อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ความจริงเบื้องหลังสงคราม - ‘หากลูกชายข้าพเจ้าไม่ต้องการสงคราม ก็จะไม่มีสงคราม’



บทที่ 5 - ความจริงเบื้องหลังสงคราม - ‘หากลูกชายข้าพเจ้าไม่ต้องการสงคราม ก็จะไม่มีสงคราม’


‘หากลูกชายข้าพเจ้าไม่ต้องการสงคราม ก็จะไม่มีสงคราม’ [1] คือคำในช่วงท้ายชีวิตของ Gutle Schnaper Rothschild ภรรยา ของ Mayer Amschel Rothschild ผู้ซึ่งนิตยสาร Forbes กล่าวถึงในฐานะ ‘บิดาแห่งการธนาคารโลก’ โดยลูกชาย 5 คนของทั้งสองได้ขยายการควบคุมทางการเงินและอำนาจเหนือการเมืองยุโรป ตามที่ 1 ในลูกชายนั้น Baron Nathan Mayer Rothschild ได้แสดงไว้ ‘ข้าพเจ้าไม่สนใจว่าหุ่นเชิดใดจะมานั่งบัลลังก์ของอังกฤษเพื่อปกครองราชอาณาจักรที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ผู้ใดควบคุมเงินหมุนเวียนของอังกฤษ ผู้นั้นควบคุมราชอาณาจักรอังกฤษ และข้าพเจ้าคือผู้ควบคุมเงินหมุนเวียนของอังกฤษ’[2] หรือ ‘ผู้ใดควบคุมการพิมพ์เงินตรา ผู้นั้นควบคุมรัฐบาล’ [3] โดยตระกูล Rothschildได้รับสิทธิการพิมพ์เงินตราของอังกฤษ ได้ควบคุมการเงินของยุโรป ได้คุมโลกตะวันตก พร้อมเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสร้างสงครามต่างๆมาแต่ไหนแต่ไร โดยไม่ว่าจะสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 หรือ สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่กำลังจะปะทุขึ้น กลุ่มทุนธนาคาร Zionist เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างชักใยทั้งสิ้น
Rothschild เป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกฝ่ายในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยธนาคาร Rothschild แห่งเยอรมนีเป็นผู้ปล่อยกู้ให้เยอรมัน ธนาคาร Rothschild แห่งอังกฤษเป็นผู้ปล่อยกู้ให้อังกฤษ ธนาคาร Rothschild แห่งฝรั่งเศสเป็นผู้ปล่อยกู้ให้ฝรั่งเศส [4]
จุดหมาย และ การกระทำของกลุ่มทุนธนาคาร Zionists ที่สำเร็จไปในสงครามโลกครั้งที่ 1
(1.1) ล้มพระเจ้า Tsar แห่ง Russia และเปลี่ยนให้เป็นระบบ Communist ทำลายศาสนา วัฒนธรรม
(1.2) อังกฤษยึด Palestine และ ตกลงให้เป็นดินแดนของชาวยิว
(1.3) หลอกหักหลัง ทำลายเยอรมนีครั้งที่ 1
(1.1) พระเจ้า Tsar Nicholas I แห่ง Russia ได้มองชาวยิวเป็นภัยต่อสังคม และได้สร้างกฎหมายกีดกันชาวยิวหลายข้อ ทำให้ชาวยิวต้องอพยพจำนวนมาก ซึ่ง Tsar Nicholas II ได้รักษาไว้ [5] และจากการที่ตระกูล Romanov ได้กีดกันความประสงค์ของ Rothschild และกลุ่มทุนธนาคาร Zionists ที่ต้องการจัดตั้งธนาคารในRussia Zionist ยิวได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติที่ Russia ทั้งทางด้านเงินทุน และการก่อตั้ง โดยนายธนาคาร Wall Street Jacob Schiff (Zionist) ได้นำ Leon Trotsky (ชื่อจริงยิวคือ Lev Bronstein) ไป New York ในปี 1916 และ ได้ให้ทุนเป็นทองมูลค่า $ 20 ล้าน (ปัจจุบันเป็นพันล้าน) เพื่อก่อการปฏิวัติ โดยนอกจาก Trotsky และ Lenin แล้ว ผู้นำ Bolshevik รวมถึง Grigory Zinoviev, Yakov Sverdlov, Lev Kamenev (aka Rozenfeld), Karl Radek, Leonid Krassin, Alexander Litvinov, and Lazar Kaganovich เป็นชนชาติยิวที่มีบทบาทโดดเด่นในการปฏิวัติทั้งสิ้น [6] และ กลุ่มของ Zionist ยิว อีก 6 คน Aron Solts, Yakov Rappoport, Lazar Kogan, Matvei Berman, Genrikh Yagoda, and Naftaly Frenkel ต่อมาได้ไปสร้างและคุมการฆ่าล้างชาวคริสและผู้ไม่ใช่ยิวหลายสิบล้านคน
