อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สิ่งที่อิหม่ามควรระวัง



บางมัสยิด อิหม่ามเอาอัลกุรอ่านเล่มใหญ่มาวางเปิดไว้ข้างหน้า เพื่อจะได้อ่านให้ยาวๆ บางมัสยิดอิหม่ามถืออัลกุรอ่านอ่าน เพื่อจะได้อ่านยาวยาว ให้หรอยอกตัวเอง โดยไม่คำนึงถึง ความแตกต่างระหวางบุคคล และระดับอิหม่าน และความจำเป็นของมะมูมที่อยู่ข้างหลัง
คนเป็นอิหม่ามต้องคำนึงด้วยว่า "คนที่เป็นมะมูมนั้น มีหลายระดับ มีคนแก่ คนสุขภาพไม่ดี แม่ลูกอ่อน เด็กวัยรุ่น เด็กๆ เพราะฉะนั้นไม่ควรอ่านยาวเกินไป อย่างเช่นในกรณีของ มุอาซ (รอฎิยัลลอฮุอันฮุ) ท่านศาสนทูต มุฮัมมัด ได้กล่าวกับเขาว่า
;...فَأَيُّكُمْ أَمَّ النَّاسَ فَلْيُوجِزْ فَإِنَّ مِنْ وَرَائِهِ الْكَبِيرَ وَالضَّعِيفَ وَذَا الْحَاجَةِ ـ رواه مسلم رقم 1072
“ดังนั้นบุคคลใดได้ปฏิบัติหน้าที่นำนมาซ(อิมาม) ให้กับผู้คน เขาจงนำนมาซให้สั้นลง
เนื่องจากบรรดาผู้ที่ตามอยู่หลังเขา(เป็นมะมูม) มีทั้งผู้ที่ชราภาพ อ่อนแอ และผู้ที่มีกิจธุระจำเป็นสำหรับเขา
ในอีกรายงานหนึ่งระบุว่า:
;فَإذَا صَلَّى وَحْدَهُ فَليُصَلِّ كَيْفَ يَشَاءُ
ความว่า: “เมื่อเขาละหมาดคนเดียว ก็จงละหมาดตามแต่ที่เขาประสงค์เถิด”
จากอิบนุ มัสอูด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า :
أَتَى رَجُلٌ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ : إِنِّي لأَتَأَخَّرُ عَنْ صَلاَةِ الْغَدَاةِ مِنْ أَجْلِ فُلاَنٍ مِمَّا يُطِيلُ بِنَا، قَالَ: فَمَا رَأَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَطُّ أَشَدَّ غَضَبًا فِى مَوْعِظَةٍ مِنْهُ يَوْمَئِذٍ، قَالَ : فَقَالَ; يَا أَيُّهَا النَّاسُ إِنَّ مِنْكُمْ مُنَفِّرِينَ، فَأَيُّكُمْ مَا صَلَّى بِالنَّاسِ فَلْيَتَجَوَّزْ، فَإِنَّ فِيهِمُ الْمَرِيضَ وَالْكَبِيرَ وَذَا الْحَاجَةِ
ความว่า มีชายคนหนึ่งได้มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม และกล่าวว่า “แท้จริงฉันจะไปละหมาดศุบห์ช้าเพราะสาเหตุจากอิมามคนหนึ่งที่ยืน(ละหมาด)นานกับพวกเรา” อิบนุ มัสอูดเล่าต่อว่า แล้วฉันก็ไม่เคยเห็นท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม มีอาการโกรธในการตักเตือนมากที่สุดยิ่งไปกว่าวันนั้น ซึ่งท่านกล่าวว่า “โอ้ ผู้คนทั้งหลาย แท้จริงในหมู่พวกท่านมีผู้ที่ทำให้ผู้อื่นเตลิดหนี ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่นำละหมาดแก่คนอื่น เขาก็จงทำให้รวบรัด เพราะในหมู่พวกเขามีคนป่วย คนชรา และผู้ที่มีธุระอยู่ด้วย “ (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ : 6110 และมุสลิม : 466)
.......................
เป็นอิหม่ามไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้แก่มะมูมที่อ่อนแอ ด้วยการอ่านยาวตามความต้องการของตน ควรคำนึงถึงความแตกต่างของมะมูมด้วยว่า ในหมู่พวกเขามีคนป่วย คนชรา และผู้ที่มีธุระอยู่ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น