อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2558

สุนนะฮตัรกียะฮ ในทัศนะของปราชญ์มัซฮับชาฟิอี





คำว่า “สุนนะฮตัรกียะฮ(السنة التركية،) หมายถึง การที่นบี ศอ็ลฯละทิ้งปฏิบัติ ต่อสิ่งใดๆ ที่ไม่ใช่เรื่อง ธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ทั้งๆที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุผลที่จะปฏิบัติ โดยไม่มีอุปสรรค์ใดๆมาขัดขวาง

1. อิหม่ามชาฟิอีย์ (ร.ฮ)กล่าวว่า

وللناس تبرٌ غيره من نحاس وحديد ورصاص فلما لم يأخذ منه رسول الله ولا أحد بعده زكاة تركناه اتباعاً بتركه

และประชาชนมีสินแร่ อื่นจากมัน จาก ทองแดง ,เหล็ก และตะกั่ว เมื่อ รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ และคนหนึ่งคนใดหลังจากท่าน ไม่ได้เอามัน มาเป็นซะกาต เราก็ทิ้งมัน เป็นการปฏิบัติตาม การละทิ้งของท่านนบี – ดู อัรริสาละฮ หน้า 194

อิหม่ามชาฟิอี กล่าวว่า ประชาชน มีทองแดง ,มีเหล็ก และตะกั่ว ท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลฯไม่เก็บซะกาต เราก็ไม่เก็บเหมือนกัน เป็นการเจริญรอยตามในสิ่งที่นบีไม่ปฏิบัติ คือนบีไม่ปฏิบัติ เราก็ไม่ปฏิบัติ

2. อิบนุคุซัยมะฮ (ร.ฎ) ได้กำหนดหัวเรื่องว่า

بَابُ تَرْكِ الصَّلاَةِ فِي المُصَلَّى قَبْلَ الْعِيدَيْنِ وَبَعْدَهَا اقْتِدَاءً بِالنَّبِيِّ وَاسْتِنَانًا بِهِ

บทว่าด้วยเรื่อง การละทิ้งการละหมาด ใน มุศอ็ลลา ก่อนละหมาดอีด ทั้งสองและหลังจากมัน เพื่อปฏิบัติตามแบบอย่างนบี และเป็นการดำเนินตามแบบอย่างนบี – เศาะเฮียะอิบนุคุซัยมะฮ 2/550

กล่าวคือ การทิ้งไม่ปฏิบัติละหมาดสุนัต ณ สถานที่ละหมาด (มุศอ็ลลา) ก่อนละหมาดอีดและหลังละหมาดอีดทั้งสอง เพื่อปฏิบัติตามแบบอย่างนบี คือ นบีไม่ปฏิบัติ ก็ให้ละทิ้งไม่ต้องปฏิบัติด้วย

3. อะบุลมุซฟัรอัสสัมอานีย (ร.ฮ) กล่าวว่า

إذا ترك النبي صلى الله عليه وسلم شيئا من الأشياء وجب علينا متابعته فيه

เมื่อนบี ศอ็ลฯ ละทิ้งไม่ปฏิบัติ สิ่งใดๆ จากบรรดาสิ่งต่างๆ จำเป็นแก่เราจะต้อง ปฏิบัติตามในมันด้วย – เกาะวาเฏาะอัลอะดิลละฮ 1/311

4. อิหม่ามอัรซัรกะชีย์ (ร.ฮ) กล่าวว่

الْمُتَابَعَةَ كما تَكُونُ في الْأَفْعَالِ تَكُونُ في التُّرُوكِ

การปฏิบัติตามในบรรดาการละทิ้ง นั้น เหมือนกับ การปฏิบัติตามในบรรการกระทำ – อัลบะหรุลมะฮีฏ 4/191

กล่าวคือ การปฏิบัติตามในสิ่งที่นบีทิ้ง ก็เหมือนกับการปฏิบัติตามในสิ่งที่นบีทำ คือ เมื่อนบี ศอ็ลฯ ไม่ปฏิบัติ เราก็ไม่ปฏิบัติ

ข้างต้นคือ ตัวอย่างของการปฏิบัติตามสุนนะฮ ตัรกียะฮ ซึ่งหมายถึง สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ที่นบีไม่ได้ทำแบบอย่างเอาไว้ ไม่ได้ปฏิบัติ เราในฐานะอุมมะฮ ก็ไม่ปฏิบัติเช่นกัน ไม่ใช่ ทิ้งสิ่งที่นบีทำ และพยายามทำ ในสิ่งที่นบีไม่ทำ โดยอ้างเหตุผลตามความเห็นว่า ดี มีความประเสริฐ



والله أعلم بالصواب



.........................
อะสัน  หมัดอะดั้ม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น