อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การมีความสงบนิ่งขณะละหมาด



มีรายงานจากอบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า

أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ دَخَلَ الْمَسْجِدَ فَدَخَلَ رَجُلٌ فَصَلَّى فَسَلَّمَ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَرَدَّ وَقَالَ ارْجِعْ فَصَلِّ فَإِنَّكَ لَمْ تُصَلِّ فَرَجَعَ يُصَلِّي كَمَا صَلَّى ثُمَّ جَاءَ فَسَلَّمَ عَلَى النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فَقَالَ ارْجِعْ فَصَلِّ فَإِنَّكَ لَمْ تُصَلِّ ثَلَاثًا فَقَالَ وَالَّذِي بَعَثَكَ بِالْحَقِّ مَا أُحْسِنُ غَيْرَهُ فَعَلِّمْنِي فَقَالَ إِذَا قُمْتَ إِلَى الصَّلَاةِ فَكَبِّرْ ثُمَّ اقْرَأْ مَا تَيَسَّرَ مَعَكَ مِنْ الْقُرْآنِ ثُمَّ ارْكَعْ حَتَّى تَطْمَئِنَّ رَاكِعًا ثُمَّ ارْفَعْ حَتَّى تَعْدِلَ قَائِمًا ثُمَّ اسْجُدْ حَتَّى تَطْمَئِنَّ سَاجِدًا ثُمَّ ارْفَعْ حَتَّى تَطْمَئِنَّ جَالِسًا وَافْعَلْ ذَلِكَ فِي صَلَاتِكَ كُلِّهَا

“ความจริงแล้วท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้เข้าไปที่มัสญิด ขณะนั้นก็มีชายคนหนึ่งเข้าไปใน มัสญิดและก็ละหมาด (หลังจากละหมาดเสร็จ) เขาก็ให้สลามกับท่านนบี ศ็อลลัลลออุอะลัยฮิวะซัลลัม ดังนั้นท่านนบีก็ตอบรับสลาม และกล่าวว่า ท่านจงกลับไปละหมาดใหม่ ความจริงท่านยังไม่ได้ละหมาด ชายคนนั้นก็กลับไปละหมาดเหมือนดังเช่นที่ละหมาดในตอนแรก เสร็จแล้วก็มาหาท่านนบีและให้สลาม ท่านนบีกล่าวว่า ท่านจงกลับไปละหมาดใหม่  ความจริงท่านยังไม่ได้ละหมาด (เป็นแบบนี้อยู่)3 ครั้ง ชายคนนั้นก็กล่าวว่า ขอสาบานต่อผู้ซึ่งที่ส่งท่านมาด้วยกับสัจธรรม ฉันไม่สามารถปฏิบัติได้ดีไปกว่า นี้อีกแล้ว ดังนั้นสอนฉันที ท่านนบีกล่าวว่าชาย เมื่อท่านละหมาดก็จงตักบีร หลังจากนั้นให้อ่านอัลกุร อ่านที่ง่าย ๆ ที่ท่านท่องจำได้ หลังจากนั้นก็ก้มรุกัวอะจนกระทั่งจะสงบนิ่ง หลังจากนั้นก็เงยขึ้นยืนตรง จนสงบนิ่ง หลังจากนั้นก็ก้มสุหญูดจนกระทั่งสงบนิ่ง หลังจากนั้นก็ลุกกขึ้นมานั่งจนสงบนิ่ง ดังนั้นท่าน จงปฏิบัติสิ่งดังกล่าวที่ว่านี้ในการละหมาดทุกครั้ง"
(บันทึกโดยบุคอรียฺ หมวดที่ว่าด้วยเรื่องลักษณะการละหมาด : 760 มุสลิม หมวดที่ว่าด้วยเรื่องการละหมาด : 607)

คำอธิบาย :

การละหมาดนั้นเป็นเสาหลักของศาสนา เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากรองมาจากการกล่าวชะฮาดะฮฺทั้งสอง บุคคล ใดก็ตามจะเป็นมุสลิมที่สมบูรณ์ไม่ได้หากไม่ได้ละหมาด และแน่นอนท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น ก็ได้อธิบายชี้แจงถึงลักษณะของการละหมาดทั้งคำพุดและการกระทำ และเป็นไปไม่ได้เลยที่มุสลิมจะปฏิบัติ ละหมาดได้อย่างถุกต้องนอกจากว่าเขาจะต้องเรียนรู้วิธีปฏิบัติละหมาดจาก ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั่งอยู่ที่มัสญิดในมะดีนะฮฺ ต่อจากนั้นก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาละหมาด ที่มัสญิด โดยละหมาดในสภาพที่ยืน ก้มรุกัวอฺ ก้มสุหญูดไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง

ซึ่งท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้มองดูอยู่ และเมื่อชายคนนั้นละหมาดเสร็จแล้ว ก็มาหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม และให้สลามกับท่าน ท่านนบีก็ตอบรับสลามและสั่งใช้ให้ชายคนนั้นกลับไป ละหมาดใหม่เพราะเขาละหมาดไม่ถูกต้อง

ชายคนนั้นได้กลับไปละหมาดใหม่ซึ่งแต่ละครั้งเมื่อละหมาดเสร็จก็มาหาท่านนบี ซึ่งท่านนบีก็ได้สั่งให้เขากลับไป ละหมาดใหม่ถึงสามครั้ง และเมื่อเสร็จจากครั้งที่สามชายคนนั้นก็สาบานต่ออัลลอฮฺ และกล่าวกับท่านนบีว่า เขาไม่สามารถละหมาดได้ถูกต้องไปกว่านี้ และขอให้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมได้สอนการละหมาด ที่ถูกต้อง ดังนั้ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็สั่งใช้กับเขาว่า เมื่อจะละหมาดก็ให้ตักบีรฺ คือตักบีร่อตุล เอี๊ยะหฺรอม หลังจากนั้นก็ให้อ่านอายะฮฺอัลกุรอ่านที่สามารถท่องจำได้ หลังจากนั้นก็ก้มลงรุกัวอฺ และให้สงบนิ่งใน การรุกัวอฺก่อน ต่อจากนั้นก็เงยขึ้นมายืนตรงอย่างสงบนิ่ง ต่อจากนั้นก็จึงก้มลงสุหญูด และให้สงบนิ่งในการ สุหญูดก่อน ต่อจากนั้นก็ขึ้นมานั่งระหว่างสุหญูด และให้สงบนิ่งในการนั่งก่อน ต่อจากนั้นก็สุหญูดในครั้งที่สอง

และดังกล่าวนี้นั้นเป็นการปฏิบัติละหมาดครบสมบูรณ์ในหนึ่งร่อกาอะฮฺ ฉะนั้นแล้วท่านนบี จึงสั่งใช้กับชายคน ดังกล่าวให้ปฏิบัติละหมาดแบบที่กล่าวมาทุก ๆ ร่อกะอะฮฺในการละหมาด เพราะถ้าหากการละหมาดโดยมีความ สงบนิ่งมีสมาธิแล้ว จะสามารถอ่านอัลกุรอ่าน กล่าวสรรเสริญต่ออัลลอฮฺ และการขอดุอาอฺได้อย่างสมบูรณ์ ตลอดจนมีสมาธิมุ่งมั่นต่ออัลลอฮฺได้อย่างเต็มเปี่ยม

แน่นอนว่าหะดีษบทนี้นั้นมีความสำคัญต่อรุก่นอิสลามในการละหมาดเป็นอย่างยิ่ง ทั้งคำพูดและการปฏิบัติ ส่วนอิริยาบถอื่น ๆ ของการละหมาดนั้น ก็มีหะดีษอื่น ๆ ได้อธิบายตามลักษณะต่าง ๆ ของการละหมาด

บทเรียนจากหะดีษ :

1.เมื่อเข้าสู่การละหมาดต้องตักบีร่อตุลเอี๊ยะหฺรอมก่อนในตอนแรก

2.อ่านอัลฟาติหะฮฺในทุก ๆ ร่อกาอะฮฺ

3.ก้มรุกัวอฺ ยืนเอี๊ยะอฺติดาล ก้มสุหญูด และนั่งระหว่างสุหญูด ในสภาพที่สงบนิ่งมีสมาธิทุกครั้งในการละหมาด

4.การละหมาดที่ขาดสมาธิความสงบนิ่งนั้น เป็นการละหมาดที่ไม่ถูกต้อง


والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿


โดย วะร่อซะตุซซุนนะฮฺ
http://www.warasatussunnah.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น