เรื่องราวของ(การหลงรัก) ทัศนะของ เชค
อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ
เรื่องราวของการหลงรัก, ถ้าหากผู้หญิงคนหนึ่งรัก
ผู้ชายคนหนึ่งอย่างห่างๆเธอจะบาปไหม
คำตอบ อัลฮัมดุลิลอฮฺ
อิสลามได้ปิดประตูในการนำไปสู่ความชั่ว
และสกัดกั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะนำไปสู่ความชั่ว ความรัก
และความหลงไหลในตัณหาคือ หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุด
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/129
“ความรัก คือ โรคทางด้านจิตใจชนิดหนึ่ง
ถ้าหากมันเติบโตขึ้นก็จะส่งผลกระทบและกลาย
เป็นโรคทางด้านร่างกายในที่สุด ทั้งการเจ็บไข้ได้ป่วยและ
ความคิดที่ผิดๆ โรคเหล่านี้เป็นสาเหตุมาจาก วัสวาสะ(
การกระซิบกระซากของซัยตอน) ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และ
ซูบผอม”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/132
“ความรักที่มีต่อหญิงที่ไม่ไช่มัฮรอมนั้น
จะนำไปสู่ผลเสียอย่างมากมายเพราะขอบเขตของความรัก
ทั้งหมดเพียงเพื่ออัลลอฮฺเท่านั้น ฉะนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อ
ความรับผิดชอบในการรับใช้ศาสนา หลังจากนั้นอาจ
จะส่งผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายของเขา
แค่หนึ่งผลกระทบของการรักเพศตรงข้ามก็เพียงพอแล้วที่แสดง
ให้เห็นว่าเรากำลังเป็นบ่าวของจิตใจ ไม่สามารถห่างเหิน
จากคนที่เรารักได้ ดังนั้น ความรักคือประตูไปสู่การลดเกียร
และการยอมรับใช้”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/185
“หากชายคนหนึ่งหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งและถึงแม้ว่านาง
จะตกลงปลงใจ แต่หัวใจของหัวเขาก็ยังคงตกเป็นบ่าวของนาง
อยู่ดี นางสามารถสั่งให้เขาทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ
ทั่งๆที่เขาดูเหมือนว่าจะเป็นนายของนาง แต่ในความเป็นจริง
แล้วเขาก็คือผู้ต้องขังหรือบ่าวที่จงรักภักดีนั้นเองดีนั้นเอง
โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตระหนักถึงความรักความต้องการของ
เขาที่มีต่อนาง นางสามารถบังคับเขาเสมือนผู้
เป็นนายบังคับบ่าวผู้ซึ่งไม่สามารถหนีจากผู้เป็นนายได้ มิหนำ
ซ้ำอาจมากกว่านั้นก็เป็นได้ เพราะการ
เป็นบ่าวของหัวใจมันเลวร้ายมากกว่าเป็นบ่าวของร่างกาย”
ความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่มีต่อเพศตรงข้ามจะไม่เกิดขึ้น
ในหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่ออัลลอฮ นอกเสีย
จากหัวใจที่อ่อนแอและว่างเปล่า
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/135
“ถ้าหากหัวใจมีแต่อัลลอฮเพียงองค์เดียวและให้
ความสำคัญต่อพระองค์ เราก็ไม่คิดที่จะรักใครเป็นอับดับแรก
และก็จะไม่ไปตกหลุมรักใคร เมือ
ใดที่หัวใจไปตกหลุมรักใครก็แสดงว่า
ความรักของเราที่มีต่ออัลลอฮยังน้อยอยู่ ดังเช่น
ท่านนบียูโซฟรักอัลลอฮและทำตามอัลลอฮทุกอย่างท่านจึง
ไม่ตกหลุมรักใคร
บทลงโทษของความรัก อัลลอฮได้กล่าวว่า(ซูเราะฮฺยูซุฟ
12:24)
{ ﻛَﺬَﻟِﻚَ ﻟِﻨَﺼْﺮِﻑَ ﻋَﻨْﻪُ ﺍﻟﺴُّﻮﺀَ ﻭَﺍﻟْﻔَﺤْﺸَﺎﺀ ﺇِﻧَّﻪُ ﻣِﻦْ ﻋِﺒَﺎﺩِﻧَﺎ
ﺍﻟْﻤُﺨْﻠَﺼِﻴﻦَ}
เช่นนั้นแหละเพื่อเราจะให้ความชั่วและการลามห่างไกลจากเขา
แท้จริงเขาคือคนหนึ่งในปวงบ่าวของเราที่สุจริต
มุสลิมต้องรักษาและป้องกันตัวของเขาจากบรรดาสิ่งที่
จะสิ่งผลกระทบในทางที่ไม่ดี ไม่นำตัวเองไปสู่สิ่งนั้น
และอย่าล้มเหลวในการต่อต้านมัน ถ้าหากเขาล้มเหลว
ในการต่อต้านอารมณ์ความรักที่ผิดๆ
สิ่งที่ตามก็คือการทำสิ่งที่ฮารอมฟังของที่ฮารอมและ
ไม่สนใจว่าขอบเขตของการพูดคุยกับเพศตรงข้ามมีว่าอย่างไร
ทั้งหมดนั้นเป็นผลกระทบของความรักที่เขาต้องเจอ สุดท้าย
เขาก็จะถูกลงโทษจากการกระทำของเขา
