อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ขบวนการยิวไซออนิสต์ ลัทธิก่อการร้ายโลก



จากบันทึกลับบางส่วน(แค่เล็ก ๆ)ในแผนการณ์ของขบวนการยิวไซออนนิสต์สากล เกี่ยวกับเรื่องการควบคุมกลไกอำนาจโลกที่มนุษย์จะต้องขนหัวลุกโดยเฉพาะผู้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือ...

“พระผู้เป็นเจ้าทรงอนุญาตให้เราผู้เป็นประชากรที่ได้รับการคัดสรรแล้วจากพระองค์ได้สร้างพรสวรรค์อันเกิดจากการต้องอยู่กันอย่างกระจัดกระจายซึ่งดูคล้ายเป็นความอ่อนแอของเรา แต่ที่จริงกลับเป็นพละกำลังของเราซึ่งกำลังนำเราไปสู่ความมีอำนาจสูงสุดเหนือโลกทั้งโลก…”
อำนาจเช่นนี้หมายถึงว่า..

“อำนาจของเราจะมีอยู่ท่ามกลางสภาพอันง่อนแง่นของอำนาจทุกรูปแบบและเป็นอำนาจที่เหนียวแน่นมากกว่าอำนาจอื่นใด เพราะยังคงเป็นอำนาจ
ที่ไม่มีใครมองเห็น จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาที่มันมีพลังสูงสุด ก็จะไม่มีอำนาจ
หรือเล่ห์เหลี่ยมใดๆ สามารถทำลายมันลงได้อีกเลย”


และ“นี่แหละคือเหตุผลที่ ทำไมเราถึงต้องทำลายความศรัทธาทั้งมวลลงไปให้หมด ต้องยึดเอาหลักการความเชื่อที่มีต่อพระเจ้าออกไปเสียจากจิตใจของพวกกอยยิม(พวกที่ไม่ใช่ยิว) แล้วเอาการคำนวณทางคณิตศาสตร์และความต้องการทางวัตถุใส่เข้าไปแทนที่ เพื่อไม่ให้พวกมันมีเวลาคิดและสังเกตสังการณ์ เราจะต้องเบี่ยงเบนความสนใจพวกมันไปยังการค้าและการอุตสาหกรรมเพื่อให้ชาติทุกชาติถูกดูดกลืนเข้าไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์และการแข่งขันเพื่อผลกำไร และพวกมันจะมองไม่เห็นศัตรูที่แท้จริงของมันได้
และเพื่อจะขจัดอิสรภาพออกไปจากชุมชนของพวกมันให้หมด
เราจะต้องเอาอุตสาหกรรมมาวางเอาไว้บนพื้นฐานแห่งการเสี่ยงโชค
เพื่อให้ผลของมันลื่นหลุดไปจากมือผ่านเข้าไปสู่ระบบแห่งการเสี่ยงโชค…
นั่นก็คือ…ผ่านเข้ามาสู่มือของเรา…อุตสาหกรรมจะสูบเอาแรงงานและเงินทุนออกไปจากที่ดิน และถ่ายโอนเงินทั้งโลกเข้ามาสู่มือเราด้วย ระบบการเสี่ยงโชคหากำไร และมันจะทำให้พวกกอยยิมทั้งหลายล้วนแล้วแต่ต้องกลายเป็นคนชั้นต่ำในแต่ละชุมชน…” ??? ??? ???


บันทึกดังกล่าวยังอธิบายต่อไปอีกว่า…
“การต่อสู้แข่งขันเพื่อความวิเศษกว่ากันในทางเศรษฐกิจเช่นนี้นี่แหละ
ย่อมจะสร้างชุมชนที่แล้งน้ำใจ เย็นชา และปราศจากหัวใจขึ้นมา
ชุมชนเหล่านั้นจะหล่อเลี้ยงความเกลียดชังต่อชนชั้นที่สูงกว่า…
และกระทั่งต่อศาสนาอื่นใด ผู้นำทางอย่างเดียวของพวกเขาก็คือ…ผลกำไรนั่นก็คือ..ทองคำอันสามารถตอบสนองความยินดีปรีดาทางวัตถุให้กับเขาได้…กงล้อทุกอัน และเครื่องจักรกลของกลไกแห่งรัฐต่างๆ ล้วนแล้วแต่หมุนไปได้ด้วยเครื่องยนต์ซึ่งอยู่ในมือของเรา…ซึ่งก็คือเจ้าแม่แห่งทองคำนั่นเอง
พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานอัจฉริยภาพให้เรา ถ้ามีคนเป็นอัจฉริยะอยู่ในฝ่ายตรงกันข้ามแม้นว่ามันคิดจะสู้กับเรา…แต่คนมาใหม่น่ะหรือจะสู้กับคนที่ตั้งรกรากมาแล้วเก่าแก่ ศาสตร์แห่งเศรษฐกิจการเมืองซึ่งนักปราชญ์อาวุโสของเราได้ประดิษฐ์มานานแล้ว…มือหนึ่งซึ่งมองไม่เห็นในทุกๆ ส่วนของโลกนี่แหละที่จะให้พลังทางการเมือง ที่เป็นอิสระแก่เงินทุน การค้า อุตสาหกรรม อำนาจในการที่จะใช้กิเลสตัณหาของพวกเขา ระเบิดออกมาเป็นเปลวไฟ…