(1.2) ตลอดสงครามจน 1917 กลุ่ม Zionist ได้สนับสนุนฝ่าย เยอรมัน เพราะอังกฤษ กับ ฝรั่งเศส อยู่ฝ่ายรัสเซีย จนหลัง Tsar Nicholas II ได้สละราชสมบัติไปแล้วโดยขณะนั้น ยังไม่มีทหารชาติอื่นได้บุกรุกเข้าไปเหยียบเยอรมนีเลยแม้คนเดียว ทางเยอรมันได้ยื่นข้อเสนอยุติสงครามแก่อังกฤษโดยไม่มีการปรับโทษใดๆ ในระหว่างที่อังกฤษพิจารณาอยู่ นายหน้าของทุน Zionist Louis Brandeis ได้ส่งคณะไปเจรจากับอังกฤษโดยสัญญาจะนำสหรัฐเข้ามาสู้ร่วมกับอังกฤษในสงคราม แลกเปลี่ยนกับการที่อังกฤษจะต้องยก Palestine ให้ Rothschild ซึ่งในวันที่ 2 พฤศจิกายนรัฐมนตรีต่างประเทศได้เขียนจดหมายถึง Lord Rothschild เรียกว่า Balfour Declaration [8] แสดงการตกลงกับ Rothschild ยก Palestine ให้เพื่อเป็นที่อยู่ของชาวยิว 1 เดือนก่อนที่อังกฤษจะยึด Palestine ทั้งหมดสำเร็จ
(1.3) ทั้งที่ก่อนหน้านี้กลุ่ม Zionist ได้สนับสนุนเยอรมันนี้ ในฐานะเป็นประเทศที่เมตตาที่สุดประเทศหนึงกับชาวยิว โดยให้ความเสมอภาคกับชาวเยอรมันเอง พร้อมได้ให้ที่พักพิงกับชาวยิวที่อพยพหนีมาจาก Russia ทันทีที่ Rothschild ได้ตกลงเกี่ยวกับ Palestine หนังสือพิมพ์ในสหรัฐที่ถูกควบคุมโดยชาวยิวก็เริ่มแต่งเรื่องประโคมข่าวใส่ร้ายเยอรมันว่า ฆ่านางพยาบาล Red Cross บ้าง ตัดมือเด็กทารกบ้าง เพื่อหลอกปลุกปั้นประชาชนอเมริกันให้ต่อต้านเยอรมัน ในที่สุดจากการหักหลังของ Rothschild เยอรมันต้องแพ้สงครามจ่ายค่าเสียหายมากมายจนเศรษฐกิจล้มสลายพินาศ

จุดหมาย และ การกระทำของกลุ่มทุนธนาคาร Zionists ที่สำเร็จไปในสงครามโลกครั้งที่ 2
(2.1) ทำลายเยอรมนี พร้อม National Socialist ระบบเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่จะกลายเป็นคู่แขนงเหนือ Capitalist และ Communist ระบบทั้ง 2 ของทุน Zionist
(2.2) ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจชาวยิว ทำให้ Zionism แข็งแกร่งเพื่อยึด Palestine สร้างเป็นรัฐ Israel
(2.3) ทำให้ Communist แข็งแกร่ง แพร่กระจาย โลกเป็น 2 ขั้ว บีบให้ชาติต่างๆต้องเลือกขั้ว
(2.1) หลังพ่ายสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีต้องจ่ายค่าเสียหายมากมายให้กับผู้ชนะ เมื่อจ่ายได้ไม่หมด ฝรั่งเศสก็ได้เข้ามายึดพื้นที่ต่างๆพร้อมทรัพยากร ทางเยอรมันเอง เมื่อไม่เหลือทองคำในคลังเลย ไม่มีหลักคํ้าเงินสกุล Mark เงิน Mark นั้นถูกทุบลงไปเรื่อยๆจนกลายเป็นเศษกระดาษที่ไม่มีค่า จากปี 1918 มีมูลค่า 5.2 Mark ต่อ 1 USD ต่อมาในปี 1921 มีมูลค่า 64.9 Mark ต่อ 1 USD และ ในที่สุดในปี 1923 มีมูลค่า เพียง 4.2 ล้านล้าน Mark ต่อ 1 USD ขนมปังหนึ่งโหลมีราคา 2 ล้านล้าน Mark เงินสะสมของประชาชนทุกคนหมดค่ากลายเป็นศูนย์ ในเวลาเดียวกันกลุ่มทุนยิวมองว่าเป็นโอกาสทองในการทำกำไรโดยการลงทุนที่ตํ่า การปล่อยกู้เก็บดอกเบี้ยสูงอันส่งผลให้เกิดบังคับขาย สูญเสียทรัพย์สินของผู้กู้ชาวเยอรมันให้กับกลุ่มทุน Zionist ที่ได้เข้ามาครอบงำทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สื่อ พร้อมทั้งการทำลายวัฒนธรรมของชาวเยอรมัน
