รายงานท่านอบู ญุซุฟ ได้บันทึกไว้ในหนังสือ “อัลเคาะรอจฺญ์ของท่าน ว่า
: ครั้งหนึ่ง ท่านอุมัร อิบนุ อัลคอฏฏ็อบ ร่อฎยัลลอฮุอันฮุมา ได้ผ่านไปยังประตูบ้านของชนกลุ่มหนึ่ง
ณ ที่ประตูบ้านนั้นมีชายขอทานคนหนึ่งกำลังขอทานอยู่
ปรากฏว่าเขาเป็นชายชราและตาบอด
ท่านอุมัรฺ จึงได้ตีไปยังท่อนแขนของชายผู้นั้นจากเบื้องหลัง และพลางกล่าวว่า
; ท่านมาจากชาวคัมภีร์กลุ่มใด?
ชาววณิพกผู้นั้นตอบว่า : ยะฮูดีย์ (เป็นชาวยิว)
ท่านอุมัรฺ ถามต่อว่า : อะไรที่ทำให้ท่านต้องหันมามีสภาพเช่นสิ่งที่ฉันเห็นอยู่นี้ ? (คือเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องอดทนกับความลำบาก และจำต้องขอทาน)
ชายชราตอบว่า : ฉันกำลังขอเงินค่าส่วย(ญิซยะห์) ปัยจัยยังชีพที่จำเป็นและอายุขัย
เมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้น ท่านอุมัร จึงได้นำชายชราผู้นั้นไปยังบ้านของท่าน
และมอบสิ่งของภายในบ้านของท่านให้แก่ชายผู้นั้นจำนวนหนึ่ง
ต่อมาท่านได้ส่งคนไปแจ้งเจ้าหน้าที่การคลัง (บัยตุ้ลม้าล) ว่า
; ท่านจงดูแลบุคคลผู้นี้ และกลุ่มคนที่เหมือนกับเขา ขอสาบานต่อพระองค์อัลลอฮฺ
เราย่อมไม่ให้ความเป็นธรรมแก่บุคคลเช่นนี้
หากว่าได้กินความหนุ่มของเขา (เก็บส่วยหรือภาษีในช่วงที่เขายังเป็นหนุ่มฉกรรจ์)
แล้วต่อมาเราได้ทำให้เขาอดสูเมื่อยามชราภาพ
อันที่จริงทรัพย์บริจาคนั้นเป็นสิทธิของผู้ขัดสนและคนยากจน
และชายผู้นี้เป็นผู้ขัดสนจากชาวคัมภีร์” (จาก “ตัรฺบิยะตุ้ลเอาลาด 1/142)
..........................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น