อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

วินาทีสุดท้าย...ที่ทุกคนต้องเจอ



ถ้าเราคนหนึ่งที่นอนรอความตาย เพื่อจะก้าวออกจากชีวิตแห่งโลกนี้ และ
จะไปสู่ประตูชีวิตแห่งโลกหน้า ท่านคนหนึ่งที่เคยหายใจปกติ แต่ทำไมวันนี้การหายใจ
จึงลำบากเหลือเกิน ข้าง ๆ กายของท่านในวันนั้นเต็มไปด้วยญาติพี่น้อง พวกเขามาทำอะไรกัน พวก
เขามาด้วยกับความรัก ด้วยกับความสัมพันธ์ที่เคยมีอยู่ ด้วยความห่วงใย และพวกเขามาเพื่อที่
จะเยี่ยมท่านเป็นครั้งสุดท้าย

ท่านคิดหรือไม่ว่า หัวอกของคนที่เป็นลูกที่กำลังจะสูญเสียคุณพ่อไป ความรู้สึกของเขาจะ
เป็นอย่างไร? แล้วความรู้สึกของภรรยาล่ะคนที่เคยอยู่เคียงบ่าเตียงไหล่กันมา แต่มาวันนี้ต้องมาจาก
กัน หัวใจของเขาจะต้องแบกรับกับความรู้สึกอันนี้อีกนานเท่าไหร่?
วันนั้นเป็นวันที่ลิ้นของท่านไม่สามารถพูดได้อีก วันนั้นท่านคงอยากจะทำอะไรต่อมิอะไร แต่ไม่
สามารถกระทำมันได้ เพราะเวลาของท่านมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว และอีกไม่กี่นาทีท่านก็จะ
ต้องกลับไปสู่ความเมตตาของพระองค์อัลลอฮฺแล้ว ไม่ดีหรือว่าสิ่งที่ท่านอยากทำในวันนั้น
ท่านจงทำเสียแต่วันนี้ สิ่งที่ท่านอยากจะพูดในวันนั้น จะดีกว่าไหมถ้าท่านสามารถพูด
ในวันนี้ท่านก็จงพูดเถิด

แน่นอนการเป็นอยู่ของเราในวันนี้ย่อมมีความหวัง และผู้ที่มีอีหม่านต่ออัลลอฮฺ พวกเขาเหล่านั้น
ต้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยกับการยำเกรงต่ออัลลอฮฺ มาเถิดมาทำในสิ่งที่อัลลอฮฺทรงใช้และละเว้น
จากสิ่งที่อัลลอฮฺทรงห้าม จงสำนึกผิดในวันนี้และจงหลั่งน้ำตาเถิด "เพราะน้ำตาแห่ง
ความหวังคือการอภัยโทษจากพระองค์อัลลอฮฺ "

และยิ่งไปกว่านััน เดือนเราะมะฎอนเป็นเดือนที่ผู้ศรัทธาต้องการแสวงหาความพึงพอพระทัย
จากพระองค์อัลลอฮฺ และเป็นเดือนที่แก้มของผู้ที่ยำเกรงต้องมีรอยน้ำตา
เพราะผู้ที่อีหม่านอย่างแท้จริง เขามองตัวเองว่าเขานั้นมีความผิด แต่ตรงกันข้าม
กับ ผู้ที่ขาดศรัทธาถึงแม้ว่าเขาทำบาปสักขนาดไหน เขาจะไม่เห็นความผิด เขาจะไม่สำนึกว่าเขา
จะมีบาปแค่ไหน นี่คือสภาพผู้ที่ขาดศรัทธา

เราเคยได้ยินไหมว่า "เดือนเราะมะฎอนปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายของเราก็ได้" ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เรา
จะต้องใช้เวลาที่เหลือของเดือนนี้ไปอย่างไร เราจะปล่อยให้มันผ่านไปโดยที่เราไม่
ได้ทำอะไรเลยกระนั้นหรือ?! สำหรับผู้ที่ศรัทธาต่อวันแห่งการสอบสวน พวกเขาจะขวนขวายและ
จะแสวงหาซึ่งความพึงพอพระทัยจากพระองค์อัลลอฮฺ เขาจะไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่เขามิ
ได้รำลึกถึงอัลลอฮฺ นี้นับเป็นโอกาสดีสำหรับเขาเราแล้วที่อัลลอฮฺทรงไว้ชีวิตเราให้อยู่
ถึงเดือนเราะมะฎอนปีนี้

รายงานจากอิบนิอับบาส (เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ) ได้กล่าวว่า "ท่านเราะซู้ล (
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) นั้น ใจบุญที่สุดในหมู่มนุษย์ และปรากฏว่า ท่านจะใจบุญที่สุด
ในเดือนเราะมะฎอน ขณะที่ญิบรีลมาหาท่าน เขาจะมาพบท่านนบี
เป็นประจำทุกคืนของเดือนเราะมะฎอน แล้วเขาจะอ่านอัลกุรอานกับท่านนบี และแน่นอน
ท่านเราะซู้ล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) นั้น รีบทำความดี (เร็ว) ยิ่งกว่าลมเสียอีก"
(((ความหวังจะอยู่ตราบยังมีลมหายใจ ถ้ายังมีลมหายใจ จะต้องไม่มีคำว่ายอมแพ้ เธออย่าดูถูกตัวเอง
อย่ามองข้ามคุณค่าของตัวเธอเอง เพราะเธอคือเพชรเม็ดที่งามที่สุด)))

ห า ก ท่ า น อ ย า ก ร้ อ ง ไ ห้
จ ง ร้ อ ง ไ ห้ อ ย่ า ง ศรัทธาชน
ห า ก ท่ า น อ ย า ก จ ะ ตาย
จ ง ต า ย ด้ ว ย ร า ง วั ล แ ห่ ง สรวงสวรรค์...(ของอัลลอฮ)
((( น้ำตาที่บริสุทธิ์ คือ เกราะกำบังจากไฟนรก )))

เมื่อมนุษย์คนหนึ่งทำบาป จุดดำจุดหนึ่งจะเกิดขึ้นในหัวใจของเขา แต่เมื่อเขาสำนึกผิด มันก็
จะถูกชำระล้างไป ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นเช่นนั้น จุดดำก็จะคงอยู่ต่อไป

<< จงดุอาอ์ขอต่ออัลลอฮฺ ด้วยกับความบริสุทธิ์ใจ

................................................
สายลม ดาวูด แห่งความห่วงใย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น