อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ศาสนาส่งเสริมให้สตรีและเด็กไปร่วมละหมาดอีดทั้งสอง

 

ไม่มีละหมาดใดที่ศาสนาได้สงเสริมสตรีและเด็กไปร่วมละหมาด เหมือนเช่นการละหมาดอีดทั้งสอง ที่มุศ็อลลา(المصلى ) หรือสนามละหมาด ไม่ว่าหญิงนั้นจะมีประจำเดือนหรือไม่ก็ตาม โดยให้สตรีที่มีประจำเดือนอยู่อีกที่หนึ่งใกล้ๆที่ละหมาด ให้พวกนางได้ร่วมรับฟังคุฏบะฮฺ ร่วมทำความดี อวยพรขอดุอาอ์ การบริจาคเศาะดะเกาะฮฺ ร่วมกับมุสลิมคนอื่นๆ

รายงานท่านอุมมุ อฏียะฮ์ที่นางได้กล่าวว่า :

 ’’ أمرنا ( تعني النبي صلى الله عليه وسلم ) أن نخرج في العيدين العواتق والحيض ، يشهدن الخير و دعوة المسلمين ، ويعتزل الحيض المصلى ‘‘

“ท่าน(หมายถึงนะบี  )ได้ใช้ให้พวกเราพาเด็กๆและหญิงที่มีรอบเดือนไปร่วมละหมาดอีดกันทั้งสองอีด

เพื่อเขาเหล่านั้นจะได้มีส่วนร่วมในความดี และการร่วมขอพรของบรรดามุสลิมทั้งหลาย

และสตรีที่มีรอบเดือนนั้นควรจะออกห่างจากที่ทำละหมาด”

รายงานจากท่านอิบนุอับบาส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ เล่าว่า
 "ฉันได้มาร่วมกับท่านรสูลุลลอฮฺในวันอีดฟิฏริ และอีดิลอัฎฮา ท่านนบีละหมาดอีด จากนั้นก็คุฏบะฮฺ จากนั้น ท่านรสูลก็หันมายังมุสลิมะฮฺโดยอบรมพวกนาง และใช้ให้พวกนางทำเศาะดะเกาะฮฺ" (บันทึกหะดิษโดยอิมามบุคอรีย์ เลขที่ 922 เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)
แต่ปัจจุบันบางพื้นที่กลับทำตรงกันข้ามกับสุนนะฮฺของท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่ยอมไปร่วมละหมาดอีดกันที่มุศ็อลลา กลับพากันมาละหมาดที่มัสยิด ทั้งที่ไม่อุปสรรคใดๆ ไม่ยอมให้สตรีที่มีรอบเดือนไปร่วมละหมาดอีด และเนื่องจากการที่ไม่ไปร่วมละหมาดกันที่มุศ็อลลา จึงเกิดอุปสรรคที่สตรีมีรอบเดือนจะมาร่วมละหมาดอีดได้ เพราะเมื่อมีการละหมาดอีดที่มัสยิด ก็เป็นที่ต้องห้ามให้สตรีมีรอบเดือนนั่งพักในมัสยิดได้

จึงเห็นควรฟืนฟูสุนนะฮฺด้วยการไปร่วมละหมาดอีดกันที่มุศ็อลลา และเชิญชวนสตรี (แม้ว่านางมีรอบเดือน) เด็ก และคนแก่ชราไปร่วมละหมาดอีดกัน เหมือนดั่งเช่นที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมเคยปฏิบัติมันไว้เป็นแบบอย่าง...


والله أعلم بالصواب

....................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น