อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ไม่มีละหมาดใดๆก่อนหรือหลังละหมาดอีด



ละหมาดอีดทั้งสองนั้น ไม่มีละหมาดใดๆก่อนหรือหลังละหมาดอีด โดยมีหลักฐานยืนยันว่าท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น ไม่ได้ละหมาดใดๆก่อนหรือหลังละหมาดอีดนั้นเลย

รายงานจากท่านอิบนุ อับบาส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า
“ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมออกไปละหมาดอีด 2 ร็อกอะฮฺโดยท่านไม่ได้ละหมาดใดๆก่อนหรือหลังละหมาด(อีด)” (บันทึกหะดิษโดยอิมามนะสาอีย์ เลขที่ 1587 เป็นหะดาเศาะเฮียะฮฺ)

นี้คือแบอย่างจากท่านนบีมุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งมีการละหมาดอีดที่มุศ็อลลาสนามละหมาด แต่บางพื้นที่ไม่มีการละหมาดอีดตามแบบอย่างท่านนบีที่มุศ็อลลา แต่กลับละหมาดอีดกันที่มัสยิด เมื่อละหมาดอีดที่มัสยิดเช่นนี้ ก็สามารถละหมาดตะหิยะตุลมัสยิดได้ เพราะทุกครั้งที่เข้ามัสยิดมีสุนนะฮฺให้ละหมาดตะฮิยาตุลมัสยิดก่อนนั่ง ซึ่งละหมาดข้างต้นไม่ใช่ละหมาดก่อนละหมาดอีด

والله أعلم بالصواب

.......................


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น