คำถาม : ชะรีอะฮฺอิสลามกล่าวไว้อย่างไร กรณีของการญิฮาดในปาเลสไตน์ มันเป็นการญิฮาดในหนทางของอัลลอฮฺหรือว่าเป็นการญิฮาดเพื่อปลดปล่อยดินแดนและความอิสรภาพ การญิฮาดเพื่อการปลดปล่อยดินแดนนั้นนับว่าเป็นการญิฮาดเพื่ออัลลอฮฺหรือไม่ ?
คำตอบ : แน่นอนมันเป็นที่แน่ชัดสำหรับเราด้วยการประจักษ์ถึงสิทธิอันชอบธรรมซึ่งมั่นใจได้ว่าอินฏิฟาเฎาะฮฺ(การลุกฮือต่อสู้ด้วยก้อนหิน)ของปาเลสไตน์และบรรดาผู้ต่อต้านนั้นถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของบรรดามุสลิมที่นั่น และการต่อสู้ของพวกเขานั้นคืออิสลาม
เพราะว่าพวกเขาถูกอธรรมจากพวกยิวและมันเป็นหน้าที่เหนือพวกเขาในการปกป้องศาสนา ชีวิต ครอบครัวและลูกหลานของพวกเขารวมไปถึงการขับไล่ศัตรูออกจากดินแดนของพวกเขาด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอยู่
เราขออธิบายถึงความเชื่อมั่นตรงนี้คือ -บรรดาผู้ที่ร่วมมือกับพวกเขาในการต่อสู้และเข้าร่วมกับพวกเขาในเรื่องดังกล่าวนี้- จากความความกระตือรือร้นของพวกเขาในเรื่องอิสลามและความเอาใจใส่ของพวกเขาในการปฏิบัติตามชะรีอะฮฺอิสลามในสิ่งที่อยู่ท่ามกลางพวกเขา
ดังนั้นถือว่าจำเป็นสำหรับประเทศต่างๆของอิสลามและบรรดามุสลิมจะต้องคงไว้ซึ่งการส่งเสริมและสนับสนุนพวกเขาเพื่อปลดปล่อยจากศัตรูของพวกเขา และเพื่อจะกลับไปยังมาตุภูมิของพวกเขาอันเป็นการกระทำที่
อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตรัสว่า
"โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย จงสู้รบกับบรรดาผู้ที่อยู่ใกล้เคียงพวกท่าน ที่เป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาเสียก่อน และจงให้พวกเหล่านั้นประสบกับความรุนแรงจากพวกท่าน
และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นทรงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ยำเกรงทั้งหลาย"
((ซูเราะฮฺ อัตเตาบะฮฺ อายะฮฺ 123))
ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงตรัสว่า
“พวกเจ้าจงออกไปกันเถิด ทั้งผู้ที่มีสภาพว่องไว และผู้ที่มีสภาพเชื่องช้า
และจงเสียสละทั้งด้วยทรัพย์ของพวกเจ้า และชีวิตของพวกเจ้าในทางของอัลลอฮฺ นั่นแหละคือสิ่งที่ดียิ่งสำหรับพวกเจ้า หากพวกเจ้ารู้”
((ซูเราะฮฺ อัตเตาบะฮฺ อายะฮฺ 41))
อีกอายะฮฺที่กล่าวว่า
"โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย ข้าจะชี้แนะแนวทางแก่พวกเจ้าไหมเล่า ถึงการค้าที่จะช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากการลงโทษอันเจ็บปวด,นั้นคือพวกเจ้าต้องศรัทธาต่ออัลลอฮฺและร่อซูลของพระองค์ และต่อสู้ดิ้นรนในทางอัลลอฮฺ ด้วยทรัพย์สินของพวกเจ้าและชีวิตของพวกเจ้า นั่นเป็นการดียิ่งสำหรับพวกเจ้าหากพวกเจ้ารู้,พระองค์จะทรงอภัยให้แก่พวกเจ้า ซึ่งการทำบาปของพวกเจ้า
