อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

การกินบุญเนื่องจากการตายในทัศนะปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์



ท่านอิหม่ามอบูบักรฺ อัฏ-ฏ็อรฺฏุชีย์ (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 530) ได้กล่าวไว้ในหนังสือ “อัล-หะวาดิษ วัล-บิดะอฺ” หน้า 170 ว่า …
فَأَمَّا إِذَا أَصْلَحَ أَهْلُ الْمَيِّتِ طَعَامًا وَدَعَوُاالنَّاسَ إِلَيْهِ فَلَمْ يُنْقَلْ فِيْهِ عَنِ الْقُدَمَاءِ شَىْءٌ، وَعِنْدِىْ أَنَّهُ بِدْعَةٌ وَمَكْرُوْهَةٌ ….
.
“อนึ่ง การที่ครอบครัวผู้ตายปรุงอาหารขึ้น และเชิญชวนให้คนมากินอาหารนั้น เรื่องนี้ ไม่ปรากฏมีรายงานมาจากประชาชนยุคก่อนๆแต่อย่างใด, และในทัศนะของฉัน มันเป็นเรื่องบิดอะฮ์ และเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ” …
2. ในหนังสือ “มัตนุ คอลีล” ของนักวิชาการมัษฮับมาลิกีย์ มีกล่าวเอาไว้ว่า

وَأَمَّا اْلإجْتِمَاعُ عَلَى طَعَامِ بَيْتِ الْمَيِّتِ فَبِدْعَةٌ مَكْرُوْهَةٌ إِنْ لَمْ يَكُنْ فِى الْوَرَثَةِ صَغِيْرٌ، وَإِلاَّ فَهُوَ حَرَامٌ …
..
“อนึ่ง การไปชุมนุมกินอาหารกันที่บ้านคนตาย ถือเป็นบิดอะฮ์ที่น่ารังเกียจ หากว่าในทายาทผู้ตายไม่มีเด็กเล็ก (ยังไม่บรรลุศาสนภาวะ), … แต่ถ้า (ผู้ตาย) มี (ทายาทที่ยังเล็กอยู่) ก็ถือว่า (การไปชุมนุมกินอาหารที่บ้านผู้ตาย) เป็นเรื่องต้องห้าม (หะรอม)”
(จากหนังสือ “อัล-มันฮัลฯ” อันเป็นหนังสืออธิบายสุนันของท่านอบูดาวูด เล่มที่ 4 ส่วนที่ 8 หน้า 272) …
มุหัมหมัด บิน มุหัมมหมัด บิน อับดุรเราะมาน อัลหะฏอบ ปราชญ์มัซฮับมาลิกีย์ กล่าวว่า
أَمَّا إصْلَاحُ أَهْلِ الْمَيِّتِ طَعَامًا وَجَمْعُ النَّاسِ عَلَيْهِ فَقَدْ كَرِهَهُ جَمَاعَةٌ وَعَدُّوهُ مِنْ الْبِدَعِ ; لِأَنَّهُ لَمْ يُنْقَلْ فِيهِ شَيْءٌ وَلَيْسَ ذَلِكَ مَوْضِعَ الْوَلَائِمِ
สำหรับการที่ครอบครัวผู้ตายทำอาหาร และการชุมนุมของบรรดาผู้คนบนมัน แท้จริง นักวิชาการคณะหนึ่ง ได้มีทัศนะว่าเป็นมักรูฮ และพวกเขานับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งจากบิดอะฮ เพราะว่าแท้จริง ไม่มีสิ่งใด(หมายถึงหะดิษ)ถูกรายงานเกียวกับมัน และดังกล่าวนั้น ไม่ใช่สถานที่ของการเลี้ยงแขก – ดู มะวาฮิบุลญะลีล เล่ม 2 หน้า 229
.............
การกระทำข้างต้น อุลามาอฺ เขาหุกุมว่า เป็นมักรูฮ และเป็นส่วนส่วนหนึ่งจากบิดอะฮ
ส่วนที่เขาส่งเสริมคือ
وَيَجُوزُ حَمْلُ الطَّعَامِ لِأَهْلِ الْمَيِّتِ فِي يَوْمِهِمْ وَلَيْلَتِهِمْ وَاسْتَحَبَّهُ الشَّافِعِيُّ وَالْأَصْلُ فِيهِ مَا رَوَاهُ عَبْدُ اللَّهِ بْنُ جَعْفَرٍ أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ { اصْنَعُوا لِآلِ جَعْفَرٍ طَعَامًا فَإِنَّهُمْ فَاجَأَهُمْ أَمْرٌ شَغَلَهُمْ } خَرَّجَهُ أَبُو دَاوُد
และอนุญาตให้นำอาหารให้แก่ครอบครัวผู้ตาย ในตอนกลางวันและตอนกลางคืนของพวกเขา และ ชาฟิอี ได้ส่งเสริมมัน และรากฐานในมัน(ในเรื่องนี้)คือ สิ่งที่อับดุลลอฮ บิน ญะอฺฟัร ได้รายงานว่า แท้จริงนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “พวกท่านจงทำอาหารให้แก่ครอบครัวยะอฺฟัร เพราะว่าแท้จริง สิ่งที่ทำให้พวกเขายุ่งยาก(เนื่องจากการตาย)ได้ประสบกับพ่วกเขา –บันทึกโดย อบูดาวูด - ดู มะวาฮิบุลญะลีล เล่ม 2 หน้า 229


والله أعلم بالصواب


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น