การละหมาดญะมาอะฮฺ มะมูมต้องตามอิมามทุกกริยาบท เมื่ออิมามตักบีรฺ (กล่าวอัลลอฮุอักบัร) มะมูมก็ต้องตักบีรฺตาม เมื่ออิมามรุกูอฺ มะมูมก็รุกูอฺตาม หรือเมื่ออิมามสุญูด มะมูมก็ต้องสูญูดตาม มิใช่อิมามเปลี่ยนไปอีกกริยาบทหนึ่งแล้ว แต่มะมูมยังอยู่ในลักษณะเดิมอีก
รายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
«إنَّمَا جُعِلَ الإمَامُ لِيُؤْتَـمَّ بِـهِ، فَإذَا كَبَّرَ فَكَبِّرُوْا، وإذَا رَكَعَ فَارْكَعُوا، وَإذَا قَالَ: سَمِعَ الله لِـمَنْ حَـمِدَهُ، فَقُولُوا: اللَّهُـمَّ رَبَّنَا لَكَ الحَـمْدُ، وَإذَا صَلَّى قَائِماً فَصَلُّوا قِيَاماً، وَإذَا صَلَّى قَاعِداً فَصَلُّوا قُعُوداً أَجْـمَعُونَ»
ความว่า “แท้จริงการตั้งให้มีอิมามนำละหมาดนั้น เพื่อให้เขาถูกตาม ดังนั้นเมื่ออิมามรุกูอฺ พวกท่านก็จงรุกูอฺตาม เมื่ออิมามเงยขึ้นพวกท่านก็จงเงยขึ้นตาม และเมื่ออิมามกล่าว สะมิอัลลอฮุลิมันหะมิดะฮฺ พวกท่านจงกล่าวว่า ร็อบบะนาวะละกัลหัมดฺ เมื่ออิมามละหมาดในท่านั่ง พวกท่านทั้งหมดก็จงนั่งละหมาดด้วย” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมีบันทึกในอัล-บุคอรีย์ เลขที่ : 722 และมุสลิม เลขที่: 417 ซึ่งสำนวนนี้เป็นของมุสลิม)
แต่ที่ปรากฎให้เห็นขณะละหมาดตะรอเวียะฮฺในรอมาฎอน กลับเห็นมะมูมบางคน อิมามตักบีรฺ อ่านฟาติหะฮฺในร็อกอะฮฺถัดไปจบแล้ว ก็็ยังนั่งนิ่งเฉย ปล่อยให้อิมามอ่านฟาติหะฮฺ และสูเราะฮฺจนใกล้จบแล้ว จึงยกขึ้นตักบีรฺ ทั่งที่ละหมาดตะรอเวียะฮฺบางพื้นที่มีการอ่านสูเราะฮฺที่สั่นและอ่านเร็วมาก แต่มะมูมกลับนิ่งเฉย ปล่อยให้อิมามอ่านฟาตีหะฮฺและสูเราะฮฺจนใกล้จบ แล้วจึงจะตักบีรฺเข้าละหมาด หลังจากนั้น อิมามก็อ่านสูเราะฮฺจบ แล้วตักบีรฺก้มลงรุกูอฺ แต่มะมูมคนนั้นยังอ่านฟาติหะฮฺอยู่อีกและเร่งรีบอ่านจนขาดความคูชัวอฺในการละหมาด การกระทำเช่นนี้เป็นการปฏิบัติที่สวนทางกับแบบฉบับของท่านรสูลโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงจำเป็นสำหรับมุสลิมคนใดที่ยังคงมีพฤติกรรมเช่นนี้ ที่จะต้องละทิ้งมันโดยเด็ดขาด และทำการละหมาดอย่างครบถ้วน ตามอิมามอย่างต่อเนื่องทุกกริยาบท
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น