อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

บุถคลิกลักษณะของท่านนบีมุหัมมัด



บุคลิกลักษณะของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม


«كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم أَحْسَنَ النَّاسِ وَجْهًا وَأَحْسَنَهُ خَلْقًا، لَيْسَ بِالطَّوِيلِ الْبَائِنِ وَلاَ بِالْقَصِيرِ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เป็นผู้ที่มีใบหน้างามที่สุดและเป็นคนที่มีรูปร่างดีที่สุด ร่างท่านไม่สูงโกร่งและไม่เตี้ย” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ : 2549 และมุสลิม : 2337)

«وَكَانَ صلى الله عليه وسلم إِذَا تَكَلَّمَ بِكَلِمَةٍ أَعَادَهَا ثَلاَثًا حَتَّى تُفْهَمَ عَنْهُ، وَإِذَا أَتَى عَلَى قَوْمٍ فَسَلَّمَ عَلَيْهِمْ سَلَّمَ عَلَيْهِمْ ثَلاَثًا»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อท่านพูดประโยคใด ท่านจะทวนสามครั้งจนกระทั่งเป็นที่เข้าใจ และเมื่อท่านมาหากลุ่มคนใดท่านก็จะให้สลามต่อพวกเขา ท่านจะให้สลามต่อพวกเขา ถึงสามครั้งเช่นกัน” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 95)

وَ «كَان صلى الله عليه وسلم إذا رَاعَهُ شَيْءٌ قال : هُوَ اللهُ رَبِّي لاَ أُشْرِكُ بِهِ شَيْئًا»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อมีสิ่งใดมาสร้างความหวาดหวั่น ท่านจะกล่าวดุอาอ์
«هُوَ اللهُ رَبِّي لاَ أُشْرِكُ بِهِ شَيْئًا»
ความว่า : อัลลอฮฺคือพระผู้อภิบาลของฉัน ฉันไม่ตั้งสิ่งใดเป็นภาคีเทียบเคียงกับพระองค์“ (เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัล-นะสาอีย์ ใน อะมัล อัล-เยาม์ วะ อัล-ลัยละฮฺ : 657 ดู อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ : 2070)

وَ «كَانَ فِرَاشُ رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم الَّذِى يَنَامُ عَلَيْهِ أَدَمًا حَشْوُهُ لِيفٌ»
ความว่า “ที่นอนของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่ท่านใช้นอนนั้นเป็นหนังฟอกที่อัดข้างในด้วยเปลือกต้นอินทผาลัม” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 6456 และมุสลิมตามสำนวนนี้ : 2082)

وَ «كان صلى الله عليه وسلم رَحِيماً، وكان لاَ يَأْتِيْهِ أَحَدٌ إلاَّ وَعَدَهُ وأَنْجَزَ لَهُ إنْ كانَ عِنْدَهُ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เป็นคนมีเมตตา ซึ่งทุกคนที่มาหาท่าน (เพื่อขอสิ่งใด) ท่านจะให้สัญญาแก่เขา และท่านจะมอบให้แก่เขา ถ้าหากท่านมีสิ่งนั้นอยู่” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ ใน อัล-อะดับ อัลมุฟร็อด : 281 เศาะฮีหฺ อัล-อะดับ อัล-มุฟร็อด : 212 ดู อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ : 2094)

وَ «كَانَ كَلاَمُ رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم كَلاَمًا فَصْلاً يَفْهَمُهُ كُلُّ مَنْ سَمِعَهُ»
ความว่า “คำพูดของท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เป็นคำพูดที่เป็นวรรคเป็นตอน ทุกคนที่ฟังจะเข้าใจ” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดยอบู ดาวูด : 4839 เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 4051)

وَ «كان صلى الله عليه وسلم لاَ يُسْأَلُ شَيْئاً إلاَّ أَعْطاهُ أَوْ سَكَتَ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น ทุกสิ่งที่ท่านถูกร้องขอ ท่านจะให้หรือ(ถ้าท่านไม่มีให้)ท่านก็จะนิ่งเงียบ” (เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอัล-หากิม : 2591 ดู อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ : 2109)

وَ «كان صلى الله عليه وسلم لاَ يَنَامُ إلاَّ وَالسِّواكُ عِنْدَهُ فَإِذَا اسْتَيْقَظَ بَدَأَ بِالسِّواكِ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อท่านนอน ไม้สีฟันจะอยู่กับท่าน พอท่านตื่น ท่านจะสีฟันเป็นอันดับแรก” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดยอะห์มัด : 5979 ดู อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ : 2111)

و «كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَتَخَلَّفُ فِى الْمَسِيرِ فَيُزْجِى الضَّعِيفَ وَيُرْدِفُ وَيَدْعُو لَهُمْ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น มักจะอยู่รั้งท้าย ในตอนเดินทาง โดยท่านจะคอยจูงคนอ่อนแอ ตามหลังเขา และจะขอดุอาอ์ให้แก่เขา” (หะดีษ เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอบู ดาวูด : 2639, เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 2298)

وَ «كَانَُ صلى الله عليه وسلم إِذَا اشْتَدَّ الْبَرْدُ بَكَّرَ بِالصَّلاَةِ ، وَإِذَا اشْتَدَّ الْحَرُّ أَبْرَدَ بِالصَّلاَةِ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น ในยามที่หนาวเหน็บท่านจะรีบละหมาดแต่เนิ่นๆ แต่ในยามที่แดดร้อน ท่านจะชะลอการละหมาดจนบ่ายคล้อยลงหน่อย” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 906)

