อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฆ่าสังหารหมู่ 22,000 คนที่ Katyn - ผู้ชนะใส่ความผู้แพ้ ในความผิดที่ตนเองทำ



บทที่ 3 ฆ่าสังหารหมู่ 22,000 คนที่ Katyn - ผู้ชนะใส่ความผู้แพ้ ในความผิดที่ตนเองทำ


เช่นเดียวกับบทที่ 2 บทที่ 3 เป็นการนำการกระทำของฝ่ายผู้ชนะ ผู้เขียนประวัติศาสตร์ ผู้ตัดสินผู้แพ้ มาแสดง โดยจุดประสงค์ ประเด็นที่ผู้เขียนนำมาเสนอในบทความทั้งสองนั้น มิใช่เพื่อชี้ว่าใครดีใครเลว หรือว่าใครเลวกว่ากัน มิใช่เพื่อโน้มน้าวให้ชอบฝ่ายใดเกลียดชังฝ่ายใด ตามที่ดูเหมือนจะมีบางท่านเข้าใจผิดไป แต่จุดประสงค์ ประเด็น คือการแสดงให้เห็นว่า ประวัติศาสตร์มิได้มีเวอร์ชั่นเดียว โดยประวัติศาสตร์ที่ส่วนใหญ่ยึดถือเอาแบบฝังใจ คือเพียงประวัติศาสตร์เวอร์ชั่นที่ถูกเขียนโดยผู้ชนะ มีส่วนจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ตามที่ผู้ชนะต้องการให้เชื่อ และสามารถที่จะหลอกให้เชื่อได้ โดยหากจะเข้าใกล้ความจริงโดยแท้ ผู้ศึกษาจำเป็นต้องศึกษาข้อเท็จจริงทุกด้านให้ครบถ้วน ตรวจสอบความจริงของหลักฐาน แล้วจึงเอาไปวิเคราะห์ประมวลเอง มิใช่โดยการยึดเอาข้อมูลด้านเดียวอันเป็นข้อมูลจากผู้ให้ที่มีส่วนได้เสีย ที่ชนะสงคราม บอกให้เชื่อ และการเสนอข้อมูลข้องผู้เขียนซีรีส์นี้ คือการเสนอข้อเท็จจริง พร้อมหลักฐานและที่มา สำหรับให้ท่านผู้อ่านสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองและนำไปวิเคราะห์เอง มิได้ให้มาเชื่อตามผู้เขียน ทั้งนี้ทั้งนั้น ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ว่าสิ่งที่ผู้เขียนนำเสนอ คือข้อเท็จจริงที่ขัดกับประวัติศาสตร์ที่ส่วนใหญ่เชื่อกัน โดยท่านผู้อ่านใด หากยึดมั่นถือมั่นในประวัติศาสตร์เวอร์ชันที่ท่านถูกสอนให้เชื่อ ว่าเป็นความจริงโดยสมบูรณ์ไม่มีความเท็จเจือปน ชนิดไม่พร้อมแม้ที่จะรับข้อมูลข้อเท็จจริงอันใด ที่ขัดกับความเชื่อเดิม ไปพิจารณาตรวจสอบก่อนที่จะปฏิเสธ (ตามที่ผู้เขียนได้สังเกตจากการคอมเม้นต์ของบางท่าน) การอ่านบทความของผู้เขียนย่อมไม่สามารถเป็นประโยชน์อะไรแก่ท่านได้เลย แต่จะเป็นประโยชน์ได้เฉพาะกับท่านผู้อ่านที่พร้อมเปิดตา เปิดใจเท่านั้น โดยบทที่ 3 นี้น่าจะชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสามารถเชื่อถือผู้ชนะสงครามที่ได้เขียนประวัติศาสตร์ได้แบบไม่ลืมหูลืมตาหรือไม่ ผู้เขียนประวัติศาสตร์ที่กระทำการโกหกใส่ความผู้แพ้ ปกปิดในความผิดที่พวกตนได้กระทำเอง ดังต่อไปนี้:

Katyn Forest Massacre คือเหตุการณ์การฆ่าสังหารหมู่ที่โด่งดังที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีการฆ่าอย่างเลือดเย็น ชาวโปแลนด์ ทั้งผลเรือน และ ทหาร รวม 22,000 คน ในปี 1940 (Link ภาพสภาพพื้นที่เหตุการณ์ http://postimg.org/image/hgd8evskj/)



พื้นที่ดังกล่าวในโปแลนด์ เป็นพื้นที่ที่ทั้งทางเยอรมันและโซเวียต ได้พลัดกันยึดครองตลอดช่วงสงคราม โดยในการเข้ายึดกลับมาครั้งสุดท้ายโซเวียตได้เริ่มทำลายหลักฐาน เช่นทำลายสุสานที่ฝ่าย Nazi ได้อนุญาตให้ทาง Red Cross แห่งโปแลนด์มาทำไว้ และใน 1944 ได้จัดตั้ง ‘Burdenko Commission’ นำโดย Nikolai Burdenko ประธานมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ แห่ง USSR ไปตรวจสอบ ซึ่งได้สรุปว่าเป็นการกระทำของฝ่าย Nazi ในช่วงที่ยึดพื้นที่ในปี 1941 และ หลังเยอรมันได้แพ้สงครามในปี 1945 โซเวียตได้จับทหารเยอรมันหลายนายขึ้นศาลโซเวียตซึ่งได้ตัดสินโทษด้วยการประหารชีวิต และภายหลัง เรื่องการสังหารหมู่ Katyn กลายเป็นเรื่องที่ห้ามพูดถึงในโปแลนด์ อันเป็นพื้นที่ที่โซเวียตคุมหลังสงคราม

