อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สุดท้ายของเวลาสะโฮรฺ


พระองค์อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ตรัสว่า

وَكُلُوا وَاشْرَبُوا حَتَّىٰ يَتَبَيَّنَ لَكُمُ الْخَيْطُ الْأَبْيَضُ مِنَ الْخَيْطِ الْأَسْوَدِ مِنَ الْفَجْرِ ثُمَّ أَتِمُّوا الصِّيَامَ إِلَى اللَّيْلِ

"และจงกินและดื่ม จนกระทั่งเส้นขาวจะประจักษ์แก่พวกเจ้า จากเส้นดำ เนื่องจากแสงอรุณ แล้วพวกเจ้าจงให้การถือศิลอดครบเต็มจนพลบค่ำ" (อัลกุรอาน สูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ 2 :187)

อัลลออฺตะอาลา ทรงอนุญาตให้กิน ดื่ม และมีเพศสัมพันธ์ได้ในทุกค่ำคืนของเดือนรอมฎอน ตามแต่ปรารถนาจนกระทั่งอรุณทอแสงจากความมืดของกลางคืน โดยพระองค์ใช้สำนวนเส้นขาวจากเส้นดำหรือด้ายขาวจากด้ายสีดำ และเพิ่มคำว่า (الْفَجْرِ) เนื่องจากแสงอรุณ ก็เพื่อมิให้เกิดความคลุมเครือ

ดังที่ได้ปรากฏในหะดิษที่ได้บันทึกโดยอิมามอบูอับดิลลาฮฺ อัลบุคอรี รายงานจากสะฮัล อิบนิ สะอัด ว่าอายะฮฺที่ว่า وَكُلُوا وَاشْرَبُوا حَتَّىٰ يَتَبَيَّنَ لَكُمُ الْخَيْطُ الْأَبْيَضُ مِنَ الْخَيْطِ الْأَسْوَدِ مِنَ الْفَجْرِ ถูกประทานลงมาโดยคำว่า مِنَ الْفَجْرِ ยังมิได้ถูกประทานลงมา ปรากฏว่ามีคนหลายคน เมื่อต้องการจะถือศิลอด เขาได้เอาเชือก 2 สี คือสีขาวกับสีดำมาผูกไว้ที่ขาของเขา แล้วเขายังคงรับประทานอาหารต่อไปจนกระทั่งเห็นเชือกทั้งสองสีได้อย่างชัดเจนแล้ว
อัลลอฮฺจึงได้ประทานคำว่า مِنَ الْفَجْرِ ลงมา พวกเขาจึงทราบว่านั่นมันหมายความถึงกลางคืน และกลางวัน ไม่ใช่เชือกสีดำ สีขาวที่พวกเขาเข้าใจ
(ฟัตฮุลบารีย์ 8/31)

อัลบุคอรี ได้บันทึกรายงานจากอัชชะอฺบีย์ จากอะดีย์ ว่า อะดีย์ได้เอาอิกอล (เชือกคล้องอูฐ หรือเชือกคล้องศีรษะ) สีขาว และสีดำมา พออยู่ในช่วงกลางคืน เขาก็มองดูก็ยังไม่เห็นชัด ยังไม่ปรากฏ แล้วเมื่อถีงเวลาศฺุบฮิ เขาจึงกล่าวว่า โอ้ท่านรสูลลุลลอฮฺ ฉันได้เอามันไว้ใต้หมอนของฉัน
ท่านกล่าวว่า : แท้จริง หมอนของท่านนั้น มันกว้างอย่างแน่นอน หากเส้นสีขาว และดำอยู่ใต้หมอนของท่าน
(ฟัตฮุลบารีย์ 8/31)

ได้ระบุในบางถ้อยคำว่า : แท้จริง ท่านมีท้ายทอยกว้าง
(ฟัตฮุลบารีย์ 8/31)

บางคนในหมู่พวกเขาได้อธิบายว่า เป็นคนปัญญาอ่อน เป็นคนปัญญาทึบ ซึ่งถือเป็นทัศนะที่อ่อน แต่มันก็กลับไปเป็นเช่นนั้น เพราะถ้าปรากฏว่าหมอนกว้าง ท้ายทอยก็กว้างเช่นกัน วัลลอฮุอะลัม

รายงานของอัลบุคอรี ได้มาอธิบายเรื่องของอะดีย์ อิบนุ ฮาติม อีกว่า ฉันได้กล่าวว่า : โอ้ท่านรสูลลุลลอฮฺ อะไรคือด้ายสีขาวจากด้ายสีดำ ทั้งสองนั้นเป็นด้ายจริงๆ ใช่ไหม?
ท่านตอบว่า : แท้จริง ท่านนั้นท้ายทอยกว้าง ท่านคงไม่เห็นด้ายทั้งสองดอก ต่อจากนั้นท่านได้กล่าวว่า : ไม่หรอก มันคือความมืดของกลางคืน และความขาว (ความแจ้ง)ของกลางวันต่างหาก"
(ฟัตฮุลบารีย์ 8/31)


....ตัฟซีร อิบนุ กะษีรฺ เล่ม 1 ญุซที่ 2....







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น