อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ละครเพื่อการเผยแผ่อิสลาม


หนังสมัยนี้ก็มีที่มาจากละครเวทีสมัยก่อน ละครมีมาช้านาน กล่าวกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ หรือสามารถพูดได้ว่ามีมาแต่ก่อนยุคนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ว่าได้

สิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งคือ ท่านนบี ศอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม. ศ่อฮาบะห์ ตาบิอีน และรุ่นต่อๆมา อีกเกือบหลายร้อยปี ไม่เคยมีใครนำละครมาเป็นสื่อในการเผยแผ่ศาสนา หรือสร้างความเข้าใจในเรื่องศาสนา

การที่คนในยุคก่อนโน้นไม่ทำ เราลองมาหาคำตอบสิว่าเพราะอะไร

ข้อหนึ่ง. เขาไม่รู้ว่าละครนี้ดีสำหรับการเผยแผ่ ก็เลยจึงไม่ทำกัน นบีก็ไม่รู่ ศีอฮาบะห์ก็ไม่รู้
ปราชญ์ในยุคต่อๆมาก็ไม่รู้ มีแต่พวกเราในยุคนี้เท่านั้นที่รู้ว่าดีและถูกต้อง จึงทำกัน คนยุคก่อนสู้เราไม่ได้

ข้อสอง. พวกท่านเหล่านั้นรู้เหมือนกับเรารู้ แต่ละเลย. ไม่คิดก้าวหน้า ขี้เกียจ สู้พวกเราไม่ได้ขยันกว่า มึความคิดก้าวหน้ากว่า

ข้อสาม ละครเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ในยุคก่อน เพราะต้องอาศัยเทคโนโลยี่มากมาย พวกเข้าไม่มีสิ่งนี้ ก็จึงเลยไม่ได้ทำ เช่นการใช้เครื่องขยายเสียง. ไมค์โครโฟน เป็นต้น

ข้อสี่ ละครเผยแผ่อิสลาม หากพวกเขาจะทำก็ทำได้ แต่เพราะเห็นว่ามันไม่ใช่สื่อที่ถูกต้อง ที่จะนำมาเผยแผ่อิสลาม. หรือนำมาสร้างความเข้าใจอิสลามแก่ผู้ไม่ใช่มุสลิม พวกเขาจึงเลยไม่ทำ

..........................
อ. อิสฮาก พงษ์มณี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น