อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คุณค่าของการละหมาด





****คุณค่าของการละหมาดสุนนะฮฺที่บ้าน****

จากท่านชัยดฺ บินษาบิด เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

"พวกท่านทั้งหลายจงละหมาดสุนนะฮฺในบ้านของพวกท่าน เพราะการละหมาดที่ดีที่สุดของคนคนหนึ่งคือการละหมาดในบ้านของเขา นอกจากละหมาดฟัรฎู (1)" (บันทึกโดย อัล-บุคอรีย์ หมายเลข 731 และมุสลิม หมายเลข 781)

****คุณค่าของการละหมาดฟัรฎูและการละหมาดสุนนะฮฺ****

จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัย ฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

"แท้จริงแล้วอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ดำรัสว่า ผู้ใดที่เป็นศัตรูกับวะลีัย์ (2) ของข้า แน่นอนข้าได้ประกาศสงครามกับเขาผู้ันั้นแล้ว และไม่มีสิ่งใดที่บ่าวของข้าได้ (ปฏิบัติตน) เข้าใกล้กับข้าด้วยการงานหนึ่งที่ข้าโปรดปรานยิ่งกว่าการปฏิบัติในสิ่งที่ข้ากำหนดเป็นฟัรฎู และบ่าวของข้าก็ยังคงปฏิบัติตนเข้าใกล้ชิดข้าตลอดเวลาด้วยการปฏิบัติสิ่งที่เป็นสุนนะฮฺต่าง ๆ จนกระทั่งข้ารักเขา ครั้งเมื่อข้ารักเขาแล้ว ข้าก็จะเป็นดั่งผู้ระวังรักษาหูของเขาที่เขาใช้ฟัง เป็นผู้รักษาตาของเขาที่เขาใช้มอง เป็นผู้รักษามือของเขาที่ใช้ฟาดฟัน และเป็นผู้รักษาเท้าของเขาที่เขาใช้เดิน แน่นอนหากเขาขอสิ่งใดจากข้าข้าย่อมให้เขา และหากเขาได้ขอความคุ้มครองจากข้า ข้าก็ให้ความคุ้มครองเขาอย่างแน่นอน และไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ข้าลังเลมากกว่าการเอาชีวิตของผู้ศรัทธา พวกเขากลัวการตายและข้าก็ไม่อยากให้เขาได้รับทุกข์เช่นกัน" (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 6502)

**** คุณค่าของการอ่านวิริด (บทขอพร) หลังจากการให้สลามหลังละหมาดฟัรฎู****

จากท่านอบีฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านเราะสุลุลลอฮ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

"ผู้ใดก็ตามที่ได้กล่าวตัสบีหฺต่ออัลลอฮฺ (3) ทุกครั้งหลังละหมาดสามสิบสามครั้ง กล่าวตะหฺมีดต่ออัลลอฮฺ (4) สามสิบสามครั้ง และกล่าวตักบีรฺต่ออัลลอฮฺ (5) สามสิบสามครั้ง ทั้งหมดเป็นจำนวนเก้าสิบเก้าครั้ง และกล่าวเพิ่มอีกให้ครบหนึ่งร้อยครั้งด้วยคำกล่าวที่ว่า "ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ วะหฺดะฮู ลาชะรีกะละฮฺ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลหัมดุ วะฮุวะอาลา กุลลิชัยอิน เกาะดิรฺ" (ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีภาคีใดสำหรับพระองค์ และพระองค์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่ง) ความผิดของเขาผู้นั้นจะได้รับการอภัยแม้่จะมากเช่นฟองน้ำในทะเลก็ตาม (6)" (บันทึกโดยมุสลิม 597)

**** ึคุณค่าของการละหมาดแก่ผู้ตายและการติดตามศพ****

จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

"ผู้ใดที่ติดตามญะนาซะฮฺ (7) ของมุสลิมด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาและหวังผลตอบแทนจากอัลลอฮฺ โดยที่เขาร่วมอยู่กับญะนาซะฮฺนั้น จนกระทั้่งได้ละหมาดให้เขาแล้ว แล้วอยู่จนกระทั่งฝังศพของเขาเสร็จ แท้จริงแล้วเขาผู้นี้จะกลับพร้อมผลบุญสองกีรอฎ ทุก ๆ หนึ่งก็รอฏดุจดั่งภูเขาอุหุด ส่วนผู้ที่ละหมาดญะนาซะฮฺและกลับมาก่อนที่จะมีการฝังศพผู้ตาย แท้จริงแล้วเขาผู้นี้ได้กลับพร้อมกับผลบุญหนึ่งกีรอฏ (เท่านั้น)" (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ หมายเลข 47)

จากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า

"ผู้ใดอยุ่้ร่วมติดตามญะนาซะฮฺ จนเขาถูกละหมาดให้ เขาจะได้หนึ่งกีร็อฏ และผู้ใดอยู่ร่วมกับญะนาซะฮฺจนเขาถูกฝัง เขาจะได้สองกีรอฏ เศาะหะบะฮฺบางท่านได้กล่าวว่า "กีรอฏคืออะไรหรือ ?" ท่านนบีกล่าวตอบว่า "เหมือนภูเขามหึมาสองลูก" (บันทึุกโดยมุสลิม หมายเลข 945"

******************
(1) นอกจากการละหมาดฟัรฎูที่ต้องละหมาดเป็นญะมาอะฮฺที่มัสญิด
(2) ผู้ที่รักของอัลลอฮฺ
(3) ตัสบีหฺ คือ การกล่าว "สุบหานัลลอฮฺ" มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮฺ
(4) ตะหฺมีด คือ การกล่าว "อัลฮัมดุลิลลาอฺ" การสรรเสริญทั้งหลายเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ
(5) ตักบีรฺ คือ การกล่าว "อัลลอฮุอักบัรฺ" อัลลอฮฺทรงยิ่งใหญ่ที่สุด
(6) เฉพาะบาปเล็กเท่านั้นที่จะถูกลบล้าง และไม่ใช่ความผิดที่เกี่ยวข้องกับลูกหลานอาดัม ที่ต้องให้เขายกโทษให้เสียก่อน ส่วนบาปใหญ่นั้นมีเงื่อนไขสำคัญคือ การเตาบัตตัว
(7) ศพผู้ตาย
.........................................................
อบูอิบานะฮฺ ฟิตยะคุลฮัก : เรียบเรียง
(จากหนังสือ : เศาะฮีหฺ คุณค่าของอามั๊ล)
อดทน เพื่อชัยชนะ โพส




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น