อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อิสลามห้ามเรียกร้องตำแหน่ง



                   ศาสนาไม่อนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดเรียกร้อง หรือขอตำแหน่งหน้าที่ใดๆ เพื่อให้ตนได้ดำรงตำแหน่งนั้น  และไม่อนุมัติที่จะมอบตำแหน่งนั้นตามที่เขาเรียกร้อง ท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ได้ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดที่จะมอบตำแหน่งหน้าที่กับผู้ที่เรียกร้องอยากได้ตำแหน่ง 

ปัจจุบันมิใช่แค่เรียกร้องตำแหน่งเพียงลมปากเท่านั้น แต่ยังยัดเยียดเงินเพื่อจะได้ครอบครองตำแหน่งอีกต่างหาก แน่นอนบุคคลเหล่านี้ อิสลามปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ที่จะสนับสนุนเขาขึ้นครองตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าตำแหน่งทางศาสนา ตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งใดๆก็ตาม ที่ส่งผลให้เขาผู้เรียกร้องตำแหน่งได้รับตำแหน่งจากที่เขาเรียกร้องนั้น ผู้ใดยอมรับ หรือสนับผู้นั้น ถือว่าเขาปฏิเสธสิ่งที่ท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ได้ห้ามไว้แล้ว

รายงานจากท่านอับดุรเราะหฺมาน อิบนุ สะมุเราะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ เล่าว่า ท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ได้กล่าวกับฉันว่า
อับดุลลอฮฺเอ๋ย ท่านอย่าได้ขอตำแหน่งหน้าที่ใดๆ เพราะถ้าท่านได้ท่านได้รับตำแหน่งเพราะการขอ ท่านก็จะถูกทำให้ละเลยต่อหน้าที่ตำแหน่งนั้น  แต่ถ้าท่านได้ตำแหน่งมาโดยไม่ได้ขอ ท่านก็จะได้รับการช่วยเหลือในตำแหน่งนั้นๆ (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม หะดิษเลขที่ 1791)

รายงานจากอบู มูซา ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ เล่าว่า
ฉันได้เข้าไปหาท่านรสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) พร้อมกับชายอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนในตระกูลของอาของฉัน คนหนึ่งในสองคนได้กล่าวว่า
โอ้ ท่านรสูล(ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ขอได้แต่งตั้งฉันให้ทำหน้าที่บางส่วนตามที่อัลลอฮฺ พระผู้ทรงอานุภาพและเกรียงไกรยิ่ง ได้ทรงมอบหมายท่าน"
 อีกคนหนึ่งก็กล่าว (กับท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) เช่นเดียวกัน ท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) จึงกล่าวว่า
ฉันจะไม่ให้มีใครคนใดดูแลปกครองงานนี้ ตามที่เขาขอจะเป็น และจะไม่ให้ตำแหน่งกับใครที่เขาโลภอยากได้ตำแหน่ง (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม หะดิษเลขที่ 1792)

รายงานจากท่านอบู ซัรฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮ์ เล่าว่า
ฉันเองได้กล่าว(ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ว่า
โอ้ท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ท่านจะไม่มอบงานให้ฉันทำเลยหรือ ท่านรสูล (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม) ได้เอามือของท่านตบ 2 ไหล่ของฉัน ต่อจากนั้นก้กล่าวว่า
อบู ซัรฺเอ๋ย ท่านนั้นชักอ่อนแรงแล้วนะ ในกิจการต่างๆนั้นต้องมีความไว้วางใจกัน และในกิจการต่างๆนั้น ในวันกิยามะฮฺจะมีแต่ความละอาย และความเสียใจ เว้นแต่บุคคล (ที่ได้รับการแต่งตั้งนั้น) ได้ตามสิทธิ์ (ยุติธรรม) และปฏิบัติหน้าที่ซึ่งในกิจการนั้นเป็นหน้าที่สำหรับเขา (บันทึกหะดิษโดยอิมามมุสลิม หะดิษเลขที่ 1793)


والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น