ภายหลังการจงใจล้มตลาดทุน Wall Street ใน 1929 กระทำโดยกลุ่มของ Rockefeller JPMorgan Rothschilds ที่ได้ทำลายธนาคารเล็กๆในสหรัฐ 16,000 แห่ง โดยทุนใหญ่ของพวกตนได้ถอนตัวออกก่อนการ กว้านซื้อทุกอย่างในราคาที่ถูก สหรัฐได้เรียกหนี้คืนจากเยอรมันภายใน 90 วัน อันส่งผลให้เยอรมันเป็นประเทศที่ล้มละลายโดยสมบูรณ์ อุตสาหกรรมต่างๆล้มกัน การว่างงานจาก 650,000 คนในปี 1928 ขึ้นมาเป็น 3 ล้านคนในปี 1930 สูงสุดในปี 1933 มีการว่างงานระหว่าง 6-7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชายทั้งสิ้น ไม่มีเงินสำหรับอาหาร เสื้อผ้า การทำความอุ่นในครัวเรือนตนเอง
เมื่อ Hitler ได้เข้ามามีอำนาจ ประเทศไม่มีเงินในคลังเลย แต่มีปัญหาคนว่างงาน 6-7 ล้านคน Hitler ได้เน้นระบบเศรษฐกิจเพื่อประชาชน และ ‘Autarky’ หรือเศรษฐกิจพึ่งพาตนเอง (Self-Sufficient) พร้อมได้สร้างความสามัคคีระหว่างแรงงานและผู้จ้างงาน โดยเมื่อผ่านไป 2 ปี ครึ่ง ปัญหาการว่างงานได้ลดลงไปมาก และภายใน 5 ปี เขาได้ขจัดปัญหาการว่างงานในเยอรมนีโดยสิ้นเชิง
การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ Hitlerได้กระทำโดยปราศจากเงินจากกลุ่มทุนธนาคาร Zionist แม้แต่น้อย เขาสร้าง Autobahn ทางหลวงเยอรมนีจากวัสดุผลิตในเยอรมันล้วนๆ เขาได้ร่วมออกแบบรถ Volkwagen แปลว่า ‘รถของประชาชน’ โดยรถเต่าทองนี้เป็นรถที่มีการสร้างมากที่สุดในโลก สำหรับการผลิตเสื้อผ้า ในเมื่อการซื้อฝ้าย (Cotton) จำเป็นต้องซื้อโดยการใช้ USD ภายใต้ Hitler จึงได้มีการคิดค้นผลิตผ้า Rayon ขึ้นมา โดยการนำขนแกะเยอรมันมาผลิต ภายใน 4 ปี Hitler ได้สร้างบ้าน 1.5 ล้านหลัง โดยให้ประชาชนสามารถผ่อนได้ 10 ปี หากมีลูก 1 คนให้ลดหนี้ลง 25% หากมีลูกถึง 4 คน ให้ยกเลิกหนี้ทั้งหมด โดยเขาเชื่อว่าครอบครัวที่ใหญ่จะมีการจับจ่ายมาก จะมีการจ่ายภาษีคุ้มกับการลดปลดหนี้ ปรากฏว่าภายในไม่กี่ปี การเก็บภาษีของรัฐเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว สำหรับแรงงานผู้เช่าอาศัย ค่าเช่าจะอยู่ไม่เกิน 1 ใน 8 ของรายได้ต่อเดือน และเป็นครั้งแรกในโลกที่แรงงานสามารถพาครอบครัวไปเที่ยวพักร้อนต่างประเทศ โดย Hitler ได้สร้างเรือ Cruise หลายลำเพื่อให้แรงงานชาวเยอรมันสามารถไปเที่ยวได้ในราคาที่ถูก โดยส่วนใหญ่เรือ Cruise จะไปตามเกาะแถบสเปน สำหรับผู้ให้แรงงานทั่วไป เปรียบเทียบกับก่อน Hitler เข้ามา มีรายได้มากกว่าเดิม 2 เท่าโดยค่าเงินยังคงเดิม
Hitler ได้ฟื้นเศรษฐกิจเยอรมนีกลับมาเป็นมหาอำนาจอย่างรวดเร็วอัศจรรย์ สร้างระบบการค้าของเยอรมันโดยไม่ใช้ USD เลย แต่จะเน้นในการ Barter แลกเปลี่ยนเป็นหลัก จากระบบนี้เองที่ กลุ่ม Anglo - American Zionist Banksters เสียผลประโยชน์ กลัวว่าเยอรมันที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นแบบอย่างเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศอื่นทั่วโลก แทนระบบที่พวกตนเองควบคุม จึงกลายเป็นระบบที่ Zionist จำเป็นต้องทำลายเสีย โดยในการประกาศสงคราม Jewish World Congress ของยิว 14 ล้านคน เป็นผู้เริ่มประกาศสงครามกับเยอรมนี พร้อมการควํ่าบาตร ไม่ใช่ Hitler อังกฤษ ที่รับใช้ Zionist เป็นผู้ประกาศสงครามกับเยอรมนี ไม่ใช่ Hitler และ อังกฤษเป็นผู้เริ่มทิ้งระเบิดใส่พลเรือน ไม่ใช่ Hitler และ เป็นผู้ไม่ยอมเจรจายุติสงครามทั้งที่ Hitler ได้เสนอหลายต่อหลายครั้ง จากคำพูดของ Churchill ที่รับใช้ Zionist เขาได้ยืนยันเจตนาอย่างชัดเจน ตามที่ได้กล่าวกับ Lord Robert Boothby ‘ความผิดอย่างให้อภัยไม่ได้ของเยอรมนีก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ การพยายามปลีกอำนาจทางเศรษฐกิจของตนเองออกจากระบบการค้าของโลก และสร้างระบบใหม่ที่จะทำให้ระบบการเงินโลกเสียโอกาสในการทำกำไร’ [9] สาเหตุหลักในการสร้างสงครามไม่ใช่อื่นใดนอกจากนี้ คือการที่ทุนธนาคาร Zionist จะเสียประโยชน์การผูกขาดควบคุมระบบการเงินโลก ให้แก่ระบบที่ดีกว่าและไม่อยู่ภายใต้การผูกขาดนั้นเอง
(2.2) หลังได้คำสัญญาใน Palestine จากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว เป้าหมายต่อไปก็คือการสร้างรัฐ Israel ซึ่งก็ได้เกิดขึ้นตามแผนในปี 1948 โดยวิธีการก็คือการการสร้างเรื่องเท็จที่ไม่ได้เกิดขึ้น หรือ เรื่องเกินจริงต่างๆในสงคราม เพื่อสร้างความเห็นอกเห็นใจชาวยิว เพื่อสร้างแรงสนับสนุนใน Zionism ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อ กลบเกลื่อนการการฆ่าฟันล้างเผ่าพันธุ์ ยึดดินแดนจากชาว Palestine (บทที่ 7 - อีก 2 ตอน ผู้เขียนจะเข้าไปในรายละเอียดพร้อมเปิดโปงการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 นี้) และการรับเงินจำนวนมากทุกทุกปีที่มาสร้างประเทศใหม่ของ Rothschild ซึ่ง Walther Rothschild ได้สถานะเป็น ‘บิดาแห่ง Israel’ [10] โดยเงินค่าชดเชย Reparation จำนวนมากที่ได้จากเยอรมันนีได้สามารถเลี้ยงประชากร สร้างประเทศ ซื้ออาวุธลํ้าสมัยเหนือเพื่อนบ้านมากมาย นอกจากนี้แล้ว จากการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ หลอกลวงสร้างความสงสารอย่างต่อเนื้อง แม้ผ่านไป 70 ปี รัฐปรสิต Israel นี้ยังสามารถดูดงบประมาณปีละ $US 3 พันล้าน จากภาษีประชาชนชาวอเมริกันมาทุกปี ยังไม่รวมอาวุธที่ได้ฟรีอย่างมากมาย และกำลังจะเพิ่มเป็นปีละ $US 4.5 พันล้าน [11]
(2.3) หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิด 2 ขั้วอำนาจในโลก คือ โลกของ Capitalist และ Communist ซึ่งเป็นระบบที่กลุ่มทุน Zionists ได้สร้างทั้งสอง โดย Communist เป็นระบบที่จะไม่สามารถแข่งขันได้และได้ล้มก่อน แต่ในระหว่างนั้น ก็ได้ทำหน้าที่ในการทำลายล้างศาสนา และ วัฒนธรรมตามเจตนาของ Zionists อย่างกว้างขวาง และการมี 2 ขั้ว หมายถึงการสามารถบังคับให้ต้องเลือก ให้เห็นระบบ Capitalist พร้อมแบบแผนของ Globalization เป็นสิ่งที่ควรเดินตาม โดยทุนธนาคาร Zionist ได้ใช้แพร่อิทธิพลครอบงำยึดครองประเทศเหล่านั้น
‘โลกนี้ถูกคุมโดยบุคคลซึ่งแตกต่างอย่างมาก จากที่นึกคิดกันโดยผู้ที่ไม่ได้อยู่หลังฉาก’ Benjamin Disraeli นายกรัฐมนตรีอังกฤษ 2 สมัย [12]
24/07/2558
