อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ซุนนะห์กับการเลี้ยงแมว



ท่านนบีมุฮำหมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เป็นผู้ที่มีความเมตตาอ่อนโยน และชมชอบแมวเป็นอย่างมาก
 ท่านนบีฯ มีแมวตัวโปรดตัวหนึ่งชื่อ "มุอัซซะอ์"
และมีเรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับท่านนบีฯ กับเจ้าแมวมุอัซซะอ์ว่า
 ครั้งหนึ่ง เมื่อมีเสียงอะซาน (การเรียกร้องสู่การละหมาด) ดังขึ้น
 ในขณะที่ มุอัซซะอ์กำลังหลับใหลอยู่บนผ้าชิ้นงามผืนหนึ่งของท่านนบีฯ
ซึ่งท่านต้องการจะสวมใส่ผ้าผืนนั้นไปทำละหมาด
 ท่านนบีฯ เกรงว่าหากท่านดึงผ้าออกจากมุอัซซะอ์อาจจะเป็นการรบกวนและทำให้มันตื่นขึ้นได้
ดังนั้น ท่านจึงตัดผ้าส่วนที่เหลือที่ไม่ถูกทับและปล่อยให้ มุอัซซะอ์นอนต่อไป ณ ที่นั้น


ท่านนบีมุฮำหมัด  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) มีความผู้พันกับแมวเป็นอย่างมาก ยามเมื่อท่านกล่าวเทศนาแก่บรรดาซ่อฮาบะฮ์ (อัครสาวก) ท่านจะให้มุอัซซะฮ์ นั่งอยู่ที่ตัก
และท่านยังเคยดื่มน้ำส่วนที่เหลือหลังจากที่ให้แมวของท่านดื่ม
 และท่านยังเคยอาบน้ำละหมาดจากน้ำเดียวกันกับที่ให้แมวดื่ม
ดู ประหนึ่งว่าสิ่งที่ท่านนบีฯ ปฏิบัติต่อแมวเป็นอย่างดีนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผู้คนที่รักแมวทั้งหลายในปัจจุบัน
 แต่ อยากจะให้ผู้ที่รักแมวลองคิดทบทวนดูว่าพวกเขากล้าที่จะดื่มน้ำแก้วเดียวกันกับแมวหรือไม่ อย่างไม่เกรงว่าจะมีเชื้อโรคติดต่อไปยังร่างกายพวกเขา (เป็นที่เชื่อกันว่าการดื่มน้ำส่วนเหลือจากแมวนั้นไม่ได้เป็นอันตรายแต่ร่างกายต่อย่างใด)


อิสลามสอนมุสลิมปฏิบัติต่อแมวอย่างดีและถือว่าแมวเป็นสัตว์ที่ผู้คนจะต้องให้ความรัก
 ดังนั้น ในทัศนะอิสลาม การปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมต่อแมวจึงถือว่าเป็นบาปที่ร้ายแรง

ได้มี อัล-หะดิษ (รายงานคำสอนและข้อปฏิบัติของท่านนบีฯ มุฮำหมัด) ที่เชื่อถือได้ โดยท่านอิหม่ามบุคอรีว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ถูกลงโทษอันเนื่องจากการปฏิบัติต่อแมวอย่างโหดร้าย คือ เธอได้กักขังแมวตัวหนึ่งและไม่ได้ให้อาหารแก่แมวตัวนั้นจนกระทั่งแมวอดตาย และเธอจะตกนรก

มีรายงานใน อัล-หะดิษ เกี่ยวกับแมวอีกว่า ห้ามขายแมวเพื่อเป็นสินค้า หรือเพื่อเงินน้ำลายของแมวไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดเว้นแต่มีสิ่งสกปรกอย่างเห็นได้ชัดในปากของมัน มุสลิมสามารถเลี้ยงแมวได้แต่ต้องให้การดูแลเป็นอย่างดี (ห้ามไม่ให้มันอยู่ในสภาพที่อดอยาก หรือถูกคุมขัง)คำสอนของอิสลามเกี่ยวกับแมวนั้นได้สะท้อนว่ามุสลิมจะต้องให้ความเมตตาอ่อนโยนต่อสัตว์ รวมทั้งมนุษย์ทุกผู้ทุกคนไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ หรือศาสนาใดก็ตาม
......................................................................................................................................
เรียบเรียงโดย สุชาติ เศรษฐมาลินี จาก http://www.pictures-of-cats.org/islam-faith.html
โดย บินมูซา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น