อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การละหมาดกิยามุลลัยล์ และการเอี๊ยะอฺติก้าฟของท่านนบี


"การละหมาดกิยามุลลัยล์" จากหะดีษเรื่องการละหมาดกิยามุลลัยล์ของท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมก็คือ ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเดือนรอมะฎอนหรือมิใช่รอมะฎอน ท่านจะทำละหมาดนี้ในบ้านของท่านเท่านั้น ยกเว้นสามคืนนั้นที่ท่านออกมานำเศาะหาบะฮ์ของท่านละหมาด

ส่วนการเอี๊ยะอฺติก้าฟ ตามหลักฐานจากการบันทึกของท่านบุคอรีย์, ท่านมุสลิม และท่านอื่นๆรายงานมาว่า สถานที่เอี๊ยะอฺติก้าฟของท่านนบีย์ มิใช่กระทำอย่างเปิดเผยภายในมัสยิดเหมือนเศาะหาบะฮ์ท่านอื่นๆ

 แต่ท่านจะสั่งให้ภริยาของทำสถานที่เอี๊ยะอฺติก้าฟ "เฉพาะตัวท่าน" ด้วยการนำเสื่อหรือผ้าขนสัตว์คลุมเป็นเต็นท์เล็กๆที่มุมหนึ่งของมัสยิดใกล้ๆกับบ้านของท่านเอง

เพราะฉะนั้น ในคืนอื่นๆ่เมื่อเสร็จจากการละหมาดกิยามุลลัยล์ "ในบ้าน" แล้ว ท่านก็จะเข้าสู่ที่เอี๊ยะอฺติก้าฟประจำของท่าน

ส่วนในสามคืนที่ท่านออกมานำเศาะหาบะฮ์ละหมาดกิยามุลลัยล์ในมัสยิด พอเสร็จจากการละหมาด ท่านก็เข้าสู่สถานที่เอี๊ยะอฺติก้าฟของท่านเหมือนคืนอื่นๆเช่นเดียวกัน นี่คือ

วัลลอฮุอะอฺลัม

..............................
อ.ปราโมทย์  ศรีอุทัย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น