อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ความรัก คือ โรคทางด้านจิตใจ



เรื่องราวของ(การหลงรัก) ทัศนะของ เชค
อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ
เรื่องราวของการหลงรัก, ถ้าหากผู้หญิงคนหนึ่งรัก
ผู้ชายคนหนึ่งอย่างห่างๆเธอจะบาปไหม
คำตอบ อัลฮัมดุลิลอฮฺ
อิสลามได้ปิดประตูในการนำไปสู่ความชั่ว
และสกัดกั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะนำไปสู่ความชั่ว ความรัก
และความหลงไหลในตัณหาคือ หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุด
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/129
“ความรัก คือ โรคทางด้านจิตใจชนิดหนึ่ง
ถ้าหากมันเติบโตขึ้นก็จะส่งผลกระทบและกลาย
เป็นโรคทางด้านร่างกายในที่สุด ทั้งการเจ็บไข้ได้ป่วยและ
ความคิดที่ผิดๆ โรคเหล่านี้เป็นสาเหตุมาจาก วัสวาสะ(
การกระซิบกระซากของซัยตอน) ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และ
ซูบผอม”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/132
“ความรักที่มีต่อหญิงที่ไม่ไช่มัฮรอมนั้น
จะนำไปสู่ผลเสียอย่างมากมายเพราะขอบเขตของความรัก
ทั้งหมดเพียงเพื่ออัลลอฮฺเท่านั้น ฉะนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อ
ความรับผิดชอบในการรับใช้ศาสนา หลังจากนั้นอาจ
จะส่งผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายของเขา
แค่หนึ่งผลกระทบของการรักเพศตรงข้ามก็เพียงพอแล้วที่แสดง
ให้เห็นว่าเรากำลังเป็นบ่าวของจิตใจ ไม่สามารถห่างเหิน
จากคนที่เรารักได้ ดังนั้น ความรักคือประตูไปสู่การลดเกียร
และการยอมรับใช้”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/185
“หากชายคนหนึ่งหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งและถึงแม้ว่านาง
จะตกลงปลงใจ แต่หัวใจของหัวเขาก็ยังคงตกเป็นบ่าวของนาง
อยู่ดี นางสามารถสั่งให้เขาทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ
ทั่งๆที่เขาดูเหมือนว่าจะเป็นนายของนาง แต่ในความเป็นจริง
แล้วเขาก็คือผู้ต้องขังหรือบ่าวที่จงรักภักดีนั้นเองดีนั้นเอง
โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตระหนักถึงความรักความต้องการของ
เขาที่มีต่อนาง นางสามารถบังคับเขาเสมือนผู้
เป็นนายบังคับบ่าวผู้ซึ่งไม่สามารถหนีจากผู้เป็นนายได้ มิหนำ
ซ้ำอาจมากกว่านั้นก็เป็นได้ เพราะการ
เป็นบ่าวของหัวใจมันเลวร้ายมากกว่าเป็นบ่าวของร่างกาย”
ความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่มีต่อเพศตรงข้ามจะไม่เกิดขึ้น
ในหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่ออัลลอฮ นอกเสีย
จากหัวใจที่อ่อนแอและว่างเปล่า
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/135
“ถ้าหากหัวใจมีแต่อัลลอฮเพียงองค์เดียวและให้
ความสำคัญต่อพระองค์ เราก็ไม่คิดที่จะรักใครเป็นอับดับแรก
และก็จะไม่ไปตกหลุมรักใคร เมือ
ใดที่หัวใจไปตกหลุมรักใครก็แสดงว่า
ความรักของเราที่มีต่ออัลลอฮยังน้อยอยู่ ดังเช่น
ท่านนบียูโซฟรักอัลลอฮและทำตามอัลลอฮทุกอย่างท่านจึง
ไม่ตกหลุมรักใคร
บทลงโทษของความรัก อัลลอฮได้กล่าวว่า(ซูเราะฮฺยูซุฟ
12:24)
{ ﻛَﺬَﻟِﻚَ ﻟِﻨَﺼْﺮِﻑَ ﻋَﻨْﻪُ ﺍﻟﺴُّﻮﺀَ ﻭَﺍﻟْﻔَﺤْﺸَﺎﺀ ﺇِﻧَّﻪُ ﻣِﻦْ ﻋِﺒَﺎﺩِﻧَﺎ
ﺍﻟْﻤُﺨْﻠَﺼِﻴﻦَ}
เช่นนั้นแหละเพื่อเราจะให้ความชั่วและการลามห่างไกลจากเขา
แท้จริงเขาคือคนหนึ่งในปวงบ่าวของเราที่สุจริต
มุสลิมต้องรักษาและป้องกันตัวของเขาจากบรรดาสิ่งที่
จะสิ่งผลกระทบในทางที่ไม่ดี ไม่นำตัวเองไปสู่สิ่งนั้น
และอย่าล้มเหลวในการต่อต้านมัน ถ้าหากเขาล้มเหลว
ในการต่อต้านอารมณ์ความรักที่ผิดๆ
สิ่งที่ตามก็คือการทำสิ่งที่ฮารอมฟังของที่ฮารอมและ
ไม่สนใจว่าขอบเขตของการพูดคุยกับเพศตรงข้ามมีว่าอย่างไร
ทั้งหมดนั้นเป็นผลกระทบของความรักที่เขาต้องเจอ สุดท้าย
