อิสลามอนุญาตให้มีการหยอกล้อ หรือล้อเล่นกันได้ เพื่อสร้างความสุขสบายใจ ความสนิทสนมกลมเกลียวกัน แต่เรื่องที่หยอกล้อนั้นต้องเป็นเรื่องจริง อาจเป็นเรื่องจริงเพียงบางส่วนและคงเหลือการตีความของความหมายที่แท้จริงก็ได้
รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม กล่าวว่า
“เศาะหาบะฮฺบางท่านได้กล่าวกับท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า: โอ้ท่านรสูล แท้จริงท่านก็ล้อเล่นกับพวกเรา ท่านรสูลกล่าวว่า : ถึงแม้ฉันจะล้อเล่นกับพวกท่าน แต่แท้จริงแล้วฉันมิได้กล่าวสิ่งใด นอกจากความเป็นจริงเท่านั้น” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอัตติรมิซีย์ เป็นหะดิษเศาะเฮียะฮฺ)
ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้เคยหยอกล้อกับหญิงชราผู้หนึ่ง โดยท่านกล่าวว่า
“แท้จริงคนชรานั้นจะไม่ได้เข้าสวรรค์ นางจึงกล่าวว่า : เพราะเหตุใดเล่า? ขณะนั้นนางกำลังอ่านกุรอานอยู่ ท่านรสูลจึงกล่าวกับนางว่า : ท่านมิได้อ่านในคัมภีร์อัลกุรอานหรอกหรือ ที่ว่า “แท้จริงเราได้บังเกิดพวกนาง เป็นกรณีพิเศษ จริงๆแล้วเราได้ทำให้พวกนางเป็นสาวพรหมจรรย์”(อัลกรุอาน สูเราะฮฺอัลวากิอะฮ์ 35:36)” (รายงานโดยท่านอัลฮะซัน บุตร ท่านอาลี อิบนุอบีฏอลิบ ร่อฎียัลลฮุอันฮุมา บันทึกโดยรอซีน ในหนังสือชัรฮุสสุนนะฮฺ)
รายงานจากท่านอนัส ร่อฎียัลลอฮุอันฮุม กล่าวว่า มีชายคนหนึ่งของร้องท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ให้จัดหาพาหนะให้เขาได้ขี่ โดยกล่าวว่า
“โอ้ท่านรสูล โปรดนำพาหนะมาให้ฉันขี่ ท่านรสูลกล่าวว่า : เราจะให้ท่านขี่ลูกอูฐ ชายผู้นั้นจึงกล่าวว่า : ฉันจะทำออะไรกับลูกอูฐได้? ท่านรสูลกล่าวว่า ; ที่แม่อูฐคลอดออกมานั้นมิใช่ลูกอูฐหรอกหรือ? (หมายถึง อูฐทุกๆตัวนั้นเดิมก็คือลูกอูฐ)”
แต่การหยอกล้อกันจะไม่แต่งเรื่องเล่าเกินจริงให้ผู้คนหัวเราะ เพราะมันถือเป็นการโกหกอย่างหนึ่ง
ท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ความวิบัติจะประสบแก่ผู้ที่พูดโกหกเพื่อให้ผู้คนหัวเราะในคำพูดนั้นๆ แน่แท้ความวิบัติจะประสบแก่เขา ความวิบัติจะประสบแก่เขา” (บันทึกหะดิษโดยอิมามอะหฺมัด อบูดาวู๊ด อัตติรมีซียื และอัดดาริมีย์)
والله أعلم بالصواب
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น