อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กลุ่มชนผู้ตามแนวทางบรรพชนยุคแรก(สลัฟ)



                  นับจากท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บรรดาเศาะหาบะฮฺ และตลอดมาถึงบรรดาตาบีอีน และตาบีอิต-ตาบีน ที่ปฏิบัติตามแนวทางของพวกเขาด้วยดี ดังกล่าวทั้งหมดล้วนอยู่ในฐานะบรรพชนยุคต้น หรือที่เรียกว่า “สะลัฟ”ของอุมมะฮฺทั้งสิ้น ซึ่งในบรรดาผู้นำหรือบุคคลสำคัญที่ถูกยอมรับในเกียรติ ความเคร่งครัดต่อสุนนะฮฺ เป็นผู้นำเรื่องสุนนะฮฺ หลีกห่างและปลีกตัวออกจากบิดอะฮฺ และยังรวมถึงบุคคลที่ป่วงมุสลิม(อุมมะฮฺ)ทั้งหลายต่างยอมรับหรือเห็นพ้องกันในภาวะเป็นผู้นำ และฐานะอันสูงส่งทางศาสนาของพวกเขา ด้วยเหตุนี้บรรดาชนยุคต้นเหล่านั้นจึงถูกเรียกว่า “อัส-สะละฟุศ-ศอและห์” และแน่นอนผู้ที่อยู่ในฐานะอิมามหรือผู้นำของบรรดาชาวอัสสะละฟุศศอและห์ ทั้งหลายก็คือท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า

وَالسَّابِقُونَ الْأَوَّلُونَ مِنَ الْمُهَاجِرِينَ وَالْأَنصَارِ وَالَّذِينَ اتَّبَعُوهُم بِإِحْسَانٍ رَّضِيَ اللَّهُ عَنْهُمْ وَرَضُوا عَنْهُ وَأَعَدَّ لَهُمْ جَنَّاتٍ تَجْرِي تَحْتَهَا الْأَنْهَارُ خَالِدِينَ فِيهَا أَبَدًا ذَٰلِكَ الْفَوْزُ الْعَظِيمُ ( 100 ) อัต-เตาบะฮฺ - Ayaa 100

"บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่ผู้อพยพ(ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮ์) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ(ชาวอันศัอรจากมะดีนะฮ์) และบรรดาผู้ดำเนินตามพวกเขาด้วยการทำดีนั้น อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย และพระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่างพวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาลนั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง"
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัต-เตาบะฮฺ 9:100)

ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“มนุษย์ที่ดีที่สุดคือ (มุสลิมใน)ศตวรรษของฉัน หลังจากนั้น คือ ผู้ที่อยู่ (ในศตวรรษ) ต่อมาหลังจากนั้นคือผู้ที่อยู่(ในศตวรรษ)ต่อมา” (บันทึกโดยอิมามบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม)

และทุกคนที่เรียกร้องเชิญชวนไปสู่แนวทางเดียวกับสิ่งที่ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม บรรดาเศาหาบะฮฺ และบรรดาผู้เจริญรอยตามเคยได้เรียกร้องเชิญชวนเอาไว้เขาเหล่านั้นย่อมถือว่าอยู่ในแนวทางทางสะลัฟเช่นกัน

ฉะนั้นข้อจำกัดทางกาลเวลาจึงไม่มีผลอันใดในเรื่องดังกล่าว แต่เงื่อนไขสำคัญก็คือ ต้องมีความสอดคล้องตรงกันกับกิตาบุลลอฮฺ และอัสสุนนะฮฺ ทั้งในเรื่องอะกีดะฮฺ บทบัญญัติ(หุก่ม) ต่างๆ และวิถีประพฤติปฏิบัติตามที่ชาวสลัฟเข้าใจ ดังนั้นทุกคนที่ปฏิบัติสอดคล้องตรงกับกีตาบุลลอฮฺ และอัสสุนนะฮฺ เหล่านั้นก็คือผู้อยู่ในแนวทางของอัสสะลัฟ แม้นพวกเขาจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ในสถานที่ หรือช่วงเวลาเดียวกับชาวสลัฟ(ในอดีต) ส่วนผู้ใดที่ปฏิบัติแตกต่าง หรือขัดแย้งกับแนวทางของอัสสะลัฟ ก็ย่อมมิถูกยอมรับว่าเป็นพวกเดียวกัน แม้นจะมีชีวิตอยู่ร่วมสถานที่หรือสมัยเดียวกันก็ตาม


และความดีงามย่อมไม่มีวันขาดหายไปจากอุมมะฮฺนี้อย่างแน่นอน ย่อมยังมีกลุ่มหนึ่งที่ยังคงยึดมั่นอยู่กับทางนำและสัจธรรมแนวทางของบรรพชนยุคแรก จวบจนกระทั่งถึงวันกิยามะฮฺ

ดังที่ท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“จะยังคงมีอยู่พวกหนึ่งจากประชาชาติของฉัน ที่ชัดเจนอยู่บนสัจธรรม บรรดาผู้ทอดทิ้งพวกเขาไม่อาจทำอันตรายใดๆแก่พวกเขาได้ กระทั่งพระบัญชาของอัลลอฮฺจะทรงมีมา โดยพวกเขาก็ยัง(มั่นคง)อยู่เช่นนั้น” (บันทึกหะดิษโดยมุสลิม)

“อุปมาประชาชาติของฉัน อุปมัยดั่งน้ำฝนที่ไม่อาจทราบได้ว่าห่าแรกหรือห่าสุดท้ายของมันดีกว่ากัน” (บันทึกหะดิษโดยอิมามติรมีซีย์)

والله أعلم بالصواب
...................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น