โซเวียต สหรัฐ และอังกฤษ ได้ร่วมปกปิดความจริงเรืองนี้มาเป็นเวลาร่วม 50 ปี โดยพวกเขา พร้อมกับสื่อตะวันตกทั้งหลาย ได้โทษ Naziเป็นผู้กระทำ แต่ภายหลังการกดดันโดยนักวิชาการชาวโปแลนด์รวมถึงการประท้วงหลังการเยือนโปแลนด์ของประธานาธิบดี Gorbachev ในปี 1990 ประธานาธิบดี Gorbachev ได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นการกระทำของ โซเวียต และในปี 1992 หลังการสลายของสหภาพโซเวียตอย่างเป็นทางการ รัฐบาลรัสเซียได้เปิดเผยเอกสารลับ จดหมาย ‘Top Secret’ จาก Beria หัวหน้าตำรวจลับ NKVD ถึง Joseph Stalin ผู้นำโซเวียต ซึ่งพร้อมด้วยสมาชิก Politbureau อีกสามท่าน ได้ร่วมเซ็นชื่อหลังคำว่า ‘Za’ (อนุมัติ) ตามข้อเสนอให้ประหารหมู่ชาวโปแลนด์ 25,700 คน
เชิญดูภาพเอกสารลับการสั่งฆ่าสังหารหมู่โดย Stalin ที่ได้มีการเปิด พร้อมคำแปลจากภาษารัสเซียเป็นภาษาอังกฤษตามได้ link นี้ http://news.bbc.co.uk/2/hi/europe/8649435.stm
ภายหลัง ในวันที่ 10 กันยายน 2012 สหรัฐเองได้เปิดเอกสารลับ 1,000 หน้า โดยส่วนที่น่าสนใจที่สุด ที่นักประวัติศาสตร์ทั้งหลายไม่เคยทราบกันมาก่อน คือหลักฐานการที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Roosevelt ได้รับข้อความลับส่งจากสายลับอเมริกันของตนเอง ที่ได้เคยเข้าไปสำรวจพื้นที่ Katynในปี 1941 พร้อมสายลับอังกฤษ ซึ่งทั้งสองรัฐบาลได้ร่วมปกปิดความจริงของการฆ่าล้างพันธุ์นี้มา โดยข้อความที่กัปตัน Donald B Stewart and พันเอก John Van Vliet ได้ส่งไป ได้แจ้งว่า ‘การสังหารหมู่ (ที่ Katyn) ได้เกิดขึ้นจากฝีมือของโซเวียต มิใช่ Nazi โดย Nazi ไม่ได้เข้าไปยึดพื้นที่นั้นจน 1941’ และเอกสารยังระบุต่อว่า ในการสอบสวนหลังสงครามในปี 1950 กัปตัน Donald B Stewart ยังได้ชี้แจงอีก ว่าเขาได้ประเมิน จากสภาพการย่อยสลายของศพเป็นอย่างมาก ว่าจะต้องเสียชีวิตก่อน Nazi เข้ายึดพื้นที่ในเดือนสิงหาคม 1941 และจากหลักฐานที่พบบนศพ อาทิเช่นจดหมาย และบันทึกต่างๆ ไม่มีชิ้นไหนที่ลงวันที่หลังฤดูใบไม้ผลิของปี 1940 http://www.bbc.com/news/world-europe-19552745
คำถาม:
ยังมีท่านผู้อ่านผู้ใด ที่คิดว่าประวัติศาสตร์ที่ฝ่ายพันธมิตรเขียนหลังสงคราม เขียนตามความเป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่มีการบิดเบือนใส่ร้ายผู้แพ้ โดยไม่มีการปกปิดกลบความผิดพวกตนเอง หรือไม่ ?
23/06/2558
แหล่งอ้างอิง
Excerpts: Beria letter to Stalin on Katyn
http://news.bbc.co.uk/2/hi/europe/8649435.stm
Minutes of the Politburo of the Central Committee meeting on March 5, 1940, excerpts. http://www.warsawuprising.com/katyn.htm
New evidence appears to back the idea that the Roosevelt administration helped cover up Soviet guilt for the 1940 Katyn massacre of Polish soldiers
http://www.bbc.com/news/world-europe-19552745
New documents on Katyn: Another portion of lies from US?
http://english.pravda.ru/history/14-09-2012/122166-katyn-0/
The Katyn Controversy: Stalin's Killing Field
https://www.cia.gov/…/csi-stu…/studies/winter99-00/art6.html
Katyn Massacre
http://www.newworldencyclopedia.org/entry/Katyn_Massacre
Press Releases 2012
http://poland.usembassy.gov/documents.html


จาก ความจริงที่เขาปิดบัง ความเท็จที่เขาหลอกลวง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น