เป็นเรื่องแปลก สำหรับกฎหมายในเมืองไทยในปัจจุบัน (ประมวลกฎหมายอาญา) ทีไม่มีการบัญญัติกฎหมายความผิด ฐานมีชู้ หรือเป็นชู้ ทั้งที่การมีชู้หรือมีชู้มันนั้นเป็นเป็นความผิดในตัวของมันอยู่แล้ว ทั้งต่อผู้กระทำ หรือผู้ร่วมกระทำ ต่อคนรอบข้าง และศิลธรรมอันดีในสังคม และทุกศาสนาได้ห้ามปรามในเรื่องนี้
ทั้งที่กฎหมายของไทยก่อนตราประมวลกฎหมายอาญา ในกฎหมายสามดวงก็ได้บัญญัติโทษของการมีชู้ หรือเป็นชู้ไว้ด้วย
และยังเป็นเรื่องแปลกอีก การมีภรรยาหลายคน มันไม่มีความผิดในตัวของมันเลย มิหน่ำซ้ำการมีรรยาหลายคนเป็นการช่วยหญิงที่เป็นหม้ายที่สามีตายในสนามรบ หรืออันเกิดจากที่หญิงมีมากกว่าเป็นทวีคูณ ได้อุปการะเลี้ยงดูจากชาย หรือภรรยาคนแรกไม่สามารถมีบุตรได้ ก็ให้ภรรยาคนที่สองมีบุตรให้แทน แต่กฎหมายไทยกลับห้ามมันมิให้มีภรรยาหลายคน ทั้งก่อนที่มีการใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง บรรพ 5 และในกฎหมายตราสามดวงยังให้มีภรรยาหลายคน
- เมียกลางเมือง หมายถึง, เมียกลางนอก และเมียกลางทาษี
เหตุผลที่กฎหมายไทย ไม่ได้บัญญัติโทษฐานมีชู้ หรือเป็นชู้ หรือห้ามภรรยาหลายคน ก็อันเนื่องจากตามชาวฝรั่งตะวันตก เห็นว่าชาวฝรั่งนั้นทันสมัยไม่ตกยุค ชาวฝรั่งว่าการมีชู้ หรือเป็นชู้ไม่ผิด คนไทยก็ตามด้วย ชาวฝรั่งว่าการมีภรรยาหลายคนผิด กฎหมายไทยก็ว่าผิดด้วย
ฝรั่งว่าไง ไทยก็ว่างั่น ขอให้ได้ตาม โดยไม่ตริตรองตามความเป็นจริง ซึ่งการมีชู้ หรือการมีชู้ ถือเป็นการทำลายครอบครัว และสังคม ตลอดจนศิลธรรมอันดีในสังคมเป็นอันมาก
สำหรับอิสลาม ถือว่าการมีชู้ หรือเป็นชู้ ที่เรียกว่า การซีนา นั้นบาปมหันต์ มีบทลงโทษทั้งโลกนี้และอาคีเราะฮฺ ส่วนการมีภรรยาตั้งแต่หนึ่งคนถึงสี่คน เป็นที่อนุมัติ แต่มีเงื่อนไขว่าชายนั้นต้องให้ความชอบธรรม แก่ภรรยาทุกๆคนเท่าเทียบกัน หากมิเช่นนั้น อิสลามก็ห้ามเช่นเดียวกัน คือให้มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้น
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น