อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เ สี ย ง สุ ด ท้ า ย


 لا إله إلا الله


แปลจากช่วงแรกของคุตบะฮฺเรื่อง ‘Regret’

โดย : มุฮัมมัด อัช-ชะรีฟ
http://www.kalamullah.com/regret.html

>>>>-------->

เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งในประเทศมุสลิมได้เขียนจดหมายมาหาชัยค์ท่านหนึ่ง เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาหันกลับเข้าหาอัลลอฮฺ โดยเขาเล่าว่า….

“การได้พบเห็นอุบัติเหตุบนท้องถนน และผู้คนที่ประสบภัยจากยานพาหนะนั้นเป็นเรื่องที่แสนจะปกติธรรมดาในชีวิตของผม แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแตกต่างออกไป

วันนั้น ผมและคู่หูนำรถไปจอดรถไว้บนไหล่ทางหลวงสายหนึ่งก่อนจะพูดคุยสัพเพเหระกัน แล้วในวินาทีหนึ่งวินาทีใดต่อมา เสียงอันชวนสยองของโลหะที่ถูกกระแทกก็แผดลั่น เราสองคนรีบหันกลับไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็พบว่ามันเป็นอุบัติเหตุการชนประสานงา ซึ่งเกิดจากรถคันหนึ่งแล่นไถลเข้าไปในเลนที่มีรถอีกคันกำลังแล่นสวนมา

เราคงไม่อาจจะอธิบายรายละเอียดของสภาพที่เราเห็นได้มากนัก ชายหนุ่มสองคนนอนแผ่หราอยู่ในรถคันแรก ทั้งสองคนอาการสาหัส ผมกับคู่หูจึงพยายามนำพวกเขาออกมาจากรถก่อนอย่างระมัดระวัง จากนั้นเรารีบไปยังรถอีกคันเพื่อช่วยเหลือคนขับที่ยังติดอยู่ภายใน ทว่าเขาตายเสียแล้ว เราจึงกลับมายังร่างของชายหนุ่มสองคนแรกที่นอนเคียงข้างกันอยู่บนทางเท้า

“ กล่าวลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺซิ…ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮฺ…” คู่หูของผมเริ่มบอกให้ทั้งสองกล่าวชะฮาดะฮฺ ทว่าลิ้นของพวกเขาไม่สามารถจะกล่าวตามได้ แล้วพวกเขาก็เริ่มฮัมเนื้อร้องของเพลงบางเพลงในสภาพที่เหมือนจะไม่รู้สึกตัว

ผมตัวชาด้วยความตกตะลึง แต่คู่หูของผมซึ่งเคยมีประสบการณ์ทำนองนี้มาแล้วยังคงกล่าวย้ำด้วยประโยคเดิม ผมยืนขึ้นแล้วจ้องมองนิ่งด้วยดวงตาที่แข็งค้าง ชั่วชีวิตที่ผ่านมา ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาก่อนเลย ความจริงแล้ว ผมไม่เคยเห็นใครตายไปต่อหน้าต่อตาด้วยซ้ำ และยิ่งไม่เคยพบเคยเห็นโดยสิ้นเชิง สำหรับการตายในหนทางอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้

คู่หูของผมยังคงไม่ละความพยายามที่จะให้ชายหนุ่มทั้งสองกล่าวชะฮาดะฮฺให้ได้ แต่พวกเขาก็ทำไม่ได้ เสียงฮัมเพลงของพวกเขาค่อย ๆ แผ่วเบาลง…แผ่วเบาลง… แล้วในที่สุดเสียงของชายหนุ่มคนแรกก็หยุดลง จากนั้นเสียงของอีกคนก็เงียบลงตามไปด้วย

ไม่มีความเคลื่อนไหวใดอีก พวกเขาตายแล้ว!

ผมกับคู่หูแบกร่างของพวกเขาเข้าไปในรถตรวจการของเรา ไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบระหว่างเราทั้งสองในขณะที่เคลื่อนย้ายศพไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด !”

.......................................................
 http://peenud.wordpress.com/page/7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น