อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อันตรายของการละหมาดที่ขาดคุ่ชั๊ว





ท่านรอซูล ศ้อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เห็นคนๆ หนึ่งละหมาดด้วยท่าทีที่ไม่สงบ ท่านกล่าวว่า หากหัวใจของเราสงบ ร่างกายก็จะสงบด้วย อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตาอาลา ได้กล่าวไว้ในกุรอาน

قَدْ أَفْلَحَ الْمُؤْمِنُوْنَ اَلَّذِيْنَ هُمْ فِيْ صَلاَتِهِمْ خَاشِعُوْنَ المؤمنون 1-2


ความว่า “บรรดาศรัทธาชน ย่อมได้รับชัยชนะ ศรัทธาชนนั้นคือผู้ที่การละหมาดของพวกเขามีคู่ชั๊วะ (สงบ)”

อนึ่งในเรื่องผลตอบแทนของการละหมาดนี้ บางโองการกล่าวว่า

فَوَيْلٌ لِلْمُصَلِّيْنَ اَلَّذِيْنَ هُمْ عَنْ صَلاَتِهِمْ سَاهُوْنَ الماعون 4-5

ความว่า “เหวในขุมนรกจะประสพแก่บรรดาผู้ละหมาด ที่การละหมาดของพวกเขา พวกเขาเลินเล่อ”

จึงสรุปได้ว่า บางคนละหมาดแล้ว แต่ยังไม่เรียกว่าเขาละหมาด การละหมาดจึงต้องกระทำด้วยสมอง และหัวใจ มิใช่ด้วยเรือนร่าง หรือการแสดงออกด้วยพฤติกรรมแต่เพียงอย่างเดียว

ละหมาดคือ ความสุข ความสุขที่ไม่มีความสุขใดๆ เทียบเท่า ท่านนะบี ศ้อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวแก่บิล้าลว่า

يَابِلاَلُ أَرِحْنَا بِالصَّلاَةِ

ความว่า “โอ้บิล้าล จงทำให้เรามีความสุข ด้วยการละหมาด”

กับความสุขของการละหมาด ชาวสะลัฟยืนละหมาดจนนกกาเข้าใจว่า ตอไม้ สำหรับท่านอิหม่ามชาฟีอี ท่านละหมาดสุนัตหลังละหมาดอีชาสองรอกาอัตทุกคืน ด้วยการอ่านกุรอานหนึ่งจบ นั่นก็เพราะความสุขที่ได้รับจากการละหมาด ซึ่งท่านนะบี ศ้อลลอลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า


حُبِّبَ اِلَىَّ دُنْيَاكُمْ ثَلاَثٌ اَلطِّيْبُ وَالنِّسَاءُ وَقُرَّةُ عَيْنِيْ فِى الصَّلاَةِ


ความว่า “ดุนยาของท่านทั้งหลาย ฉันรักมันอยู่ 3 อย่างคือ กลิ่นหอม สตรี และความสุขที่ได้รับจากการละหมาด (ชี้ให้เห็นว่า ละหมาดเป็นเรื่องดุนยา)”

เราจึงควรแสวงหาความสุขที่ได้รับจากการละหมาด เป็นความสุขที่สุขที่สุด อมตะที่สุด หาได้ตรงนี้ ตรงที่ที่มีเรา หาได้โดยไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง หาได้ด้วยตัวเราเอง ที่ตัวเราเอง มันอยู่ที่ตรงนี้ อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตาอาลา พระองค์ผู้ที่ด้วยสมองของเราคิด เราจักต้องรักมากกว่าสิ่งใดๆ พระองค์ให้โอกาสแก่เรา เพื่อให้เราได้อยู่กับพระองค์ ได้เข้าเฝ้าพระองค์ทุกวัน วันละ 5 ครั้ง ให้พระองค์รักเราพร้อมมอบความสุขให้แก่เรา

ฟากฟ้าและแผ่นดินต่างตัสเบียะฮ์ แสดงความรักภักดีต่อพระองค์กันอยู่ตลอดเวลา และมันต่างเจ็บใจที่มนุษย์บางคนทรยศต่อพระองค์..เกลียดชังพระองค์ ดื้อดึงไม่ยมอปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงใช้ พวกมันเคยอาสาพระองค์ที่จะประชาทัณฑ์ผู้ทรยศต่อพระองค์ ทั้งนี้ก็ด้วยความรักของมันที่มีต่อพระองค์ แต่พระองค์กลับไม่ยินดีในการอาสาของมัน ด้วยการบอกกับพวกมันว่า


لَوْ خَلَقْتُمُوْهُ لَرَحِمْتُمُوْهُ


ความว่า “หากพวกท่านให้บังเกิด (สร้าง) มัน(มนุษย์) แน่นอนพวกท่านต้องรักมัน”


กี่วัน กี่เดือน กี่ปีมาแล้วที่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตาอาลา ให้เวลาเพื่อการแก้ตัว บางคนมีอายุอยู่จนแก่ชรา แต่ก็ยังแก้ตัวไม่ได้ สงสารลูกหลานที่มีผู้เฒ่าเป็นแบบนั้นจังเลย เพราะมีฮะดีษกุดซีย์กล่าวว่า.....


لاَإِلهَ اِلاَّ أَنَا اِذَا رَضِيْتُ بَارَكْتُ وَبَرَكَتِيْ لَيْسَتْ لَهَا نِهَايَةٌ وَاِذَا غَضِبْتُ لَعَنْتُ وَلَعْنَتِيْ تَبْلُغُ السَّابِعَ مِنَ الْوَلَدِ

ความว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากฉัน เมื่อฉันยินดี ฉันก็จะเพิ่มพูน มอบบารอกัตให้ ซึ่งบารอกัตของฉันนั้นไม่มีจุดจบสิ้น และเมื่อฉันโกรธ ฉันก็กริ้ว ซึ่งความกริ้วของฉัน จะทอดไปถึงเจ็ดชั่วโคตร”

เป็นฮะดีษที่สะเทือนขวัญมาก เพราะเมื่อเราเลว ลูกหลานจะเลวไปถึงเจ็ดชั่วโคตรด้วยนั่นเอง ในทางกลับกัน หากเราเป็นคนดี ลูกหลานของเราก็จะดี ไม่ว่าจะกี่ชั่วโคตรก็ตาม

เพราะความลุ่มหลงดุนยานี้แหละคือสาเหตุในการทำลายคู่ชั๊วะ ดังนั้นจงอย่ารักมันด้วยหัวใจ เพราะสิ่งใดที่เรารักด้วยใจ เราจะกลายเป็นทาสของสิ่งนั้น ดังนั้นจงรักดุนยาด้วยอวัยวะส่วนใดก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ด้วยหัวใจ เพราะหัวใจมีไว้รักอัลลอฮ์ เป็นที่สถิตของอัลลอฮ์ ดังพระองค์ได้กล่าวไว้ในฮะดีษกุดซีย์ว่า


أَفْرِغْ قَلْبَكَ لاَنَّ قَلْبَكَ بَيْتِيْ أَسْكُنُ فِيْهِ

ความว่า “จงทำให้หัวใจของท่านว่าง เพราะหัวใจของท่านคือบ้านของฉัน ฉันพำนักอยู่ในนั้น”

ซุบฮานัลลอฮ อัลฮัมดุลลิลาฮ อัลลอฮุอักบัร


.............................................
Cr. สรุปจาก kurusampan.com
Dariyah Muslimah โพส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น