อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สถานที่ละหมาดวันอีด สถานที่ใดอัฟฎ้อลกว่า ระหว่างมัสยิดกับลานกลางแจ้ง

ตอบโดย อ.ปราโมทย์  ศรีอุทัย

คำถาม
1.หากหมู่บ้านนั้นมีมัสยิด แต่ไม่มีลานกลางแจ้งเลย
2.หากหมู่บ้านนั้นมีมัสยิดแต่แคบ และมีลานกลางแจ้ง
3.หากหมู่บ้านนั้นมีมัสยิด และลานกลางแจ้ง แต่วันอีดนั้นฝนตก ดินแฉะ
4.หากหมู่บ้านนั้นมีมัสยิด และลานกลางแจ้ง และสถานที่ทั้งสอง มีลักษณะกว้าง สามารถบรรจุผู้คนได้เต็มเหมือนๆกัน
5.หากละหมาดอีดที่มัสยิดอัลฮารอม และมัสยิดอัลนาบาวี

ตอบ

เรื่องการละหมาดวันอีดในภาพรวมก็คือ ถ้าในสภาพการปกติ การละหมาดที่ลานกลางแจ้งย่อมดีกว่าการละหมาดในมัสยิดโดยไม่มีข้อขัดแย้ง นอกจากในมัสยิดอัล-หะรอมที่นครมักกะฮ์เพียงแห่งเดียว

 เพราะตลอดชีวิตของท่านนบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยปรากฏแม้แต่ครั้งเดียวว่า ท่านจะเคยละหมาดอีดในมัสยิดของท่านนอกจากจะออกไปละหมาดอีดที่มุศ็อลลาเท่านั้น

 อนึ่ง ตามที่มีบางรายงานมาว่า ครั้งหนึ่ง มีฝนตก ท่านนบีย์จึงละหมาดอีดในมัสยิด ปรากฏว่า หะดีษบทนี้สายรายงานอ่อนไม่น่าเชื่อถือ

ส่วนถ้าหากมีเหตุการณ์ที่จำเป็นจนไม่สามารถละหมาดอีดที่ลานกลางแจ้งได้ ก็อนุโลมให้ละหมาดอีดในมัสยิดได้โดยไม่มีข้อขัดแย้งเช่นเดียวกัน

วัลลอฮุ อะอฺลัมครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น