พระองค์อัลลอฮฺ(ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ทรงตรัสว่า..
ومن ورآئهم برزخ إلى يوم يبعثون
“และเบื้องหน้าของพวกเขานั้นมีโลกบัรซัค จนกระถึงวันที่พวกเขาจะถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมา” (ซูเราะฮฺ อัล-มุอฺมินูน : 100)
ท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ้อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า
"เมื่อมัยยิตถูกวางลงในหลุมศพ มลาอิกะฮฺ 2 ท่าน(ลักษณะ)ดำปนน้ำเงิน หนึ่งจากทั้งสองชื่อว่า มุงกัรฺส่วนอีกท่านหนึ่งชื่อว่า นะกีรฺทั้งสองกล่าว(ถามมัยยิต) ว่า : ท่านจะจะกล่าวอย่างไรกับชายที่ชื่อมุหัมมัดนี้ (มัยยิต) กล่าว่าตอบว่า : เขาคือบ่าวของอัลลอฮฺ และเป็นรสูลของพระองค์ ฉันขอปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดสมควรได้รับการอิบาดะฮฺ นอกจากพระองค์อัลลอฮฺองเดียวเท่านั้น และแท้จริงมุหัมมัดเป็นบ่าวของพระองค์ และเป็นรสูลของพระองค์มลาอิกะฮฺทั้งสองกล่าวขึ้นว่า : ฉันทราบอยู่แล้วว่าท่านจะต้องกล่าวแบบนี้จากนั้นในหลุมศพของเขาก็ขยายกว้าง 70 ศอก ยาว 70 ศอก จากนั้นภายในหลุมศพก็มีรัศมีให้สำหรับเขา แล้วมีเสียงกล่าวแก่เขาว่า : ท่านจงหลับเถิดเขา(มัยยิต) ก้กล่าวขึ้นว่า : ฉันจะกลับไปยังครอบครัวของฉัน เพื่อบอกพวกเขา (ถึงความสุขสบายในหลุมศพ)มลาอิกะฮฺทั้งสองตอบว่า : ท่านจงนอนเถิด เฉกเช่นการนอนในคืนแต่งงานวันแรก (หมายถึงให้นอนอย่างมีความสุข)" (บันทึกหะดิษโดย อิมามอัตติรฺมีซีย์ เลขที่ 1092 เป็นหะดิษหะซัน)
สำหรับมุสลิมคนใดเชื่อว่าวิญญาณจะมายังโลกดุนยานี้อีก โดยอ้างว่าโต๊ะครูบอกว่าได้ระบุไว้ในอัลกุรอาน ก็คงเข้าใจคำว่า "อัลรูฮฺ" วิญญาณบริสุทธิ์ที่ระบุไว้ในสูเราะฮฺอัล-ก็อดรฺ อายะฮฺที่ 4 ว่า บรรดามะลาอิกะฮฺ และอัลรูฮฺจะลงมาในคืนลัยละตุลก็อดรฺ คือวิญาณของผู้ที่ตายไปแล้ว
พระองค์อัลลอฮฺ(ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ทรงตรัสว่า
تَنَزَّلُ الْمَلَائِكَةُ وَالرُّوحُ فِيهَا بِإِذْنِ رَبِّهِم مِّن كُلِّ أَمْرٍ ( 4 )
"บรรดามะลาอิกะฮฺและอัลรูฮฺ (ญิบริล) จะลงมาในคืนนั้น โดยอนุมัติแห่งพระเจ้าของพวกเขาเนื่องจากกิจการ-ทุกสิ่ง" (อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัล-ก็อดรฺ 97:4)
ซึ่งอัลรูฮฺในอายะฮฺดังกล่าวนั้น นักวิชาการศาสนากล่าว่ามันคือ มลาอิกะฮฺที่ชื่อ "ญิบริล" นั้นเอง อัลรูฮฺ ดังกล่าวจึงไม่ใช่หมายถึง วิญญาณของผู้ตาย ที่เข้าใจกันผิดๆแต่อย่างใด
الله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น