อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข้อชี้ขาด(หุก่ม)การทำกุรบานหรืออัลอุฎฮียะฮฺ


  الأضحية


        การทำกุรฺบาน หรือการเชือดอุฎฮียะฮฺ  นั้น   เป็นซุนนะฮฺมุอักกะดะฮฺ(สงเสริมและเน้นหนักให้กระทำ) ซึ่งมีหะดีษที่บันทึกโดยอีหม่ามบุคคอรีย์  และมุสลิมว่าแท้จริงท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม   ได้ทำอุฎฮียะฮฺ  ด้วยกับแกะสีเทา  ที่มีเขาครบสมบูรณ์  ท่านได้เชือดมันด้วยตัวเองโดยท่านกล่าวบิสมิลลา  อัลลอฮฮุอักบัร
        ในบันทึกของอีหม่ามมุสลิม รายงานจาก  อุมมิสะลามะฮฺ  แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า

إذا رأيتم هلال ذي الحجة وأراد احدكم يضحي فليمسك عن شعره وأظفاره

ความมว่า  “เมื่อพวกท่านเห็นเดือนเสี้ยวของเดือน  ซุลอิญยะฮฺและคนหนึ่งคนใดในพวกท่านปรารถนาเชือดสัตว์พลีแล้วละก็เขาจงงดการตัดผมและตัดเล็บของเขา” (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม เลขที่ 3655)

       หะดิษข้างต้นระบุชัดว่าการทำกุรฺบานไม่ใช่วาญิบ เพราะท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ใช้สำนวนของหะดิษว่า "ปรารถนา" นั้นหมายรวมว่า มุสลิมคนใดปรารถนาทำกุรบานเมื่อเข้าเดือนซุลหิจญะฮฺก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคลเท่านั้น แต่ไม่ใช่วาญิบสำหรับมุสลิมทุกคนจะต้องกระทำ  เฉกเช่นท่านอบูบักรฺ และท่านอุมัรฺที่ละเว้นการทำกุรฺบาน เพื่อทำให้ผู้คนทั้งหลาย เห็นว่าการทำกุรบานไม่ใช่วาญิบ

แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้การทำกุรบานไม่เป็นวาญิบ แต่ศาสนาส่งเสริมสำหรับผู้ที่มีความสามารถทำกุรฺบานได้ให้ทำกุรฺบาน

รายงานจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
"บุคคลใดที่พบกับความกว้างขวาง (เกี่ยวกับทรัพย์สิน) แล้วเขาไม่ทำกุรฺบาน เช่นนี้เขาจงอย่าเข้าใกล้สถานที่ละหมาด(วันอีด)ของฉัน" (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด เลขที่ 7924 หะดิษมีสถานะหะซัน)

ท่านอีหม่าม ซาฟีอี ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า "ไม่มีการผ่อนผันให้ละทิ้งการทำกุรบาน สำหรับบุคคลที่มีความสามารถในการเชือดสัตว์กุรบาน" และเป้าหมายจากคำของอีหม่าม ซาฟีอี ถือว่าไม่สมควรละทิ้ง (มักรูฮ) สำหรับบุคคลที่มีความสามารถที่จะทำการเชือดกุรบาน ไม่ว่าเขาจะเป็นชาวชนบทหรือชาวเมือง หรือเป็นคนเดินทาง และไม่มีข้อจำกัดระหว่างผู้ที่ประกอบพิธีฮัจญ์"

กรณีกุรฺบาน(อุฎฮียะฮฺ)หุก่มเป็นวาญิบ(จำเป็น)

การบนบานที่จะเป็นวาญิบในกรณีต่อไปนี้
1-    กุรฺบานที่เกิดจากการบนบาน(นะซัรฺ)
รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮา เล่าว่า ท่านร่อซูล   ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า

ความว่า “ผู้ใดบนบานว่าจะภักดีต่ออัลลอฮฺ  เขาจงภักดีต่ออัลลอฮฺเถิด”(บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ เลขที่ 6202 เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)
เช่น การกล่าวว่า “หากฉันป่วย หรือสอบผ่านได้คราวนี้ ฉันจะเชือดวัวกุรฺบานหนึ่งตัว"

  และถึงแม้ว่าผู้บนบานจะเสียชีวิตไปก็อนุญาตให้ทายาททำแทนได้ในสิ่งที่เขาเจาะจงเอาไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

2-   การกล่าวแก่สัตว์ตัวหนึ่งว่า "ด้วยนามของอัลลอฮฺ สัตว์ตัวนี้เพื่ออัลลอฮฺ หรือสัตว์ตัวนี้ทำการอุฎฮียะฮฺ  (กุรบาน)"

เช่น การกล่าวสาบานต่อพระองค์อัลลอฮฺ ว่า วัลลอฮิ (ฉันขอสาบานต่ออัลลอฮฺ) วัวตัวนี้เป็นกุรบาน ดังนั้นวัวตัวนี้ต้องนำมาทำกุรฺบานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เมื่อสัตว์ที่ถูกอนุญาตให้ทำกุรฺบานถูกกล่าวด้วยสำนวนที่กล่าวมาข้างต้น สัตว์ตัวนั้นก็จำเป็นวาญิบจะต้องเชือดเพื่อทำกุรฺบานอย่างเดียว ไม่อนุญาตนำสัตว์นั้นไปกระทำโดยอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ การซื้อขาย การเชือดเป็นอากีเกาะฮฺก็ตาม

และไม่อนุญาตให้ผู้ทำกุรฺบานวาญิบรับประทานเนื้อกุรบานนั้น ต้องเศาะดะเกาะฮฺทั้งหมด แต่ห้ามบริจาคคนต่างศาสนิก เพราะสัตว์นั้นได้พลีถวายเพื่ออัลลอฮฺ

แต่สำหรับ ที่ผู้จะทำกุรฺบานมีเจตนานำสัตว์ตัวนั้นมาทำกุรบาน ในปีก่อน แต่ปรากฏว่าในปีก่อนนั้น สัตว์ที่จะเชือดทำกุรฺบานตัวนั้น อายุไม่ครบตามที่ศาสนาบัญญัติ จึงนำสัตว์ตัวนั้นมาทำกุรฺบานในปีนี้ ซึ่งอายุครบตามที่ศาสนาบัญญัติแล้ว ยังถือว่าเป็นเจตนาเพื่อนำสัตว์ตัวนั้นมาเชือดกุรฺบานซุนนะฮฺเท่านั้น ผู้ทำกุรบานจึงสามารถรับประทานเนื้อกุรบานตัวนั้นได้

والله أعلم بالصواب

........................


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น