وَ «كان صلى الله عليه وسلم كَانَ إِذَا اشْتَكَى نَفَثَ عَلَى نَفْسِهِ بَالْمُعَوِّذَاتِ، وَمَسَحَ عَنْهُ بِيَدِهِ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อมีอาการเจ็บปวด ท่านจะเป่าลงบนตัวท่านด้วย(การอ่าน) สูเราะฮฺอัล-มุเอามิซาต(สูเราะฮฺ อัล-อิคลาศ, อัล-ฟะลัก และอัน-นาส) และใช้มือลูบส่วนที่เจ็บปวดนั้น” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 4439 และมุสลิมตามสำนวนนี้ : 2192)

وَ «كَانَ صلى الله عليه وسلم إِذَا اكْتَحَلَ اكْتَحَلَ وِتْرًا، وَإِذَا اسْتَجْمَرَ اسْتَجْمَرَ وِتْرًا»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อท่านทาตาด้วยพลวง ท่านจะทาเป็นจำนวนคี่ และเมื่อท่านชำระจากการถ่ายทุกข์ด้วยการอิสติจญ์มาร(โดยการใช้ก้อนหินหรือใบไม้)ท่านจะทำความสะอาดด้วยหินเป็นจำนวนคี่” (หะดีษ เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะห์มัด : 17562 ดู เศาะฮีหฺ อัลญามิอฺ : 4680)

«وَكَانَ صلى الله عليه وسلم تُعْجِبُهُ الرِّيحُ الطَّيِّبَةُ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น ชื่นชอบกลิ่นที่หอม” (หะดีษ เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะห์มัด : 26364 ดู อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-เศาะฮีหะฮฺ : 2136, และอบูดาวูด : 4074 ดู เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 3435)

و «كَانَ صلى الله عليه وسلم إِذَا أَتَاهُ أَمْرٌ يَسُرُّهُ أَوْ يُسَرُّ بِهِ خَرَّ سَاجِدًا شُكْرًا لِلَّهِ تَبَارَكَ وَتَعَالَى»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อมีสิ่งที่ทำให้ท่านสุขใจ ท่านจะน้อมตัวลงสุญูดเพื่อเป็นการขอบคุณต่ออัลลอฮฺผู้ทรงมหาจำเริญและสูงส่ง” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดยอัต-ติรมิซีย์ : 1578 ดู เศาะฮีหฺ สุนัน อัต-ติรมิซีย์ : 1282 และบันทึกโดยอิบนุ มาญะฮฺ ตามสำนวนนี้ : 1394 ดู เศาะฮีหฺสุนันอิบนุมาญะฮฺ : 1143)

و «كانَ النَّبِىُّ صلى الله عليه وسلم إِذَا حَزَبَهُ أَمْرٌ صَلَّى»
ความว่า “ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อมีสิ่งใดทำให้ท่านทุกข์ร้อนใจ ท่านจะละหมาด” (หะดีษ หะสัน บันทึกโดยอะห์มัด : 23688 และบันทึกโดยอบู ดาวูด : 1319 ดู เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 1171)

وَ «كَانَ صلى الله عليه وسلم إِذَا خَطَبَ احْمَرَّتْ عَيْنَاهُ، وَعَلاَ صَوْتُهُ، وَاشْتَدَّ غَضَبُهُ، حَتَّى كَأَنَّهُ مُنْذِرُ جَيْشٍ يَقُولُ : صَبَّحَكُمْ وَمَسَّاكُمْ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อท่านแสดงปาฐกถา สองดวงตาของท่านจะแดงก่ำ เสียงท่านจะสูงดัง และความโกรธของท่านจะแรงเป็นจริงเป็นจัง กระทั่งเสมือนกับว่าท่านเป็นผู้เตือนเหล่าทหารที่คอยพูดว่า : ศัตรูของพวกเจ้าจะบุกมายามรุ่งอรุณนี่แล้ว และพวกเขาจะบุกมายามเย็นนี่แล้ว” (บันทึกโดยมุสลิม : 867)

وَ«كَانَ صلى الله عليه وسلم إِذَا دَخَلَ بَيْتَهُ بَدَأَ بِالسِّوَاكِ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อท่านเข้าบ้านของท่านแล้ว ท่านจะเริ่มด้วยการสีฟันก่อน” (บันทึกโดยมุสลิม : 253)

وَ «كَانَ رسول الله صلى الله عليه وسلم إِذَا دَعا بَدَأَ بِنَفْسِهِ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อท่านขอดุอาอ์ ท่านจะเริ่มขอให้กับตัวเองเป็นอันดับแรก” (หะดีษ เศาะฮีหฺ บันทึกโดยอบู ดาวูด : 3984 ดู เศาะฮีหฺ สุนัน อบี ดาวูด : 3371)

وَ «كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم إِذَا سُرَّ اسْتَنَارَ وَجْهُهُ كَأَنَّ وَجْهَهُ قِطْعَةُ قَمَرٍ»
ความว่า “ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม นั้น เมื่อท่านมีความปีติยินดี ใบหน้าของท่านจะเจิดจรัส ประหนึ่งว่าใบหน้าท่านเป็นส่วนหนึ่งของดวงจันทร์” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 3556 และมุสลิมตามสำนวนนี้ : 2769)

....................
Ar-tif Kenko

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น