อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การสดับฟังอัลกุรอาน




การสดับฟังและพินิจพิเคราะห์อัลกุรอานขณะที่ผู้อื่นอ่าน ท่านรสูลุลลอฮิ อะลัยฮิวะซัลลัม ได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่างไว้

รายงานจากท่านอิบนุ มัสอู๊ด ร่อียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮิ อะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวแก่ฉันว่า
“จงอ่านอัลกุรอานให้ฉันฟังเถิด ท่านอิบนุมัสอู๊ดกล่าวว่า : ท่านจะให้ฉันอ่านอัลกุรอานให้ท่านฟัง ทั้งๆที่อัลกุรอานถูกประทานแก่ท่านกระนั้นหรือ ท่านรสูลกล่าวว่า : ฉันอยากจะสดับฟังจากผู้อื่น และฉันก็อ่านสูเราะฮฺอันนิซาอฺให้ท่านรสูลจนถึงอายะที่ว่า “แล้วอย่างไรเล่า เมื่อเรานำพยานคนหนึ่ง จากแต่ละประชาชาติมา แล้วเราได้นำเจ้ามาเป็นพยานต่อชนเหล่านี้” ท่านรสูลกล่าวกับฉันว่า : พอแค่นี้ก่อน เมื่อฉันหันไปหาท่าน ฉันเห็นน้ำตาของท่านกำลังไหลออกมา” (บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ และมุสลิม)

ท่านอิมามอันนะวะวีย์ ร่อหิมะฮุลลอฮฺ ไดกล่าวไว้ในหนังสือ “ชัรอุมุสลิม” ขณะที่อธิบายหะดิษนี้ว่า : ในหะดิษนีมีประโยชน์หลายประการ ส่วนหนึ่งก็คือ
1. ชอบให้ฟังอัลกุรอานจากผู้อื่น และสดับฟังขณะที่ผู้นั้นอ่าน
2. ชอบให้ร้องไห้ขณะที่สดับฟังอัลกุรอาน
3. ชอบให้พินิจพิจารณาอัลกุรอานขระที่ผู้อื่นอ่าน (เมื่อผู้สดับฟังนั้นรู้ความหมาย เขาย่อมพลังในด้านการพิจาณายิ่งกว่าผู้ที่กำลังอ่าน)
4. ในหะดิษนี้ชี้ให้เห็นถึงความถ่อมตน ซึ่งสมควรสำหรับผู้ที่มีความรู้ต้องมีลักษณะเช่นนี้ และชอบให้ผู้มีความรู้ลักษณะเช่นนี้ต่อผู้เป็นศิษย์และผู้ติดตาม”


..................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น