อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หลงรัก



เรื่องราวของการหลงรัก, ถ้าหากผู้หญิงคนหนึ่งรัก
ผู้ชายคนหนึ่งอย่างห่างๆเธอจะบาปไหม

คำตอบ อัลฮัมดุลิลอฮฺ

อิสลามได้ปิดประตูในการนำไปสู่ความชั่ว
และสกัดกั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะนำไปสู่ความชั่ว ความรักและ
ความหลงไหลในตัณหาคือ หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุด
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/129

“ความรัก คือ โรคทางด้านจิตใจชนิดหนึ่ง
ถ้าหากมันเติบโตขึ้นก็จะส่งผลกระทบและกลาย
เป็นโรคทางด้านร่างกายในที่สุด ทั้งการเจ็บไข้ได้ป่วยและ
ความคิดที่ผิดๆ โรคเหล่านี้เป็นสาเหตุมาจาก วัสวาสะ(
การกระซิบกระซากของซัยตอน) ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และ
ซูบผอม”

เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/132
“ความรักที่มีต่อหญิงที่ไม่ไช่มัฮรอมนั้น
จะนำไปสู่ผลเสียอย่างมากมายเพราะขอบเขตของความรัก
ทั้งหมดเพียงเพื่ออัลลอฮฺเท่านั้น ฉะนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อ
ความรับผิดชอบในการรับใช้ศาสนา หลังจากนั้นอาจ
จะส่งผลกระทบต่อจิตใจและร่างกายของเขา
แค่หนึ่งผลกระทบของการรักเพศตรงข้ามก็เพียงพอแล้วที่แสดง
ให้เห็นว่าเรากำลังเป็นบ่าวของจิตใจ ไม่สามารถห่างเหิน
จากคนที่เรารักได้ ดังนั้น ความรักคือประตูไปสู่การลดเกียร
และการยอมรับใช้”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/185

“หากชายคนหนึ่งหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งและถึงแม้ว่านาง
จะตกลงปลงใจ แต่หัวใจของหัวเขาก็ยังคงตกเป็นบ่าวของนาง
อยู่ดี นางสามารถสั่งให้เขาทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ ทั่งๆที่
เขาดูเหมือนว่าจะเป็นนายของนาง แต่ในความเป็นจริงแล้ว
เขาก็คือผู้ต้องขังหรือบ่าวที่จงรักภักดีนั้นเองดีนั้นเอง
โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตระหนักถึงความรักความต้องการของ
เขาที่มีต่อนาง นางสามารถบังคับเขาเสมือนผู้
เป็นนายบังคับบ่าวผู้ซึ่งไม่สามารถหนีจากผู้เป็นนายได้ มิหนำ
ซ้ำอาจมากกว่านั้นก็เป็นได้ เพราะการ
เป็นบ่าวของหัวใจมันเลวร้ายมากกว่าเป็นบ่าวของร่างกาย”
ความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่มีต่อเพศตรงข้ามจะไม่เกิดขึ้น
ในหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักที่มีต่ออัลลอฮ นอกเสีย
จากหัวใจที่อ่อนแอและว่างเปล่า
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/135

“ถ้าหากหัวใจมีแต่อัลลอฮเพียงองค์เดียวและให้
ความสำคัญต่อพระองค์ เราก็ไม่คิดที่จะรักใครเป็นอับดับแรก
และก็จะไม่ไปตกหลุมรักใคร เมือ
ใดที่หัวใจไปตกหลุมรักใครก็แสดงว่า
ความรักของเราที่มีต่ออัลลอฮยังน้อยอยู่ ดังเช่น
ท่านนบียูโซฟรักอัลลอฮและทำตามอัลลอฮทุกอย่างท่านจึง
ไม่ตกหลุมรักใคร
บทลงโทษของความรัก อัลลอฮได้กล่าวว่า(ซูเราะฮฺยูซุฟ
12:24)
{ ﻛَﺬَﻟِﻚَ ﻟِﻨَﺼْﺮِﻑَ ﻋَﻨْﻪُ ﺍﻟﺴُّﻮﺀَ ﻭَﺍﻟْﻔَﺤْﺸَﺎﺀ ﺇِﻧَّﻪُ ﻣِﻦْ ﻋِﺒَﺎﺩِﻧَﺎ
ﺍﻟْﻤُﺨْﻠَﺼِﻴﻦَ}
เช่นนั้นแหละเพื่อเราจะให้ความชั่วและการลามห่างไกลจากเขา
แท้จริงเขาคือคนหนึ่งในปวงบ่าวของเราที่สุจริต
มุสลิมต้องรักษาและป้องกันตัวของเขาจากบรรดาสิ่งที่
จะสิ่งผลกระทบในทางที่ไม่ดี ไม่นำตัวเองไปสู่สิ่งนั้น
และอย่าล้มเหลวในการต่อต้านมัน ถ้าหากเขาล้มเหลว
ในการต่อต้านอารมณ์ความรักที่ผิดๆ

สิ่งที่ตามก็คือการทำสิ่งที่ฮารอมฟังของที่ฮารอมและ
ไม่สนใจว่าขอบเขตของการพูดคุยกับเพศตรงข้ามมีว่าอย่างไร
ทั้งหมดนั้นเป็นผลกระทบของความรักที่เขาต้องเจอ สุดท้าย
เขาก็จะถูกลงโทษจากการกระทำของเขา
หลายต่อหลายคนละเลยในจุดเริ่มต้นของปัญหาแล้วก็คิดว่า
พวกเขาสามารถที่จะแก้ไขมันได้เมื่อใดก็ตามที่พวกเขา
ต้องการ หรือ พวกเขาสามารถที่จะหยุดมันให้อยู่ในขอบเขต
ไม่ให้มันลุกลาม จนกระทั่งโรคร้ายรุนแรงขึ้นและไม่
สามารถรักษาได้

เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
เราดะฮฺ อัลมูฮีบบีน/ 147
“ถ้าหากผลของการกระทำเกิดขึ้นจากสาเหตุที่เขาเลือก
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะอ้างว่ามันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา
ถ้าเหตุผลนั้นมันฮารอม เช่นเดียวกับ คนที่ดืมเหล้าก็
ไม่มีเหตุผลที่จะอ้างว่าเขาสามารถดื่มเหล้าได้
ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าการมองคนๆหนึ่งแล้วเราก็ยังคิดเกี่ยว
กับเรื่องราวคนๆนั้นเปรียบเสมือน เหตุผลของคนที่ดื่มเหล้า
เราก็จะเป็นสาเหตุในเรื่องดังกล่าว”

ถ้าหากเราหลีกหนีจากสิ่งที่จะนำไปสู่โรคร้าย
โดยการลดละสายตาไม่มองไม่ฟังในสิ่งที่ฮารอมและป้องกันไม่
ให้ความคิดของไซตอนผ่านเข้ามาในจิตใจสิ่งทีไม่ดีก็จะ
ไม่เกิดขึ้น การชำเหลือบมองถือว่าเป็นสิ่งพื้นฐานที่ยอมรับได้และ
ถ้าหากจิตใจของเขายังคงผูกมัดกับผู้หญิงคนนั้น เขาก็จะไม่มี
ความผิดอินซาอัลลอฮ เพราะอัลลอฮได้กล่าวไว้
{ ﻻَ ﻳُﻜَﻠِّﻒُ ﺍﻟﻠّﻪُ ﻧَﻔْﺴﺎً ﺇِﻻَّ ﻭُﺳْﻌَﻬَﺎ }

เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/10
“ถ้าหากผลของการกระทำไม่ได้มาจากสาเหตุของการละเลย
สำหรับเขาแล้วก็จะไม่มีมีความผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเขา”
เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
เราดะฮฺ อัลมูฮีบบีน 147
ถ้าหากความรักเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความชอบธรรมไม่
เป็นสิ่งฮารอม เชกเช่น คนหนึ่งรักภรรยาหรือทาสหญิงหลังจาก
นั้นเธอก็ได้จากไป แต่ความรักที่มีต่อนางยังคงมีอยู่เขาจะไม่มี
ความผิดจากเรื่องนั้น คล้ายคลึงกับเหตุการณ์การชำเลืองมอง
โดยไม่ได้ตั้งใจจากนั้นเขาก็เบนสายตาหนีแต่เขาก็
ได้ตกหลุมรักจนหมดใจ อย่างไรก็ตามเขาต้องขจัดความรู้สึก
นั้นออกไป

และเขาต้องรักษาหัวใจของเขาโดยการหยุด
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นและการรักอัลลอฮฺให้มากขึ้นขอดุอาร์ใน
ความช่วยเหลือจากพระองค์ อย่าอายที่จะปรึกษาผู้รู้และคนที่
ไว้วางใจในการรับข้อชี้แนะ หรือ ปรึกษาแพทย์และนักจิตวิทยา
เพราะเขาอาจจะได้รับการเยียวยาที่ดี เขาต้องอดทน ทำอามาล
ให้มาก ไม่เข้าไกล้การซีนา สงบเสงี่ยม อัลลอฮฺก็จะทวีผลบุญ
ให้แก่เขา อินชาอัลลอฮฺ

เชค อัลอิสลาม อิบนู ตัยมียะฮฺ (รอฮีมาฮูลอฮฺ) ได้กล่าวว่า
ในมัจมูอ อัล ฟัตวา 10/133:
“ถ้าเขาถูกทดสอบด้วยความรักแต่เขารักษาความบริสุทธิ
และอดทน เขาจะได้รับผลบุญจากการเกรงกลัวอัลลอฮฺ
จากหลักฐาน ชารอี ที่ว่า ถ้าคนหนึ่งรักษาความบริสุทธิของเขา
และหลีกเลี่ยงในการทำสิ่งที่ฮารอมจากการมอง การพูด
และการกระทำ เขาเงียบและไม่คุยในสิ่งเหล่านั้น มัน
เป็นสิ่งที่ฮารอมทีจะพูด

ในเรื่องดังกล่าวแม้กระทั่งการกล่าวหาคนอื่น หรือ
การไล่ตามคนที่ตนหลงรักในทุกวิธีทาง เขาอดทน
ในการเชื่อฟังอัลลอฮฺและหลีกเลี่ยงในการกระทำบาป
ถึงอย่างไรก็ตามความเจ็บปวดที่ได้มาจากความรักมัน
เป็นเพียงหนึ่งสิ่งที่ทำให้รู้สึกทรมาน แต่เขาก็จะเป็นคนใน
ผู้ที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺและผู้เป็นบ่าวที่มีความอดทน

{ ﺇِﻧَّﻪُ ﻣَﻦ ﻳَﺘَّﻖِ ﻭَﻳِﺼْﺒِﺮْ ﻓَﺈِﻥَّ ﺍﻟﻠّﻪَ ﻻَ ﻳُﻀِﻴﻊُ ﺃَﺟْﺮَ ﺍﻟْﻤُﺤْﺴِﻨِﻴﻦَ }

วัลลอฮฺ อะลัม

.............................................................................
แปลและเรีบยเรียงโดย Anas Dawor (Ibnu sha-ti-E)

สายลมแห่งความ ห่วงใย มูฮัมหมัดดาวูด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น