อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

ร่างของฟาโรห์ เป็นสัญญาณแก่ชนรุ่นหลัง




หนึ่งในคำทำนายที่น่าทึ่งที่สุดของคัมภีร์อัลกุรอานเกี่ยวกับฟาโรห์แห่งอียิปต์ ซึ่งถูกเรียกว่าเมอร์เนพตาห์ ผู้เป็นลูกชายของรามเสสที่ 2 ตามบันทึกประวัติศาสตร์ กษัตริย์ผู้นี้จมน้ำตายจากการติดตามไล่ล่าโมเสส (นบีมูซา อะลัยฮิสลาม) ในทะเลแดง เมื่อคัมภีร์อัลกุรอานถูกประทานมา แหล่งอ้างอิงเพียงแหล่งเดียวที่พูดถึงการจมน้ำตายของเขาก็คือ คัมภีร์ไบเบิลฉบับอพยพที่กล่าวว่า : "และน้ำได้กลับมาท่วมทับรถศึกและทหารม้า และไพร่พลของฟาโรห์ทั้งหมดที่ตามพวกเขาไปในทะเลแดงจนแทบไม่มีใครเหลือ"

ในขณะที่เรื่องดังกล่าวนี้คือทั้งหมดที่โลกรู้เกี่ยวกับจมน้ำของฟาโรห์ แต่คัมภีร์อัลกุรอานได้เปิดเผยเรื่องนี้ไว้เมื่อ 1,400 กว่าปีมาแล้ว ในซูเราะฮฺยูนุส เช่น :

อายะฮฺที่ 83 : "ไม่มีใครศรัทธาต่อมูซา นอกจากลูกหลานบางคนจากกลุ่มชนของเขา (บะนีอิสรออีล) เนื่องจากความกลัวต่อฟิรเอาน์ และหัวหน้าของพวกเขา จะทำความวุ่นวายแก่พวกเขา และแท้จริงฟิรเอาน์นั้นเป็นเป็นผู้หยิ่งผยองในแผ่นดิน และแท้จริงเขาอยู่ในหมู่ผู้ละเมิด"

อายะฮฺที่ 84 : "และมูซากล่าวว่า “โอ้กลุ่มชนของฉัน! หากพวกท่านศรัทธาต่ออัลลอฮ์ พวกท่านก็จงมอบหมายต่อพระองค์ หากพสกท่านเป็นผู้ยอมจำนน"

อายะฮฺที่ 88 : "และมูซาได้กล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าของเรา แท้จริงพระองค์ทรงประทานความสำราญและทรัพย์สิน แก่ฟิรเอาน์และหัวหน้าของเขา ในการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ข้าแต่พระเจ้าของเรา โดยพวกเขาจะทำให้(กลุ่มชน) หลงจากแนวทางของพระองค์(*2*) ข้าแต่พระเจ้าของเรา ขอพระองค์ทรงทำลายทรัพย์สินของพวกเขา และทรงโปรดทำให้หัวใจของพวกเขาแข็งกระด้าง เพื่อมิให้พวกเขาศรัทธา จนกว่าพวกเขาจะเห็นการลงโทษอย่างเจ็บปวด”

อายะฮฺที่ 89 : "พระองค์ตรัสว่า “การวิงวอนของเจ้าทั้งสองถูกรับแล้ว เจ้าทั้งสองจงดำเนินตามแนวทางที่เที่ยงธรรม และอย่าปฏิบัติตามแนวทางของบรรดาผู้ไม่รู้"

อายะฮฺที่ 90 : "และเราได้ให้บะนีอิสรออีลข้ามทะเลพ้นไป ดังนั้น ฟิรเอาน์และพลพรรคของเขาได้ติดตามพวกเขา (บะนีอิสรออีล) ไปโดยอธรรมและเป็นศัตรู จนกระทั่งเมื่อการจมน้ำมาถึงเขาแล้ว เขากล่าวว่า “ฉันศรัทธาแล้วว่า แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากผู้ซึ่งบะนีอิสรออีลได้ศรัทธาต่อพระองค์ และฉันคือคนหนึ่งในหมู่ผู้นอบน้อม”

อายะฮฺที่ 92 : "ดังนั้น วันนี้เราจะให้ร่างของเจ้าออกจากทะเล เพื่อจักได้เป็นสัญญาณแก่ชนรุ่นหลังจากเจ้า และแท้จริงส่วนใหญ่ของมนุษย์เฉยเมยต่อสัญญาณต่างๆ ของเรา"

ดังนั้น ... ซากของเขาได้ถูกเก็บรักษาไว้ โดยเจตนารมณ์ของอัลลอฮฺ ให้พ้นจากการถูกทำลายเพื่อเป็นสัญญาณสำหรับมนุษย์

------------------

อ้างอิง : หนังสือ "คัมภีร์กุรอาน สิ่งมหัศจรรย์ตลอดกาล"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น