มีชายชาวอาหรับคนหนึ่งชื่อว่า “มุหัมมัด อิบนุ อะดีย์ อิบนุ รอบีอะฮ์”
เขาเป็นคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “มุหัมมัด”
ชื่อแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีผู้ใดตั้งมาก่อน
มีคนถามเขาว่า ;
เพราะเหตุใดพ่อเขาจึงตั้งชื่อที่ไม่เยมีผู้ใดตั้งนี้?
เขาเล่าว่า : เขาเองก็สงสัยเช่นเดียวกับผู้ถาม
เมื่อถามพ่อ คือ อะดีย์ อิบนุ รอบีอะฮ์
พ่อเล่าให้ฟังว่า :
เขากับสหายอีก 3 คน ออกเดินทางไปแคว้นชาม
เพื่อไปหาชายคนหนึ่งชื่อ อิบนุ ญัฟนะฮฺ เมื่อเดินทางถึงชาม เขาเขาแวะพักดื่มน้ำ
อาบน้ำอาบท่า เพื่อให้เนื้อตัวสะอาด ก่อนจะเข้าพบอิบนุ ญัฟนะฮ์
เสียงที่คุยกันนั้นไปเข้าหูของนะกบวชคริสต์ที่อาศัยอยู่ที่นั้น
เขารู้ว่าทั้ง 4 คนไม่ใช่คนท้องถิ่นอย่างแน่นอน
ทั้งสี่คนแนะนำตัวว่าตนเป็นเผ่ามุฎอร ตระกูลคินดัฟ
นักบวชคนนั้นจึงบอกว่า :
จะมีนบีท่านหนึ่งในสายเผ่านี้ ปรากฏตัวขึ้นอีกไม่นาน หากท่านปรากฏตัวขึ้นให้ทั้งสี่รีบไปหาท่าน
ร่ำเรียนคำสอนของท่าน เพื่อครองตนในหนทางแห่งสัจธรรม ท่านจะเป็นนบีท่านสุดท้าย
ที่ไม่มีผู้ใดมาอีกแล้ว ท่านมีชื่อว่า “มุหัมมัด”
เมื่อทั้งสี่เสร็จสิ้นจากกิจธุระที่ชาม
หลังจากนั้นไม่นานนักแต่ละคนก็มีลูกชายเกิดขึ้นมา แต่ละคนตั้งชื่อให้ว่า “มุหัมมัด”
เพราะต้องการให้ลูกชายตนเป็นนบีท่านสุดท้าย ตามที่ได้รับการบอกเล่ามา
(จาก อัลบัยฮะกีย์ 2/114-115)
ยุคนั้นมีชื่อ “มุหัมมัด" หลายคนด้วยกัน
ท่านอัลฮาฟิซ อิบนุ ฮะญัร ท่านนับได้ถึง 15 คน
และมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีชีวิตทันยุคอิสลาม คือหลังการแต่งตั้งศาสนาทูตตัวจริง
และในบรรดาผู้มีชื่อมุหัมมัดนั้น ไม่มีผู้ใดเลยอ้างตัวว่าเป็นนบี นอกจาก “มุหัมมัด บุตร อับดุลลอฮฺ” ผู้เดียวเท่านั้น
(อัซซะคอวีย์ หน้า 109-110)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น