อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ค่ำคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ‬


อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงตรัสในคัมภีร์อ ัล-กรุอาน ว่า

لَيْلَةُ الْقَدْرِ خَيْرٌ مِنْ أَلْفِ شَهْرٍ

"คืนลัยละตุลกอดร์นั้นประเสริฐกว่าหนึ่งพันเดือน"

‪#‎อัลกอดร์‬ อายะที่3

ท่านอิมามอะห์มัด ได้รายงานฮะดิษจากท่านอุบาดะฮ์ บิน อัสศอมิต ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า

التمسوها في ليلة الواحد والعشرين، أو ثلاث وعشرين، أو خمس وعشرين، أو سبع وعشرين، أو تسع وعشرين، أواخر رمضان، من قامها احتساباً غفر له ما تقدم من ذنبه وما تأخر

"พวกท่านจงแสวงหาคืนลัยละตุลกอดร์ ในคืนที่ยี่สิบเอ็ด หรือคืนที่ยี่สิบสาม หรือคืนที่ยี่สิบห้า หรือคืนที่ยี่สิบเจ็ด หรือคืนที่ยี่สิบเก้า หรือช่วงท้ายรอมะดอน ผู้ใดที่ทำการละหมาดในค่ำคืนลัยละตุลกอดร์ โดยมีความบริสุทธิ์ใจ เขาจะได้รับการอภัยโทษบาปที่ผ่านมาแล้วและบาปที่จะมีหลังจากนั้น" 
หะดีษ บุคอรี-มุสลิม

หมายถึงบาปทั้งหมดจะได้รับการอภัยโทษให้ และการละหมาดในค่ำคืนนี้ อย่างน้อยให้ไปทำการละหมาดตะรอวิห์ในมัสยิดอย่างสมบูรณ์ แต่ที่สมบูร์ยิ่งนั้น คือให้เขาลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อทำการละหมาดและทำอิบาดะฮ์ตลอดทั้งคืนดังกล่าว โดยมุงไปยังอัลเลาะฮ์ตาอาลา ทำการอิสติฆฟาร กลับตัวกลับใจเคาะประตูแห่งความพึงพอพระทัยแห่งพระผู้เป็นเจ้า เคาะประตูแห่งการขออภัยโทษ เพื่อพระองค์จะทรงเปิดประตูแห่งการเตาบัตและทรงประทานอภัยโทษจากบาปทั้งหลาย

....................................
อิสลามตามแบบฉบับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น