อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การถือศีลอดของนกเพ็นกวิน




.
มีคำพูดของท่านนบีมุฮัมมัดซึ่งเป็นเรื่องน่าคิดตอนหนึ่งว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างมีซะกาต และซะกาตของร่างกายคือการถือศีลอด”
คำพูดดังกล่าวสร้างความฉงนฉงายให้แก่ใครบางคนที่ใช้สติปัญญา เพราะคำว่า “ซะกาต”ในภาษาอาหรับมีความหมายว่า “การขัดเกลาให้สะอาดบริสุทธิ์” และ “การเจริญเติบโต”
ในทางศาสนา “ซะกาต” คือวิธีการขัดเกลาจิตใจให้พ้นจากมลทินแห่งความตระหนี่โดยการที่คนมีทรัพย์สินประเภทเงินสด ทองคำ สินค้าและหุ้นถึงมูลค่าเท่ากับราคาทองคำ 5.6 บาทจะต้องจ่าย 2.5% ให้แก่บุคคลที่ศาสนากำหนดไว้ เช่น คนยากจน คนขัดสนทุกปีจันทรคติ การละเว้นหรือจ่ายไม่ครบถือเป็นการยักยอกทรัพย์สินของพระเจ้าที่ทรงกันไว้สำหรับคนเหล่านั้น จึงถือเป็นบาปใหญ่ เมื่อจ่ายซะกาตออกไปแล้ว ผลที่ตามมาก็คือเศรษฐกิจจะหมุนเวียนและมีการเจริญเติบโตตามความหมายของคำว่าซะกาต
ส่วนข้อความที่ว่า “ซะกาตของร่างกายคือการถือศีลอด”นั้น ใครที่มีสติปัญญาก็พอจะทำความเข้าใจได้ เพราะในช่วงการถือศีลอดโดยการงดเว้นจากการกินการดื่มตลอดเวลากลางวันนั้น อย่างน้อยที่สุด ระบบย่อยอาหารจะได้รับการพักและร่างกายจะเกิดกระบวนการขับถ่ายสารพิษบางอย่างออกจากร่างกาย
การถือศีลอดไม่เพียงแต่จะเป็นพฤติกรรมของมนุษย์ที่มีความเชื่อทางด้านศาสนาเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่าแม้แต่สัตว์หลายชนิดก็ยังมีพฤติกรรมการอดอาหารเช่นกัน
เพ็นกวินเป็นนกทะเลประเภทหนึ่งที่อาศัยอยู่พื้นที่เขตหนาว ความจริงแล้ว นกเพ็นกวินมีถึง 17 สายพันธุ์ด้วยกันในโลก มีเพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในเขตขั้วโลกเหนือในขณะที่สายพันธุ์อื่นๆกระจายกันอยู่อย่างกว้างขวางในทางซีกโลกใต้ตั้งแต่ออสเตรเลียใต้ อาฟริกาและอเมริกา
สายพันธุ์ของนกเพ็นกวินมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในเรื่องการวางไข่และการฟักไข่ สำหรับสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในซีกโลกใต้ พวกมันจะใช้เวลาตลอดฤดูหนาวที่นั่น เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง พวกมันจะพากันกลับไปยังดินแดนของพวกมันในขั้วโลกเหนือซึ่งอยู่ห่างออกไปนับพันไมล์จนกระทั่งมันมาถึงจุดหมายและถิ่นฐานที่เหมาะสมของมันเพื่อการสืบพันธุ์ของมัน