หลายต่อหลายคนละเลยในจุดเริ่มต้นของปัญหาแล้วก็คิดว่า
พวกเขาสามารถที่จะแก้ไขมันได้เมื่อใดก็ตามที่พวกเขา
ต้องการ หรือ พวกเขาสามารถที่จะหยุดมันให้อยู่ในขอบเขต
ไม่ให้มันลุกลาม จนกระทั่งโรคร้ายรุนแรงขึ้นและไม่
สามารถรักษาได้
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
เราดะฮฺ อัลมูฮีบบีน/ 147
“ถ้าหากผลของการกระทำเกิดขึ้นจากสาเหตุที่เขาเลือก
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะอ้างว่ามันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา
ถ้าเหตุผลนั้นมันฮารอม เช่นเดียวกับ คนที่ดืมเหล้าก็
ไม่มีเหตุผลที่จะอ้างว่าเขาสามารถดื่มเหล้าได้
ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าการมองคนๆหนึ่งแล้วเราก็ยังคิดเกี่ยว
กับเรื่องราวคนๆนั้นเปรียบเสมือน เหตุผลของคนที่ดื่มเหล้า
เราก็จะเป็นสาเหตุในเรื่องดังกล่าว”
ถ้าหากเราหลีกหนีจากสิ่งที่จะนำไปสู่โรคร้าย
โดยการลดละสายตาไม่มองไม่ฟังในสิ่งที่ฮารอมและป้องกันไม่
ให้ความคิดของไซตอนผ่านเข้ามาในจิตใจสิ่งทีไม่ดีก็จะ
ไม่เกิดขึ้น การชำเหลือบมองถือว่าเป็นสิ่งพื้นฐานที่ยอมรับได้
และถ้าหากจิตใจของเขายังคงผูกมัดกับผู้หญิงคนนั้น เขาก็จะ
ไม่มีความผิดอินซาอัลลอฮ เพราะอัลลอฮได้กล่าวไว้
{ ﻻَ ﻳُﻜَﻠِّﻒُ ﺍﻟﻠّﻪُ ﻧَﻔْﺴﺎً ﺇِﻻَّ ﻭُﺳْﻌَﻬَﺎ }
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/10
“ถ้าหากผลของการกระทำไม่ได้มาจากสาเหตุของการละเลย
สำหรับเขาแล้วก็จะไม่มีมีความผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเขา”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
เราดะฮฺ อัลมูฮีบบีน 147
ถ้าหากความรักเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความชอบธรรมไม่
เป็นสิ่งฮารอม เชกเช่น คนหนึ่งรักภรรยาหรือทาสหญิงหลังจาก
นั้นเธอก็ได้จากไป แต่ความรักที่มีต่อนางยังคงมีอยู่เขาจะไม่มี
ความผิดจากเรื่องนั้น คล้ายคลึงกับเหตุการณ์การชำเลืองมอง
โดยไม่ได้ตั้งใจจากนั้นเขาก็เบนสายตาหนีแต่เขาก็
ได้ตกหลุมรักจนหมดใจ อย่างไรก็ตามเขาต้องขจัดความรู้สึก
นั้นออกไป
และเขาต้องรักษาหัวใจของเขาโดยการหยุด
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นและการรักอัลลอฮฺให้มากขึ้นขอดุอาร์ใน
ความช่วยเหลือจากพระองค์ อย่าอายที่จะปรึกษาผู้รู้และคนที่
ไว้วางใจในการรับข้อชี้แนะ หรือ ปรึกษาแพทย์และนักจิตวิทยา
เพราะเขาอาจจะได้รับการเยียวยาที่ดี เขาต้องอดทน
ทำอามาลให้มาก ไม่เข้าไกล้การซีนา สงบเสงี่ยม อัลลอฮฺก็
จะทวีผลบุญให้แก่เขา อินชาอัลลอฮฺ
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/133:
“ถ้าเขาถูกทดสอบด้วยความรักแต่เขารักษาความบริสุทธิ
และอดทน เขาจะได้รับผลบุญจากการเกรงกลัวอัลลอฮฺ
จากหลักฐาน ชารอี ที่ว่า ถ้าคนหนึ่งรักษาความบริสุทธิของเขา
และหลีกเลี่ยงในการทำสิ่งที่ฮารอมจากการมอง การพูด
และการกระทำ เขาเงียบและไม่คุยในสิ่งเหล่านั้น มัน
เป็นสิ่งที่ฮารอมทีจะพูด
ในเรื่องดังกล่าวแม้กระทั่งการกล่าวหาคนอื่น หรือ
การไล่ตามคนที่ตนหลงรักในทุกวิธีทาง เขาอดทน
ในการเชื่อฟังอัลลอฮฺและหลีกเลี่ยงในการกระทำบาป
ถึงอย่างไรก็ตามความเจ็บปวดที่ได้มาจากความรักมัน
เป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่ทำให้รู้สึกทรมาน แต่เขาก็จะเป็นคนใน
ผู้ที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺและผู้เป็นบ่าวที่มีความอดทน
{ ﺇِﻧَّﻪُ ﻣَﻦ ﻳَﺘَّﻖِ ﻭَﻳِﺼْﺒِﺮْ ﻓَﺈِﻥَّ ﺍﻟﻠّﻪَ ﻻَ ﻳُﻀِﻴﻊُ ﺃَﺟْﺮَ ﺍﻟْﻤُﺤْﺴِﻨِﻴﻦَ }
วัลลอฮฺ อะลัม
...............................................................................
แปลและเรีบยเรียงโดย Anas Dawor (Ibnu sha-ti-E)
Ref: Islamway.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น