อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

มะมูมต้องตามอิมามนำละหมาดทุกกริยาบท


การละหมาดญะมาอะฮฺ มะมูมต้องตามอิมามทุกกริยาบท เมื่ออิมามตักบีรฺ (กล่าวอัลลอฮุอักบัร) มะมูมก็ต้องตักบีรฺตาม เมื่ออิมามรุกูอฺ มะมูมก็รุกูอฺตาม หรือเมื่ออิมามสุญูด มะมูมก็ต้องสูญูดตาม มิใช่อิมามเปลี่ยนไปอีกกริยาบทหนึ่งแล้ว แต่มะมูมยังอยู่ในลักษณะเดิมอีก


รายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า

«إنَّمَا جُعِلَ الإمَامُ لِيُؤْتَـمَّ بِـهِ، فَإذَا كَبَّرَ فَكَبِّرُوْا، وإذَا رَكَعَ فَارْكَعُوا، وَإذَا قَالَ: سَمِعَ الله لِـمَنْ حَـمِدَهُ، فَقُولُوا: اللَّهُـمَّ رَبَّنَا لَكَ الحَـمْدُ، وَإذَا صَلَّى قَائِماً فَصَلُّوا قِيَاماً، وَإذَا صَلَّى قَاعِداً فَصَلُّوا قُعُوداً أَجْـمَعُونَ»

ความว่า “แท้จริงการตั้งให้มีอิมามนำละหมาดนั้น เพื่อให้เขาถูกตาม ดังนั้นเมื่ออิมามรุกูอฺ พวกท่านก็จงรุกูอฺตาม เมื่ออิมามเงยขึ้นพวกท่านก็จงเงยขึ้นตาม และเมื่ออิมามกล่าว สะมิอัลลอฮุลิมันหะมิดะฮฺ พวกท่านจงกล่าวว่า ร็อบบะนาวะละกัลหัมดฺ เมื่ออิมามละหมาดในท่านั่ง พวกท่านทั้งหมดก็จงนั่งละหมาดด้วย” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮฺ โดยมีบันทึกในอัล-บุคอรีย์ เลขที่ : 722 และมุสลิม เลขที่: 417 ซึ่งสำนวนนี้เป็นของมุสลิม)

แต่ที่ปรากฎให้เห็นขณะละหมาดตะรอเวียะฮฺในรอมาฎอน กลับเห็นมะมูมบางคน อิมามตักบีรฺ อ่านฟาติหะฮฺในร็อกอะฮฺถัดไปจบแล้ว ก็็ยังนั่งนิ่งเฉย ปล่อยให้อิมามอ่านฟาติหะฮฺ และสูเราะฮฺจนใกล้จบแล้ว จึงยกขึ้นตักบีรฺ ทั่งที่ละหมาดตะรอเวียะฮฺบางพื้นที่มีการอ่านสูเราะฮฺที่สั่นและอ่านเร็วมาก แต่มะมูมกลับนิ่งเฉย ปล่อยให้อิมามอ่านฟาตีหะฮฺและสูเราะฮฺจนใกล้จบ แล้วจึงจะตักบีรฺเข้าละหมาด หลังจากนั้น อิมามก็อ่านสูเราะฮฺจบ แล้วตักบีรฺก้มลงรุกูอฺ แต่มะมูมคนนั้นยังอ่านฟาติหะฮฺอยู่อีกและเร่งรีบอ่านจนขาดความคูชัวอฺในการละหมาด การกระทำเช่นนี้เป็นการปฏิบัติที่สวนทางกับแบบฉบับของท่านรสูลโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงจำเป็นสำหรับมุสลิมคนใดที่ยังคงมีพฤติกรรมเช่นนี้ ที่จะต้องละทิ้งมันโดยเด็ดขาด และทำการละหมาดอย่างครบถ้วน ตามอิมามอย่างต่อเนื่องทุกกริยาบท


والله أعلم بالصواب


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น