อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การอิสติวาอ์เหนืออะรัชของอัลลอฮ์



แท้จริง ชาวมุอฺตะซิละฮฺ ญะฮฺมิยะฮฺ และหะรูริยะฮฺ พวกเขากล่าวว่า “ความหมายของคำตรัสของอัลลอฮฺ
(الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى)
“ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงอยู่เหนือบัลลังก์” (ฏอฮา/5)

หมายถึง “ยึดครอง (อิสเตาลา), ครอบครอง (มิลก์) และ เอาชนะด้วยการบังคับ (ก็อฮร์) และอัลลอฮฺนั้นมีอยู่ทุกหนแห่ง พวกเขาปฏิเสธการอยู่เหนืออะรัชของอัลลอฮฺ ดังที่บรรดาผู้สัจจริงได้กล่าวไว้ และพวกเขายึดมั่นว่า อิสติวาอ์นั้นคือกุดเราะฮฺ (มีอำนาจเหนือ)

ถ้าเป็นอย่างที่พวกเขากล่าวไว้ มันก็จะไม่แตกต่างกันเลยระหว่างอะรัชกับพื้นดินทั้งเจ็ดชั้น เพราะอัลลอฮฺทรงมีอำนาจเหนือทุกๆสิ่งและเหนือพื้นดิน ดังนั้นอัลลอฮฺผู้ทรงบริสุทธิ์จึงทรงมีอำนาจเหนือพื้นดิน เหนือหญ้า และเหนือทุกๆสิ่งที่มีอยู่ในโกลนี้ ดังนั้น ถ้าหากว่าอัลลอฮฺทรงอิสติวาอ์บนอะรัชด้วยความหมาย “อิสตีลาอ์” (มีอำนาจเหนือ) ในขณะที่พระองค์ทรงทรงมีอำนาจเหนือทุกๆสิ่งอยู่แล้ว แน่นอนว่าพระองค์ย่อมต้องอิสติวาอ์เหนืออะรัช เหนือพื้นดิน เหนือชั้นฟ้า เหนือหญ้า และเหนือสิ่งโสโครก เพราะพระองค์ทรงมีอำนาจเหนือทุกๆสิ่ง ทรงปกครอง (อิสเตาลา) เหนือพวกมันทั้งหลายอยู่แล้ว...

มุอฺตะวิละฮฺ หะรูริยะฮฺ และญะฮฺมิยะฮฺ ยังเชื่อว่า แท้จริงอัลลอฮฺนั้นมีอยู่ทุกๆที่ ดังนั้นจึงจำเป็นต่อพวกเขา (ที่ต้องเชื่อว่า) พระองค์มีอยู่ในท้องของมัรยัม ในหญ้า และในห้องสุขา อัลลอฮฺทรงสูงส่งจากคำพูดของพวกเขาด้วยความสูงส่งที่ใหญ่ยิ่ง

ปัญหา (คำตอบ)
ให้ตอบพวกเขาไปว่า ในเมื่อการอิสติวาอ์เหนืออะรัชไม่ได้มีความหมายที่เฉพาะเจาะจงเพียงแค่อะรัช โดยปราศจากสิ่งอื่นตามที่นักวิชาการ บรรดาผู้รายงานเคาะบัร และผู้แบกอาษารได้กล่าวไว้ และอัลลอฮฺนั้นทรงอยู่ในทุกๆสถานที่ พระองค์ทรงอยู่ใต้พื้นดินที่มีฟ้าอยู่เหนือมัน และในเมื่อพระองค์ทรงอยู่ใต้พื้นดิน และพื้นดินอยู่เหนือพระองค์ และฟ้าอยู่เหนือพื้นดิน ในการดังกล่าวทำให้พวกท่านจำเป็นต้องกล่าวว่า “แท้จริงอัลลอฮฺนั้นอยู่ใต้ของใต้และสิ่งอื่นๆอยู่เหนือพระองค์ และพระองค์ทรงอยู่เหนือของเหนือและทุกๆสิ่งอยู่ใต้พระองค์ ในการดังกล่าวทำให้พระองค์จำเป็นต้องอยู่ภายใต้สิ่งที่อยู่เหนือพระองค์ และอยู่เหนือสิ่งที่อยู่ใต้พระองค์ (ในเวลาเดียวกัน) สภาพเช่นนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และขัดแย้งกัน (อัลลอฮฺทรงสูงส่งจากสิ่งนั้นด้วยความสูงส่งที่ใหญ่ยิ่ง-(ส)-)


หลังจากนั้นอบู หะสันก็ได้ยกหลักฐานต่างๆมาสนับสนุน ทั้งหลักฐานที่มาจากอายะฮฺอัลกุรอาน และหลักฐานจากสุนนะฮฺ ซึ่งในจำนวนหลักฐานดังกล่าวได้แก่

1.หะดีษนุซูล
2.อายะฮฺที่ 50 ของซูเราะฮฺ อันนะหฺลุ
3.อายะฮฺที่ 4 ของซูเราะฮฺอัลมะอาริจญ์
4.อายะฮฺที่ 59 ของซุเราะฮฺอัลฟุรกอน
5.อายะฮฺที่ 4 ของซูเราะฮฺอัสสัจญ์ดะฮฺ
6.อายะฮฺที่ 158 ของซูเราะฮฺอันนิสาอ์ ฯลฯ

อบู หะสันได้ปิดท้ายหลักฐานของท่านด้วยหะดีษญานิยะฮฺ (ทาสี) ที่ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัมถามนางว่า “อัลลอฮฺทรงอยู่ที่ใด?”

นางตอบว่า “บนฟ้า”

นบีถามว่า “แล้วฉันเป็นใคร?”

นางตอบว่า “ท่านคือเราะสูลุลลอฮฺ”

ดังนั้น นบีจึงกล่าว (แก่เจ้านายของนาง) ว่า “จงปล่อยนางให้เป็นอิสระเสีย เพราะแท้จริงนางเป็นหญิงผู้ศรัทธา” (บันทึกโดยมุสลิม และท่านอื่นๆ)


เสร็จแล้วอบูหะสันก็กล่าวทิ้งท้ายว่า “นี่เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า แท้จริง อัลลอฮฺนั้นทรงอยู่บน/เหนืออะรัช และเหนือชั้นฟ้า (เป็นการอยู่เหนือที่พระองค์ไม่ได้เพิ่มความใกล้ชิดจากอะรัช-(ส)-) (อัลอิบานะฮฺ หน้า 105-119)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น