เรื่องเล่าจากคุณแม่ท่านหนึ่ง
"ดอกกุหลาบสีม่วง"
เคยสังเกตไหมว่า...เวลาเราเดินชนคนแปลกหน้า
คุณจะเอ่ย “ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ” ในทันทีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
และคนที่คุณชนก็จะตอบกลับมาว่า “ขออภัย ฉันเองไม่ทันเห็นคุณเช่นกัน”
ดูเหมือนว่าจะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่มีมารยาทในสังคมทุกหนทุกแห่ง แต่... "หากเรากลับมามองดูคนที่เราคุ้นเคย.. คนที่อยู่กับเราทุกวัน...
คนที่รักเรา.. คนที่ห่วงเรา.. คนที่คอยดูแลเราอยู่เสมอ.."
พวกเรามักไม่ค่อยจะสุภาพ และขาดความเข้าใจ กับบุคคลเหล่านี้เสมอมา หากคุณทั้งหลายกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ หรือนึกไม่ออก และอาจไม่เชื่อว่าสิ่งที่ผมพูดข้างต้นนี้เป็นความจริง
ผมอยากจะเล่าเรื่องๆ หนึ่งให้ฟัง ผมขอให้ชื่อว่า "ดอกกุหลาบสีม่วง"
เป็นเรื่องราวของหญิงผู้เป็นแม่กับลูกสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
เรามาฟังคุณแม่ท่านนี้เล่าเรื่องสั้นๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิดกันเถอะครับ
>>>> "ดอกกุหลาบสีม่วง" <<<<<
ที่บ้านเย็นวันนั้น ฉันทำอาหารอยู่ในครัว ลูกสาวตัวน้อยแอบมายืนข้างหลัง ไม่ทันระวัง ฉันหันกลับมาชนเธอล้มลง!!
"อย่ามายืนเกะกะ" ฉันดุใส่.. ลูกสาวเดินจากไป ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว
คืนนั้นฉันได้ยินเสียงกระซิบจากเบื้องลึกของหัวใจว่า...
"กับคนแปลกหน้าเจ้าสุภาพได้ กับลูกรักชิดใกล้ ทำไมทำได้ลงคอ
ดูที่พื้นครัวสิ ดอกกุหลาบหลากสีที่ลูกอุตส่าห์เก็บมา หวังให้เจ้าแปลกใจ
ตกเกลื่อนอยู่ทั่วไป น้ำตาเธอไหล เหตุใดไม่แลเห็น"
ฉันเพิ่งรู้ตัว เลยค่อยๆ ย่องเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างเตียงลูก
"ตื่นเถิดคนดี ดอกกุหลาบนี้ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"
"ใช่ค่ะ หนูเห็นดอกกุหลาบบานสวยงามเหมือนคุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่
ต้องชอบโดยเฉพาะดอกกุหลาบสีม่วง" ... ลูกตอบ
ฉันตื้นตันใจมาก "ลูกรัก แม่ขอโทษจริงๆ ที่ดุหนู"
"แม่ขา ไม่เป็นไรหรอก หนูรักแม่"
"แม่ก็รักลูก แม่ชอบดอกกุหลาบของหนูมาก โดยเฉพาะกุหลาบสีม่วงจ้ะ”
งานไม่ใช่ทั้งหมดของ"ชีวิต"!!!
เราจึงไม่ควรแต่จะก้าวหน้าในการงานเท่านั้น ต้องรู้จักที่จะหยุดพักด้วย
"ชีวิตที่มีแต่งาน".. เปรียบเสมือนกับ "หนังสือที่ไม่มีวรรคตอน"
ปราศจากย่อหน้า และไม่มีรูปภาพสอดแทรก คนอ่านคงดูแล้วไม่ค่อย
น่าสนใจ ...และหากเราตายจากไปในวันพรุ่งนี้ อีกไม่กี่วัน นายจ้างก็หาคนใหม่มาทำแทนได้
...แต่ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังอาจโศกเศร้าไปชั่วชีวิต ลองคิดดูว่าคุ้มไหม? หากเราจะทุ่มเทตัวเองให้กับงานมากกว่า...ครอบครัว
พวกเรารู้ไหมครับว่า FAMILY ย่อมาจากอะไร?
คำว่า FAMILY = (F)ATHER (A)ND (M)OTHER (I) (L)OVE (Y)OU.
หากคุณเป็น "ลูก"
ก็จงให้เวลากับพ่อ-แม่ มากขึ้นยามท่าน "แก่ตัวลง"
หากคุณเป็น "พ่อ" หรือ "แม่" ที่ต้องทำงานนอกบ้านหรือยุ่งกับงานบ้าน
ก็จงรู้จักแบ่งเวลาให้กับงานที่รับผิดชอบและคนที่รอคุณอยู่ที่บ้าน หรือลูกๆ
ที่มีคุณเป็นความหวังให้สมดุลย์กัน
อย่ารอให้มีใครมาบอกให้จัดความสำคัญเสียใหม่
แต่จงพยายามย้ำถามตนเองอยู่เสมอว่า...
"ครอบครัว สำคัญน้อยกว่า งาน และ คนแปลกหน้า หรือ?"
.................................................
ต้นฉบับจาก www.ranthong.com
เรียบเรียงใหม่ อับดุลรอมาน หะระตี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น