อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ชีวิตในโลกนี้มิใช่อื่นใดนอกจากการทดสอบ



ชีวิตในโลกนี้มิใช่อื่นใดนอกจากการทดสอบ
 และดุนยานี้ก็มิใช่อื่นใด นอกจากถสานที่แวะพักเตรียมเสบียงสู่โลกหน้าของบรรดานักเดินทาง
 ผู้ที่เข้าใจและมองการณ์ไกล คือผู้ให้น้ำหนักและความใส่ใจแก่โลกหน้า
โลกอันยั่งยืน ยาวนาน และคงอยู่อย่างนิรันดร โลกนี้คือสิ่งที่เราใช้ข้ามผ่านสู่โลกหน้า
 โลกนี้เราอยู่เพื่อไป ส่วนโลกหน้านั้นเราไปเพื่ออยู่...อย่างนิรันดร

ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้อธิบายถึงลักษณะของโลกนี้ในฮะดีษบทหนึ่งว่า "ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ ดุนยาเมื่อเทียบกับอาคิเราะฮฺไม่มีค่าอะไรนอกจากอุปมาคนหนึ่งคนใดในกลุ่มพวกท่านเอานิ้วมือ (ท่านยะหฺยา ผู้ที่รายงานฮะดีษชี้ไปที่..นิ้วชี้) จุ่มลงในแม่น้ำ แล้วจงดูว่ามีอะไรติดอยู่บ้าง??"[บันทึกโดยมุสลิม]

วันวานได้จากไปแล้ว แล้วมันจะไม่หวนกลับมาอีก
และพรุ้งนี้ไม่มีวันที่จะมาถึง เพราะเมื่อมันมาถึง มันจะกลายเป็น "วันนี้"
ดังนั้น ชีวิตของเราจึงมีเพียงแค่วันนี้ วันนี้ และวันนี้

บรรพชนในยุคแรกแห่งอิสลามท่านหนึ่งได้กล่าวว่า
"โอ้ลูกหลานอาดัมเอ๋ย แท้จริงท่านมีเพียงแค่สามวัน คือ เมื่อวานซึ่งมันได้ทอดทิ้งเจ้าไปแล้ว พรุ้งนี้ที่ยังไม่มาถึง และวันนี้ ดังนั้น พึงยำเกรงอัลลอฮฺและเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์ในวันนี้เถิด" 
والله أعلم بالصواب
..............................
 Kareem Wanaeloh


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น