เมื่อมาถึงที่นั่น มันจะเริ่มลงมือสร้างรังของมันทันทีจากเศษหิน หลังจากนั้นอีกสามสัปดาห์นับตั้งแต่วันที่มันมาถึง รังของมันก็จะถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์และหลังจากนั้นก็จะเริ่มกระบวนการสืบพันธุ์ โดยปกติแล้ว ตัวเมียจะวางไข่สีขาวสองฟองและสีฟ้าอีกหนึ่งฟอง นกเพ็นกวินตัวผู้จะทำหน้าที่กกไข่แทนตัวเมียที่จะยุ่งอยู่กับการหาอาหารในทะเลลึก ส่วนนกเพ็นกวินตัวผู้ก็จะอยู่ในสภาพจำศีลอดอาหารเป็นเวลาสองสัปดาห์จนกระทั่งลูกนกเริ่มพัฒนาเป็นตัว ช่วงเวลานี้เองที่นกเพ็นกวินตัวผู้จะรีบออกไปยังทะเลอย่างรวดเร็วเพื่อเพื่อละศีลอดด้วยการกินอาหารที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้มัน ขณะเดียวกันแม่นกเพ็นกวินก็จะกลับมาเพื่อป้อนอาหารให้แก่ลูกตัวน้อยของมัน
มีนกเพ็นกวินอีกชนิดหนึ่งซึ่งไม่เหมือนสายพันธุ์อื่นๆ นกเพ็นกวินสายพันธุ์นี้ถูกเรียกว่า “จักรพรรดิ” มันจะไม่สร้างรังสำหรับลูกของมัน แต่มันจะใช้เวลาในฤดูหนาวเพื่อวางไข่ แม่นกเพ็นกวินจะวางไข่ แต่ไม่ใช่บนหิมะ หากแต่บนเท้าของมัน บางครั้ง นกเพ็นกวินตัวผู้ (พ่อนก) จะช่วยแบ่งเบาภาระตัวเมียในการกกไข่และจะอยู่ในสภาพถือศีลอดอาหารตลอดฤดูหนาว
เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง หิมะเริ่มละลาย ไข่ก็จะถูกฟักออกเป็นตัว ความลับที่อยู่เบื้องหลังการอดอาหารอย่างเข้มงวดนี้ก็คือว่าไข่ของนกเพ็นกวินต้องการความอบอุ่นระดับหนึ่งเป็นการเฉพาะ ถ้าไม่มีการอดอาหารระหว่างการกกไข่ ลูกนกเพ็นกวินก็ไม่อาจฟักออกมาเป็นตัวเพื่อสืบสายพันธุ์บรรพบุรุษของมันจนถึงวันนี้ได้
เมื่อลูกนกเพ็นกวินโตขึ้น มันก็จะเริ่มต้นถือศีลอดโดยการละเว้นจากการกินอาหารระยะหนึ่งจนกระทั่งขนอ่อนของมันหลุดออกและมีขนแท้ขึ้นมาปกคลุมร่างกายแทน เมื่อถึงเวลานี้ มันจะรีบออกไปยังทะเลเพื่อประกาศว่ามันได้สิ้นสุดการถือศีลอดแล้วโดยการกินและดื่มตามปรกติ
สำหรับนกเพ็นกวินที่มีอายุมาก มันจะถือศีลอดระยะเวลาหนึ่งเพื่อผลัดขน เมื่อขนใหม่ที่ดูเป็นประกายกว่าขึ้นมาแทนขนเก่าที่หลุดไป มันก็จะฉลองขนใหม่โดยการกระโจนลงไปในทะเลอย่างมีความสุขราวกับจะเลียนแบบมนุษย์ที่ได้ใส่เสื้อตัวใหม่ในวันอีดที่มาถึงหลังจากพ้นการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
มันเลียนแบบมนุษย์หรือว่ามนุษย์เลียนแบบมัน ? นี่คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ฉงน แต่ที่แน่ๆก็คือเราสามารถกล่าวได้ว่า “ มันเป็นแบบแผน(ซุนนะฮฺ)ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมา”
ไม่เพียงแต่นกเพ็นกวินเท่านั้นที่มีพฤติกรรมการอดอาหารในบางช่วงเวลาของชีวิต สัตว์อื่นๆอย่างเช่น กบ ไก่ หมี ก็ยังมีพฤติกรรมการถือศีลอดเช่นกันทั้งนี้เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ของมัน
:
โดยบรรจง บินกาซัน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น