อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การห้ามสตรีที่มีอิดดะฮฺบางประการจากการตายของสามี

 
อิดดะฮฺ หมายถึง การนับ การคำนวณ จุดประสงค์การนับหรือคำนวณ ก็คือ เวลาที่หญิงคำนวณนับวันของนางใช้เรียกระยะที่นางต้องรอคอยจนกว่าจะครบตามกำหนด หลังจากที่สามีตาย หรือได้หย่าจากนาง จึงจะอนุญาตให้แต่งงานให้ได้ ใช้เรียกช่วงของเวลานี้ว่า อิดดะฮฺ

การหิด้าด หรือการห้ามสตรีที่อิดดะฮฺจากการตายของสามี ศาสนาไม่ให้นางมีการกระทำการบางประการ ดังนี้

ประการที่ 1 การห้ามสตรีที่มีอิดดะฮฺ ใช้น้ำหอมทุกชนิด ด้วยการใช้น้ำหอมตามตัวของนาง เสื้อผ้าของนาง และไม่ใช้สิ่งต่างๆ ที่ทำให้เกิดความหอม

ประการที่ 2 การห้ามสตรีที่มีอิดดะฮฺ  ตกแต่งตามร่างกายของนาง ด้วยการใช้อาบสีด้วยใบเทียน และสิ่งต่างทุกชนิดของการตกแต่ง อันได้แก่ การย่อมสีผิวหนัง การทาตา เว้นแต่เพื่อการรักษา ก็สามารถที่จะทาตาได้ในเวลากลางคืน และลบมันออกในเวลากลางวัน และไม่มีปัญหาใดที่นางจะรักษาตาด้วยสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ยาทาตา หากสิ่งนั้นไม่ใช่การตกแต่ง

ประการที่ 3 การห้ามสตรีที่มีอิดดะฮฺ ตกแต่งด้วยเสื้อผ้าต่างๆ ด้วยการจัดเตรียมเพื่อการตกแต่ง จากสิ่งที่ทำขึ้นมาเพื่อการตกแต่ง และให้นางสวมใส่เสื้อผ้าไม่มีการตกแต่งใดๆ และไม่จำต้องกำหนดสีเฉพาะ จากสิ่งที่มีการสวมใส่กันเป็นปกติธรรมดา

ประการที่ 4 การห้ามสตรีที่มีอิดดะฮฺ สวมใส่เครื่องประดับทุกชนิด

ประการที่ 5 การห้ามสตรีที่มีอิดดะฮฺ นอนที่บ้านของคนอื่น ที่ไม่ใช่บ้านของนาง ที่สามีของนางได้เสียชีวิตในบ้านนั้น ในขณะที่นางอยู่ด้วย นางจะไม่ไปอยู่ที่อื่น นอกจากมีอุปสรรคทางบทบัญญัติเท่านั้น จะไม่ออกไปเยี่ยมเยียนคนเจ็บป่วย ออกไปเยี่ยมเยียนเพื่อน หรือญาติใกล้ชิดก็ตาม และให้นางออกไปในเวลากลางวัน เพื่อทุระต่างๆที่จำเป็นได้

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว 5 ประการข้างต้น เป็นสิ่งศาสนาอนุญาต

อิมามอิบนุล กอยยิม ได้กล่าวว่า
และนางจะไม่ถูกห้ามไม่ให้ตัดเล็บ ถอนขนรักแร โกนผม ขนที่ได้รับการสนับให้โกนออก และชำระล้างด้วยน้ำใบพุทรา และหวีผมด้วยน้ำนั้น
(หนัง อัดยุนนะบะวีย์ เล่มที่ 5 หน้าที่ 507)

ชัยคุลอิสลาม อบนุ ไตยมียะฮฺ ได้กล่าวไว้ว่า
และอนุญาตให้นางกินทุกสิ่งทุกอย่างที่อัลลอฮฺได้ทรงอนุญาตให้ เช่น ผลไม้ และเนื้อ เช่นเดียวหันอนุญาตให้นางดื่มสิ่งที่เป็นอนุญาตจากเครื่องดื่มต่างๆ ไปจนกระทั่งท่านได้กล่าวว่า และไม่ห้ามนางไม่ให้กระทำการงานหนึ่งการงานใด จากการงานต่างๆที่เป็นที่อนุมัติ เช่น การปักถักร้อย การตัดเย็บ การทอ และอื่นจากนั้น จากสิ่งที่พวกสตรีเขาทำกัน และอนุญาตให้นางกระทำสิ่งอื่นๆได้ ที่เป็นที่อนุญาตแก่นาง ในช่วงที่ไม่มีอิดดะฮฺ เช่น การพุดคุยกับผู้ชายคนหนึ่งคนใด ที่นางต้องการจะพูดกับเขาด้วย ในเมื่อนางนั้นอยู่ในสภาพที่มีการปกปิดมิดชิด และอื่นจากนั้น และนี้คือสิ่งที่ฉันได้กล่าวถึง ซึ่งมันก็เป็นแนวทางของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ที่บรรดาสตรีของเหล่าสาวกได้กระทำ เมื่อเหล่าสามีของพวกนางได้เสียชีวิต
 (หนังสือ มัจญ์มูอุลฟะตาวา เล่มที่ 27 -28)

และสำหรับที่มีการกล่าวว่า
แท้จริงหญิงที่มีอิดดะฮฺนั้นจะปกปิดใบหน้าของนาง ไม่ให้ดวงจันทร์ได้เห็น จะไม่ขึ้นไปที่ดาดฟ้า จะไม่พูดกับพวกผู้ชาย จะปิดหน้าของนาง ไม่ให้พวกที่เป็นมะฮฺร็อมได้เห็น และอื่นจากนั้น ทั้งหมดนั้นไม่มีที่มาแต่ประการใด

เพิ่มเติม
การหิด้าด ในช่วงเวลาอิดะอฺเมื่อสามีตายนี้ บรรดานักวิชาการมีเห็นตรงกันหมด แต่มีความเห็นต่างด้วยหย่าขาดคืนดีไม่ได้ มัซอับฮานาฟีย์ กล่าวว่า หญิงนั้นต้องมีการหิด้าด ส่วนมัซฮับอื่นไม่ต้องมีการหิด้าดแต่อย่าสงใด


والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น