสญิด .. แต่หมายถึงว่า ถ้าผู้ใดจะทำพิธีนิกาห์ในมัสยิดก็ได้ เพียงแต่อย่าไปเข้าใจว่าการนิกาห์ในมัสยิดเป็นซุนนะฮ์ที่ท่านนบีย์สั่งหรือส่งเสริมให้กระทำ หรือเมื่อทำแล้วจะมีบะรอกะฮ์มาก อะไรทำนองนั้น ...
เพราะไม่มีหลักฐานที่ถูกต้องแม้แต่บทเดียวที่ส่งเสริมให้มีการนิกาห์ในมัสยิด หรือให้เข้าใจว่า การนิกาห์ในมัสยิดเป็นซุนนะฮ์ ...
.....................................
อาจารย์มะห์มูด ศรีอุทัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น