และจะทรงให้พวกเจ้าเข้าในสวนสวรรค์หลากหลาย มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน ณ เบื้องล่างของสวนสวรรค์ และที่พำนักอันบรมสุขในสวนสวรรค์หลากหลายอันสถาพร นั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง,และสิ่งอื่น ๆ อีกที่พวกเจ้ารักชอบมัน การช่วยเหลือจากอัลลอฮฺและการพิชิตอันใกล้นี้และจงแจ้งข่าวดีแด่บรรดาผู้ศรัทธาเถิด"
((ซูเราะฮฺ อัศ-ศ็อฟ อายะฮฺที่ 10-13 ))
อายะฮฺต่างๆ ที่อยู่ในความหมายในลักษณะนี้มีมากมาย
รวมทั้งหะดีษศอฮี้ยฺจาก
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัมกล่าวว่า
“พวกท่านจงต่อสู้กับบรรดาผู้ตั้งภาคีด้วยทรัพย์สินของพวกท่าน
มือของพวกท่าน และด้วยลิ้นของพวกท่าน”
((อบู ดาวูด (2504))
นั่นก็เพราะว่าพวกเขาถูกอธรรม
ดังนั้นจำเป็นสำหรับพี่น้องมุสลิมจะต้องช่วยเหลือพวกเขาต่อผู้ที่อธรรมพวกเขา
ดังคำพูดของท่านนบี ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัมกล่าวว่า
“"มุสลิมนั้นเป็นพี่น้องกัน เขาจะไม่อธรรมซึ่งกันและกัน
และจะไม่ทำให้มุสลิมพินาศ”
((บันทึกโดย อัลบุคอรีย์: 2442, มุสลิม: 2580))
อีกหะดีษหนึ่งของท่านนบี ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัมที่กล่าวว่า
“จงช่วยเหลือพี่น้องของท่านทั้งผู้ที่อธรรมหรือผู้ที่ถูกอธรรม”
บรรดาศอฮาบะฮฺถามขึ้นว่า โอ้ ท่านศาสนฑูตของอัลลอฮฺ การให้เราช่วยเหลือผู้ถูกอธรรมนั้นเราทราบกันดี แต่เราจะช่วยเหลือผู้ที่อธรรมได้อย่างไร?
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ตอบว่า
“การที่ท่านห้ามปรามเขามิให้อธรรมผู้อื่น นั่นแหละคือการช่วยเหลือเขา”
((บันทึกโดย อิหม่าม บุคอรีย์))
หะดีษต่างๆ ที่กล่าวถึงความจำเป็นของการต่อสู้(ญิฮาด)ในหนทางของอัลลอฮฺและการช่วยเหลือผู้ถูกอธรรมและการห้ามปรามผู้อธรรมนั้นมีจำนวนมากมาย
ดังนั้นเราขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺให้พระองค์ทรงช่วยเหลือพี่น้องของเราที่กำลังต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺทั้งในปาเลสไตน์และที่อื่นๆ กับศัตรูของพวกเขา และทรงทำให้พวกเขามีความเป็นเอกภาพบนสัจธรรมและทรงอนุมัติความสำเร็จให้กับมุสลิมทุกคนที่กำลังช่วยเหลือพวกเขา
และให้พวกเขาดำรงอยู่บนแถวในการต่อต้านศัตรูของพวกเขาและโปรดทำให้ศัตรูของอิสลามนั้นต่ำต้อยไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และทรงประทานการลงโทษของพระองค์แก่พวกเขาซึ่งมันจะไม่ถูกโต้กลับมาได้จากกลุ่มชนที่กระทำความผิด แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงได้ยินผู้ทรงใกล้ชิด
..........................................................
Cr.al Quds : ดินแดนแห่งความจำเริญ
มีน รักบ้านเรา โพส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น