อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

จาก อ.มุสฏอฟา อยู่เป็นสุข ฝากถึงสังคมมุสลิม



ปรับเปลี่ยนจากศาสนาแบบรักษาแบบประเพณีปฏิบัติ
 เรียกร้องสู่ศาสนาที่มาจากกีตาบุ้ลลอฮฺและสุนนะฮฺ

“เนื่องจากสังคมทุกวันนี้มีแต่ปัญหา ฆ่ากันตาย สารพัดข่าวร้ายๆ ปัจจุบันผมว่าวิธีที่จะแก้สังคมให้เจริญกว่านี้ คือให้กลับมายึดหลักกุรอานและสุนนะฮฺของท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) อย่ายึดประเพณีปฏิบัติตามกันมานั้น อัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) ไม่พอใจ ฉะนั้นวิธีที่จะให้ลูกหลานเรามีคุณภาพ มีอย่างเดียวคือให้ลูกหลานได้เรียนหนังสือ ให้ลูกหลานได้เรียนอิสลาม เมื่อเข้าใจอิสลามแล้ว จะเรียนวิชาสามัญก็สามารถทำได้ แต่ต้องเรียนกุรอาน ต้องเรียนสุนนะฮฺนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม)ก่อน เพื่อจะได้ประคองตนเองได้อย่างสง่างามบนสังคมโลกดุนยาและอาคิเราะฮฺ...”

“...ผมต้องรับใช้ศาสนาของอัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) เพราะเมื่อหันกลับหันกลับมาดูบ้านเราจะเห็นว่าพี่น้องมุสลิมเรายังอ่านกุรอานไม่ออกเยอะ พี่น้องยังละหมาดไม่เป็นเยอะ พี่น้องมุสลิมที่มีศาสนาก็มีแบบรักษาแบบประเพณีปฏิบัติ ไม่ได้เอาศาสนาที่มาจากกีตาบุ้ลลอฮฺและสุนนะฮฺ จึงทำให้คิดอยู่ตลอดเวลาว่าเราต้องกลับมาเผยแผ่ศาสนา...”

“...ต้องการให้ความรู้ที่มาจากอัลกุรอาน มาจากอัลหะดิษ มาจากอุลามะฮฺทั้งหมด ถึงหมู่ประชาชน ถามว่าจุใจหรือยัง? ก็ยังไม่เท่าไหร่ เพราะท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ทำงานศาสนาไม่มีวันหยุด ท่านนบี(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ถูกฟิตนะฮฺ ถูกรังแก ถูกขัดขวาง ถูกใส่ร้าย ถูกใส่ยาพิษลงไปในอาหาร และถูกตำหนิจากชาวบ้าน เพราะเอาศาสนาที่มาจากอัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา)ไปเผยแผ่ กว่าชาวบ้านต้องใช่เวลาพอสมควร ในวันนี้ก็เหมือนกันเมื่อเอาหลักกุรอานไปเผยแผ่ก็ถูกโจมตีหาว่า เป็นคณะใหม่ , เป็นวาฮาบีย์ , เป็นก็อดยานี(กาเฟร)”

“อัลฮัมดุลิลาฮ์ผมก็ผ่านตรงนั้นมาได้ โดยการให้อภัย อดทน มีออกรายการอภิปลายตอยโต้บ้าง จัดสัมมนาใหญ่บ้าง พูดกันให้สว่างจะแจ้ง ซึ่งคนก็เข้าใจ คนก็รู้ว่าถูกกลั่นแกล้ง ถูกใส่ร้าย ผมคิดว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นการทดสอบจากอัลลอฮฺ (ศุบฮานะฮูวะตะอาลา) เราต้องซอบา(อดทน) ให้อภัย เพราะเราคิดอยู่เสมอว่างานใหญ่ คือ งานเผยแผ่ศาสนา”

(อาจารย์มุสฏอฟา อยู่เป็นสุข อิมามมัสยิดอันวาริสสุนนะฮฺ , ผู้บริหารโรงเรียนศาสนูปถัมภ์(คลองเคล็ด) ประธานกรรมการมูลนิธิฮัมซะฮฺ , ประธานกรรมการสถานีโทรทัศน์ไทยมุสลิม(TMTV) ข้อมูลจากหนังสือกัมปงไทย ประจำเดือนซุลฮิจยะห์-มุฮัรรอม 1433-1434)

<-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸>

1 ความคิดเห็น: