อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เมื่อ อนัส บิน อันนัฎรฺ : สละชีพ



คนขายเครา : เขียน #
.....................................

อนัส บิน อันนัฎรฺ เสียใจและกล่าวตำหนิตนเองที่พลาดโอกาสแห่งเกียรติยศ คือการเข้าร่วมรบในสงครามบะดัรฺ ซึ่งเป็นสงครามครั้งแรกที่เลื่องชื่อในอิสลาม

ครั้นในปีต่อมา เขาได้เข้าร่วมนบในสงคราอุหุด เขาเริงร่ากระตือรือร้นที่จะนำร่างเข้าสู่สมรภูมิ วิญญาณกระหายอยากรบเพื่อผดุงอิสลาม จนทำให้ฝ่ายมุสลิมมีสถานะแห่งการได้เปรียบในการรบในช่วงแรก ๆ แห่งการทำสงคราม

ช่วงก่อนที่การรบจะสุดสิ้นและไดรับชัยชนะนั้น ทหารมุสลิมกลุ่มหนึ่งได้ละทิ้งพื้นที่ที่รับผิดชอบ เนื่องจากเข้าใจว่าการรบได้สุดสิ้นลง ศัตรูได้พ่ายแพ้หนีไปแล้ว เขาต่างลงมาจากยอดเขาสู่เชิงเขา เพื่อเกี่ยวเก็บทรัพย์เชลยและข้าศึกที่บาดเจ็บล้มตาย

การละทิ้งพื้นที่ ถือเป็นการขัดคำสั่งของศาสดาในฐานที่เป็นผู้นำรบ เพราะท่านยังมิได้ออกคำสั่งให้ทำการสิ่งหนึ่งสิ่งใด

ทุกคนต้องรอคำสั่ง แต่เขากลับกล่าวอ้างว่า การรบได้สิ้นสุดลงแล้ว และทัพมุสลิมได้รับชัยชนะแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งจากท่านศาสดาอีก

แม้นว่าศัตรูจะอยู่ในสภาวะแห่งการพ่ายแพ้ แต่เมื่อเห็นช่องว่างของมุสลิม ที่เปิดพื้นที่บนยอดเขาสูง ศัตรูจึงใช้ช่องว่างเป็นกลยุทธ์ตีโอบกลับด้านหลังของกองทัพมุสลิมที่อยู่ริมเชิงเนินเขา รุกตลบหลังจนกองทัพมุสลิมอยู่ในวงล้อมของข้าศึก

ทหารมุสลิม ล้วนต่างตื่นตระหนก กระจายหนีไปคนละทิศละทาง ในขณะที่ท่านอนัส บิน อันนัฎรฺ ได้ร้องตะโกนว่า

“ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา ฉันได้กลิ่นไอของสวนสวรรค์โชยมาจากภูเขาอูหุด”

เขาทะยานใส่ข้าศึกศัตรูอิสลาม ต่อสู้อย่างทรหดอดทน ร่างกายเขาเต็มไปด้วยแผลจากลูกธนู และดาบไม่ต่ำกว่าแปดสิบแผล ไม่มีใครจำศพเขาได้ นอกเสียจากน้องสาวที่จำนิ้วมือเขาได้

>>> ข้อคิด : อนัส ผู้มีหัวใจที่บริสุทธิ์ ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและดิ้นรนต่อสู้ในหนทางแห่งอัลลอฮฺ ตะอาลา เขาได้กลิ่นไอสรวงสวรรค์ ผู้ที่มีลักษณะเช่นเดียวกันนี้ เขาย่อมเป็นผู้ที่ได้รับกลิ่นไปจากสรวงสวรรค์ในโลกดุนยา เช่นเดียวกันกับอนัส อย่างแน่นอน : และนี่คือหนึ่งในการยืนหยัดเพื่ออิสลาม

..................................
(จากหนังสือ : สหายสนิทศาสดา)

อดทน เพื่อชัยชนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น