อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

ชนิดต่างๆของบิดอะฮฺในศาสนา



บิดอะฮฺในศาสนามีหลายชนิดดังนี้

1.บิดอะฮฺที่ทำให้เป็นผู้ปฏิเสธ
ได้แก่ การวิงวอน การขอความช่วยเหลือต่อบรรดาผู้ที่ตายไปแล้ว หรือไม่ได้อยู่ด้วย เช่น การที่พวกเขากล่าวว่า "โฮ้ซัยยิดของฉัน คนนั้น คนนี้ ขอได้ให้ความช่วยเหลือด้วย"

2.บิดอะฮฺที่เป็นที่ต้องห้าม ได้แก่ การใช้พวกผู้ที่ตายแล้วเป็นสื่อกลางไปยังอัลลอฮฺ การละหมาดไปทางหลุมฝังศพต่างๆ และสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นบนหลุมฝังศพต่างๆเหล่านั้น

3.บิดอะฮฺที่ถูกเกลียดชัง ได้แก่ การละหมาดบ่ายหลังวันศุกร์ การส่งเสียงดังหลังอะซาน ด้วยการเศาะละวาต และให้สลามแก่ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม)

สำหรับเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับโลกนี้ สิ่งที่ประดิษฐ์ต่างๆ และอื่นๆนั้น มันก็ไม่ได้เข้ามาอยู่ในอุตริกรรมต่างๆของศาสนา

ท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า
"ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด ในเรื่องราวของโลกนี้ของท่านทั้งหลาย" (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม)



والله أعلم بالصواب



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น