อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ละหมาดตะรอเวียะฮ์ที่เน้นจำนวนร็อกอะฮฺแต่เร็ว เป็นสุนนะฮฺหรือ?


สิ่งที่สังเกตให้เห็นปัจจุบัน ของการละหมาดตะรอเวียะฮ์ในค่ำคืนรอมฎอนตามมัสยิดบ้านเรานั้น จะมีการเร่งรีบที่จะละหมาดตะรอเวียะฮ์ให้เสร็จโดยเร็ว

 เมื่อละหมาดอีชาอฺเสร็จ ก็รีบเร่งขอดุอาอ์ หลังจากนั้นก็มีการทำละหมาดตะรอเวียะฮฺทันที โดยไม่เว้นช่วงให้ผู้มาละหมาด ได้ละหมาดสุนัตหลังละหมาดอีชาอฺก่อน ผู้ที่มาละหมาดภายหลังก็เร่งรีบที่จะละหมาดฟัรฎูให้เสร็จ เพื่อที่จะได้ทันละหมาดตะรอเวียะฮฺซึ่งเป็นสุนัตตามอีหม่าม

 เมื่อละหมาดตะรอเวียะฮฺก็มีการละหมาดเร็วกว่าการละหมาดฟัรฎูในเวลาปกติ มีการอ่านสูเราะฮฺที่เร็ว และไม่มีการเว้นวรรคตอน รวมถึงกริยาบทอื่นของละหมาด

 ซึ่งพวกเขาเน้นที่จะให้ครบ 23 ร็อกอะฮฺ (ละหมาดตะรอเวียะฮฺ 20 ร็อกอัต และละหมาดหมาดวิเตรฺ 3 ร็อกอะฮฺ) แต่พวกเขาละทิ้งความเป็นคุชัวะฮฺ(สงบนิ่ง) ความบริสุทธิ์ใจ และความสมบูรณ์ของละหมาด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการมุ่งหวังที่จะได้รับผลบุญตอบแทนจากพระองค์อัลลอฮฺตะอาลา ในการปฏิบัติละหมาดไปควบคู่กับจำนวนร็อกอะฮฺนั้น

มีมุสลิมบางคนที่มีการเลือกไปละหมาดตะรอเวียะฮฺในมัสยิดที่มีการละหมาดตะรอเวียะฮฺเร็วและใช้เวลาในระยะสั้น ถึงแม้บริเวณบ้านของตนจะมีมัสยิดอยู่ใกล้ๆก็ตาม ก็ยอมดิ้นรนไป

 ครั้งหนึ่งได้สงสัยว่าทำไมมีมุสลิมบางคนไปละหมาดตะรอเวียะฮฺที่มัสยิดไกลบ้าน ทั้งที่มีมัสยิดห่างจากบ้านของตนไม่เกินสามร้อยเมตร จึงลองไปละหมาดตะรอเวียะฮฺที่มัสยิดนั้น ปรากฎว่าอีหม่ามมัสยิดได้นำละหมาดฟัรฎูอีชา และละหมาดตะรอเวียะฮฺ 20 ร็อกอะฮฺ และละหมาดวิเตรฺ 3 ร็อกอะฮฺรวมกันแล้ว ใช้เวลาในการปฏิบัติไม่เกินครึ่งชั่วโมง จึงได้ทราบถึงบางอ้อ ว่าทำไม่มุสลิมคนนั้นจึงเลือกมาละหมาดตะรอเวียะฮ์ในมัสยิดแห่งนี้

การปฏิบัติละหมาดตะรอเวียะฮ์ในช่วงรอมฎอนเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ได้ปฏิบัติให้เห็นกันมาของคนก่อนๆ จากรุ่นสู่รุ่น โดยเข้าใจว่าการปฏิบัติเช่นนี้คือแบบอย่างจากท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) และบรรพชนยุคต้นที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากท่าน

แต่เมื่อตรวจสอบหลักฐานจากการปฏิบัติการละหมาดตะรอเวียะฮฺของท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) และสาวกของท่าน มันกลับสวนทางกับที่มีการปฏิบัติให้เห็นกันของมุสลิมในบ้านเราปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง เพราะการละหมาดของท่านนบี (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) มีการละหมาดอย่างคุชัวะอฺ อ่านอัลกุรอานอย่างไพเราะ และยืนนาน

ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการฟื้นฟูการปฏิบัติละหมาดตะรอเวียะฮฺตามบบอย่างจากท่านรสูล  (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม)และบรรพชนยุคต้น ให้กับมุสลิมในบ้านเรา และให้ละทิ้งสิ่งที่ปฏิบัติกันมาที่เน้นแต่จำนวนร็อกอะฮฺของละหมาดตะรอเวียะฮฺ แต่ไม่ได้เน้นหนักในความสมบูรณ์ของมัน ซึ่งจะทำให้การละหมาดตะรอเวียะฮฺเป็นไปอย่างสมบูรณ์สวยงาม ตามแบบฉบับของท่านรสูลุลลฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยอฺวะซัลลัม) ต่อไป


والله أعلم بالصواب


พี่น้องกัน รักกัน จึงต้องเตือนกัน...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น