ไม่มีละหมาดใดที่ศาสนาได้สงเสริมสตรีและเด็กไปร่วมละหมาด เหมือนเช่นการละหมาดอีดทั้งสอง ที่มุศ็อลลา(المصلى ) หรือสนามละหมาด ไม่ว่าหญิงนั้นจะมีประจำเดือนหรือไม่ก็ตาม โดยให้สตรีที่มีประจำเดือนอยู่อีกที่หนึ่งใกล้ๆที่ละหมาด ให้พวกนางได้ร่วมรับฟังคุฏบะฮฺ ร่วมทำความดี อวยพรขอดุอาอ์ การบริจาคเศาะดะเกาะฮฺ ร่วมกับมุสลิมคนอื่นๆ
รายงานท่านอุมมุ อฏียะฮ์ที่นางได้กล่าวว่า :
’’ أمرنا ( تعني النبي صلى الله عليه وسلم ) أن نخرج في العيدين العواتق والحيض ، يشهدن الخير و دعوة المسلمين ، ويعتزل الحيض المصلى ‘‘
“ท่าน(หมายถึงนะบี )ได้ใช้ให้พวกเราพาเด็กๆและหญิงที่มีรอบเดือนไปร่วมละหมาดอีดกันทั้งสองอีด
เพื่อเขาเหล่านั้นจะได้มีส่วนร่วมในความดี และการร่วมขอพรของบรรดามุสลิมทั้งหลาย
และสตรีที่มีรอบเดือนนั้นควรจะออกห่างจากที่ทำละหมาด”
รายงานจากท่านอิบนุอับบาส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า
"ฉันได้มาร่วมกับท่านรสูลุลลอฮฺในวันอีดฟิฏริ และอีดิลอัฎฮา ท่านนบีละหมาดอีด จากนั้นก็คุฏบะฮฺ จากนั้น ท่านรสูลก็หันมายังมุสลิมะฮฺโดยอบรมพวกนาง และใช้ให้พวกนางทำเศาะดะเกาะฮฺ" (บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ เลขที่ 922 เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)แต่ปัจจุบันบางพื้นที่กลับทำตรงกันข้ามกับสุนนะฮฺของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ยอมไปร่วมละหมาดอีดกันที่มุศ็อลลา กลับพากันมาละหมาดที่มัสยิด ทั้งที่ไม่อุปสรรคใดๆ ไม่ยอมให้สตรีที่มีรอบเดือนไปร่วมละหมาดอีด และเนื่องจากการที่ไม่ไปร่วมละหมาดกันที่มุศ็อลลา จึงเกิดอุปสรรคที่สตรีมีรอบเดือนจะมาร่วมละหมาดอีดได้ เพราะเมื่อมีการละหมาดอีดที่มัสยิด ก็เป็นที่ต้องห้ามให้สตรีมีรอบเดือนนั่งพักในมัสยิดได้
จึงเห็นควรฟืนฟูสุนนะฮฺด้วยการไปร่วมละหมาดอีดกันที่มุศ็อลลา และเชิญชวนสตรี (แม้ว่านางมีรอบเดือน) เด็ก และคนแก่ชราไปร่วมละหมาดอีดกัน เหมือนดั่งเช่นที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเคยปฏิบัติมันไว้เป็นแบบอย่าง...
والله أعلم بالصواب
....................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น