ครั้นแล้วก็จะถึงเวลาที่พวกชนชั้นต่ำเหล่านี้จะเดินตามการนำทางของเราไปต่อสู้กับอำนาจที่เป็นคู่แข่งขันของเรา มิใช่เพื่อการบรรลุถึงสิ่งที่ดีงาม หรือแม้กระทั่งในท้ายที่สุดก็มิใช่เพื่อทรัพย์สินเงินทองด้วยซ้ำ…แต่เพราะความเกลียดชังที่มีต่อพวกบรรดาชนชั้นสูงต่างหาก... .

เมื่อใดก็ตามที่ถึงเวลาซึ่งเราได้สร้างวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นทั่วโลกเมื่อนั้น…เราก็จะโยนฝูงกรรมกรลงไปในท้องถนน ฝูงชนเหล่านี้จะวิ่งไปวิ่งมาอย่างยินดีปรีดาเพื่อที่จะหลั่งเลือดบรรดาผู้ที่เขาอิจฉาริษยามาตั้งแต่ยังนอนเปล และพวกที่เขาจะปล้นยึดทรัพย์กลับมาเป็นของเขาได้…ส่วนสมบัติของเรา พวกเขาจะไม่แตะต้อง และไม่มีวันแตะต้องได้เลย
เพราะเราย่อมรู้เวลาที่พวกเขาจะเข้าโจมตี เนื่องจากเป็นเวลาที่เราจะกำหนดเอาไว้ให้…และเราย่อมสามารถหามาตรการป้องกันเอาไว้ได้ก่อนล่วงหน้า…”
หมายเหตุ... ถ้าหากมองถึงเหตุการณ์ทางการเมืองของประเทศรัสเซียในยุคที่เอกสารฉบับนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมาก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่า…เหตุใดพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ แห่งรัสเซียถึงกับตกตะลึงเมื่ออ่านเอกสารฉบับนี้…แต่ถึงแม้นพระองค์จะเชื่อ หรือไม่เชื่อหรือคิดเห็นเป็นประการใดต่อเอกสารชิ้นนี้ก็ตามที…แต่สุดท้ายพระองค์ก็ไม่อาจจะเอาชนะต่อ “อำนาจที่มองไม่เห็น” ที่ระเบิดขึ้นมาในสังคมรัสเซียจริงๆ…
และก็คงไม่เพียงแต่พระเจ้าซาร์แห่งรัสเซียเท่านั้น…อำนาจในลักษณะที่ว่านี้ก็ยังสามารถก่อให้เกิดความตกตะลึงกับใครต่อใครได้เสมอแม้กระทั่งตราบเท่าทุกวันนี้…โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงถ้อยคำที่บรรยายเอาไว้ในช่วงหนึ่งของบันทึกฉบับนี้ว่า…

“ทุกประเทศจะต้องจำเอาไว้ในใจว่า…ใครก็ตามที่พยายามทำข้อตกลงใดๆ
เพื่อต่อต้านอำนาจของเรานั้น…จะไม่ได้ก่อให้เกิดผลกำไรแก่พวกมันเลย…เรานั้นแข็งแกร่งเกินไปกว่าที่ใครจะต่อต้านได้ อำนาจของเราจะไม่มีวันหายไป ชาติไหน ๆ ก็จะไม่มีวันทำความตกลงอะไรกันได้โดยที่เราไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างลับ ๆหรอก…และ…กษัตริย์จะครองราชย์ได้ด้วยข้า…”

NOTE ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่า…แผนการณ์เหล่านี้ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว แต่เมื่อมาถึงทุกวันนี้คงต้องยอมรับว่าสิ่งต่าง ๆเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นในโลก ณ ปัจจุบันนี้แล้วในทุกประการ

...........................
Dariyah Muslimah‎



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น