ป.ล. การต้องการทำลายประเทศที่ไม่ยอมอยู่ภายใต้ระบบการเงินของ Zionist ที่ได้เกิดขึ้นกับ Hitler ในสมัยนั้น กำลังแสดงความชัดเจนมากอย่างมาก ณ ปัจจุบัน โดยใน “National Military Strategy of the United States of America 2015” ที่ Pentagon เพิ่งประกาศ โดยแสดงถึงการที่ประเทศเช่น China และ Russia แม้สหรัฐยอมรับว่าไม่ได้จะบุกรุกสหรัฐ แต่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะมีความเป็นเอกเทศ ไม่ยอมอยู่ภายใต้ระบบของ Zionist สามารถอ่านได้ http://news.usni.org/…/document-2015-u-s-national-military-…
อ้างอิง
[1] "If my sons did not want wars, there would be none." Gutle Schnapper Rothschild http://quotationsbywomen.com/authorq/23404/
[2] "I care not what puppet is placed upon the throne of England to rule the Empire on which the sun never sets. The man who controls Britain's money supply controls the British Empire, and I control the British money supply" Baron Nathan Mayer Rothschild http://quotes.liberty-tree.ca/…/Nathan.Mayer.Rothschild.Quo…
http://www.globalresearch.ca/who-really-controls-th…/5445239
[3] Who controls the issuance of money controls the government!
Nathan Meyer Rothschild http://www.brainyquote.com/…/authors/n/nathan_meyer_rothsch…
[4]https://thedaysofnoah.wordpress.com/…/the-rothschild-1901-…/
[5] https://www.jewishvirtuallibrary.org/…/ejud_0002_0015_0_148…
[6] London Times 1919 http://inconvenienthistory.com/…/the_jewish_hand_in_the_wor…
http://www.russianworldforums.com/viewtopic.php?f=28&t=1906
http://www.wildboar.net/…/w…/whofinancedleninandtrotsky.html
http://www.truthcontrol.com/russian-revolution
[7] Aleksandr Solzhenitsyn (Nobel Peace Prize for literature) https://thedaysofnoah.wordpress.com/…/the-rothschild-1901-…/
[8] https://en.wikipedia.org/wiki/Balfour_Declaration
[9] Germany’s unforgivable crime before the second world war was her attempt to extricate her economic power from the world’s trading system and to create her own exchange mechanism which would deny world finance its opportunity to profit. (Churchill to Lord Robert Boothby, as quoted in: Sidney Rogerson, Propaganda in the Next War (Foreword to the second edition 2001).)
http://en.metapedia.org/wiki/Winston_Churchill
[10] http://www.sweetliberty.org/issues/israel/roth-israel.html
[11] http://www.rt.com/news/262505-israel-military-aid-us/
[12] ‘ The world is governed by very different personages from what is imagined by those who are not behind the scenes’.Benjamin Disraeli http://www.brainyquote.com/q…/quotes/b/benjamindi136330.html
http://www.goodreads.com/…/74751-the-world-is-governed-by-v…


จาก ความจริงที่เขาปิดบัง ความเท็จที่เขาหลอกลวง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น