อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

ผู้ใดประดิษฐ์สิ่งใหม่ในศาสนาย่อมถูกปฏิเสธ


การกระทำใดไม่ได้เป็นไปเพื่ออัลลอฮฺ ผู้กระทำก็ย่อมไม่ได้รับผลตอบแทน ผู้กระทำโดยไม่เป็นไปตามบัญชาของอัลลอฮฺและรสูลของพระองค์ ก็ย่อมไม่ถูกตอบรับเช่นเดียวกัน ผู้ใดที่ประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใดที่อัลลอฮฺและรสูลของพระองค์ไม่อนุญาตในเรื่องศาสนานั้น ก็ย่อมไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอิสลาม

ผู้ใดคิดค้นสิ่งที่ไม่มีรากฐานทางศาสนาใดๆ สนับสนุนเอาไว้ย่อมไม่ถูกพิจารณา ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนาย่อมต้องมีหลักฐานรองรับ สิ่งที่ต้องอ้างหลักฐานนั้น ก็เพื่อยืนยันสถานะหรือไม่ก็ปฏิเสธสถานะของสิ่งนั้นๆ

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ (ร่อฎียัลลอฮุอันฮา) เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) กล่าวว่า
ผู้ใดประดิษสิ่งใหม่ขึ้นในศาสนาของเรานี้ อันเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคำสอนในศาสนา สิ่งนั้นถูกปฏิเสธ

ในรายงานของอิมามมุสลิม ใช้ถ้อยคำว่า
ผู้ใดกระทำสิ่งใดที่ไม่อยู่ในพื้นฐานศาสนาของเรา สิ่งนั้นถูกปฏิเสธ (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัลบุคอรีย์ และมุสลิม)

ผู้ใดประดิษฐ์สิ่งใดด้วยตนเองในเรื่องศาสนา อันเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของคำสอนในศาสนา คือมันค้านกับคำสอนและไม่มีรากฐานใดๆมาอ้างอิงหรือสนับสนุน สิ่งนั้นย่อมถูกปฏิเสธ  การทำสิ่งใดโดยคิดเอาเองว่าเป็นสิ่งที่ทำเพื่ออัลลอฮฺตะอาลา ทั้งๆที่อัลลอฮฺและรสูลไม่ได้นับการกระทำนั้นเป็นงานดีที่จะนำเสนอต่อพระองค์ได้ หรือการกระทำนั้นอาจถูกห้ามเอาไว้ชัดเจนแล้ว อันเป็นกระทำที่ค้านกับบทบัญญัติ และอ้างว่านั่นคืออิบาดะฮฺที่เขาทำเพื่ออัลลอฮฺตะอาลา

การกระทำของทุกๆคนย่อมต้องอยู่ภายข้อตัดสินทางบทบัญญัติ โดยใช้มันเป็นตัวตัดสินทั้งคำใช้ คำห้าม ผู้ใดที่การกระทำดำเนินอยู่ในขอบเขตและตรงกับกฎของอัลลอฮฺ มันถูกยอมรับ อะไรที่ออกไปจากนั้นถูกปฏิเสธ
และผู้ที่กระทำงานที่ถูกปฏิเสธนั้น อาจไม่ใช่ผู้คิดประดิษฐ์มันขึ้นมาเอง แต่อาจทำตามผู้อื่นนั้นด้วย

ท่านอิมามอันนะวะวีย์กล่าวว่า
ประโยชน์ที่ได้รับจากรายงานของอิมามมุสลิมในอีกสำนวนก็คือ สำนวนแรกนั้นบ่งบอกในทำนองว่าใครเป็นผู้คิดค้นมา การกระทำของเขาผู้นั้นถูกปฏิสธและเขาได้รับโทษ ขณะที่ผู้กระทำตามในแบบเดียวกันอาจอ้างว่า ตัวเขาไม่ได้เป็นผู้คิดค้นประดิษขึ้น เขาเพียงทำตามเท่านั้น ถึงตรงนี้ให้ใช้สำนวนของอิมามมุสลิมตอบโต้เขา เพราะมีสำนวนชัดเจนว่าผู้ที่กระทำงานที่ถูกปฏิเสธนั่นอาจไม่ใช่ผู้คิดประดิษฐ์มันขึ้นมาเองก็เป็นได้

والله أعلم بالصواب





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น