เขาก็จะถูกลงโทษจากการกระทำของเขา
หลายต่อหลายคนละเลยในจุดเริ่มต้นของปัญหาแล้วก็คิดว่า
พวกเขาสามารถที่จะแก้ไขมันได้เมื่อใดก็ตามที่พวกเขา
ต้องการ หรือ พวกเขาสามารถที่จะหยุดมันให้อยู่ในขอบเขต
ไม่ให้มันลุกลาม จนกระทั่งโรคร้ายรุนแรงขึ้นและไม่
สามารถรักษาได้
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
เราดะฮฺ อัลมูฮีบบีน/ 147
“ถ้าหากผลของการกระทำเกิดขึ้นจากสาเหตุที่เขาเลือก
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะอ้างว่ามันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา
ถ้าเหตุผลนั้นมันฮารอม เช่นเดียวกับ คนที่ดืมเหล้าก็
ไม่มีเหตุผลที่จะอ้างว่าเขาสามารถดื่มเหล้าได้
ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าการมองคนๆหนึ่งแล้วเราก็ยังคิดเกี่ยว
กับเรื่องราวคนๆนั้นเปรียบเสมือน เหตุผลของคนที่ดื่มเหล้า
เราก็จะเป็นสาเหตุในเรื่องดังกล่าว”
ถ้าหากเราหลีกหนีจากสิ่งที่จะนำไปสู่โรคร้าย
โดยการลดละสายตาไม่มองไม่ฟังในสิ่งที่ฮารอมและป้องกันไม่
ให้ความคิดของไซตอนผ่านเข้ามาในจิตใจสิ่งทีไม่ดีก็จะ
ไม่เกิดขึ้น การชำเหลือบมองถือว่าเป็นสิ่งพื้นฐานที่ยอมรับได้
และถ้าหากจิตใจของเขายังคงผูกมัดกับผู้หญิงคนนั้น เขาก็จะ
ไม่มีความผิดอินซาอัลลอฮ เพราะอัลลอฮได้กล่าวไว้
{ ﻻَ ﻳُﻜَﻠِّﻒُ ﺍﻟﻠّﻪُ ﻧَﻔْﺴﺎً ﺇِﻻَّ ﻭُﺳْﻌَﻬَﺎ }
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/10
“ถ้าหากผลของการกระทำไม่ได้มาจากสาเหตุของการละเลย
สำหรับเขาแล้วก็จะไม่มีมีความผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเขา”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
เราดะฮฺ อัลมูฮีบบีน 147
ถ้าหากความรักเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความชอบธรรมไม่
เป็นสิ่งฮารอม เชกเช่น คนหนึ่งรักภรรยาหรือทาสหญิงหลังจาก
นั้นเธอก็ได้จากไป แต่ความรักที่มีต่อนางยังคงมีอยู่เขาจะไม่มี
ความผิดจากเรื่องนั้น คล้ายคลึงกับเหตุการณ์การชำเลืองมอง
โดยไม่ได้ตั้งใจจากนั้นเขาก็เบนสายตาหนีแต่เขาก็
ได้ตกหลุมรักจนหมดใจ อย่างไรก็ตามเขาต้องขจัดความรู้สึก
นั้นออกไป
และเขาต้องรักษาหัวใจของเขาโดยการหยุด
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นและการรักอัลลอฮฺให้มากขึ้นขอดุอาร์ใน
ความช่วยเหลือจากพระองค์ อย่าอายที่จะปรึกษาผู้รู้และคนที่
ไว้วางใจในการรับข้อชี้แนะ หรือ ปรึกษาแพทย์และนักจิตวิทยา
เพราะเขาอาจจะได้รับการเยียวยาที่ดี เขาต้องอดทน
ทำอามาลให้มาก ไม่เข้าไกล้การซีนา สงบเสงี่ยม อัลลอฮฺก็
จะทวีผลบุญให้แก่เขา อินชาอัลลอฮฺ
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/133:
“ถ้าเขาถูกทดสอบด้วยความรักแต่เขารักษาความบริสุทธิ
และอดทน เขาจะได้รับผลบุญจากการเกรงกลัวอัลลอฮฺ
จากหลักฐาน ชารอี ที่ว่า ถ้าคนหนึ่งรักษาความบริสุทธิของเขา
และหลีกเลี่ยงในการทำสิ่งที่ฮารอมจากการมอง การพูด
และการกระทำ เขาเงียบและไม่คุยในสิ่งเหล่านั้น มัน
เป็นสิ่งที่ฮารอมทีจะพูด
ในเรื่องดังกล่าวแม้กระทั่งการกล่าวหาคนอื่น หรือ
การไล่ตามคนที่ตนหลงรักในทุกวิธีทาง เขาอดทน
ในการเชื่อฟังอัลลอฮฺและหลีกเลี่ยงในการกระทำบาป
ถึงอย่างไรก็ตามความเจ็บปวดที่ได้มาจากความรักมัน
เป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่ทำให้รู้สึกทรมาน แต่เขาก็จะเป็นคนใน
ผู้ที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺและผู้เป็นบ่าวที่มีความอดทน

{ ﺇِﻧَّﻪُ ﻣَﻦ ﻳَﺘَّﻖِ ﻭَﻳِﺼْﺒِﺮْ ﻓَﺈِﻥَّ ﺍﻟﻠّﻪَ ﻻَ ﻳُﻀِﻴﻊُ ﺃَﺟْﺮَ ﺍﻟْﻤُﺤْﺴِﻨِﻴﻦَ }

วัลลอฮฺ อะลัม

...............................................................................
แปลและเรีบยเรียงโดย Anas Dawor (Ibnu sha-ti-E)
Ref: Islamway.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น