อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การถือศีลอดสุนนะฮฺ



การถือศีลอดที่เป็นสุนนะฮฺมีดังนี้

การถือศีลอดสุนนะฮฺนั้นมีให้ถือศีลอดในวันต่างๆ ต่อไปนี้

1. ถือศีลอด 6 วันในเดือนเชาวาล
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า

« مَنْ صَامَ رَمَضَانَ ثُمَّ أَتْبَعَهُ سِتًّا مِنْ شَوَّالٍ كَانَ كَصِيَامِ الدَّهْرِ »

“บุคคลใดที่ถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน จากนั้นเขา (ถือศีลอดสุนนะฮฺ) ต่อเนื่องอีก 6 วันของเดือนเชาวาล เช่นนี้ประหนึ่งเขาถือศีลอดตลอดทั้งปี ” 

อิมามอะหฺมัดมีทัศนะว่า “ให้ถือศีลอดสุนนะฮฺเชาวาลติดกัน หรือไม่ติดต่อกันก็ได้ ซึ่งวิธีหนึ่งจะไม่ดีกว่าอีกวิธีหนึ่ง”
ส่วนมัซฮับชาฟิอียะฮฺมีทัศนะว่า “ที่ดีแล้วควรถือศีลอดติดต่อกันทั้ง 6 วัน ภายหลังจากวันอีดิลฟิฏริเลย”

2. ถือศีลอดในวันอะเราะฟะฮฺ
ท่านอบูเกาะตาดะฮฺเล่าว่า

وَسُئِلَ عَنْ صَوْمِ يَوْمِ عَرَفَةَ فَقَالَ « يُكَفِّرُ السَّنَةَ الْمَاضِيَةَ وَالْبَاقِيَةَ »

“ท่านรสูลุลลอฮฺถูกถามเกี่ยวกับการถือศีลอดในวันอะเราะฟะฮฺ ท่านรสูลตอบว่า (การถือศีลอดสุนนะฮฺในวันดังกล่าว) จะถูกอภัยโทษให้หนึ่งปีที่ผ่านมา และอีกหนึ่งปีในอนาคต” 
ส่วนบุคคลที่อยู่ในช่วงการประกอบพิธีหัจญ์ ซึ่งวันนั้นก็ต้องไปพำนักที่ทุ่งอะเราะฟะฮฺ ไม่ส่งเสริมให้พวกเขาถือศีลอดสุนนะฮฺในวันอะเราะฟะฮฺ
นางอุมมุลฟัฎริเล่าว่า

شَكَّ النَّاسُ فِى صِيَامِ رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَوْمَ عَرَفَةَ ، فَأَرْسَلْتُ إِلَيْهِ بِإِنَاءٍ فِيهِ لَبَنٌ فَشَرِبَ

“ผู้คนสงสัยเกี่ยวกับการถือศีลอด (สุนนะฮฺ) ของท่านรสูลุลอฮฺในวันอะเราะฟะฮฺ, ฉันจึงส่งภาชนะที่บรรจุนมยื่นให้แก่ท่านรสูล จากนั้นท่านรสูลก็ดื่ม (นมนั้น)” 

3. ถือศีลอดในวันอาชูรออ์
มีสุนนะฮฺให้ถือศีลอดในวันอาชูรออ์ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 มุหัรฺร็อม
ท่านอบูเกาะตาดะฮฺเล่าว่า

وَسُئِلَ عَنْ صَوْمِ يَوْمِ عَاشُورَاءَ فَقَالَ « يُكَفِّرُ السَّنَةَ الْمَاضِيَةَ »

“ท่านรสูลุลลอฮฺถูกถามเกี่ยวกับการถือศีลอดในวันอาชูรออ์ ท่านรสูลตอบว่า (การถือศีลอดในวันดังกล่าว) เขาจะถูกอภัยโทษให้หนึ่งปีที่ผ่านมา” 

อนึ่ง มีสุนนะฮฺให้ถือศีลอดในวันที่ 9 มุหัรฺร็อมอีกด้วย

« لَئِنْ بَقِيتُ إِلَى قَابِلٍ لأَصُومَنَّ التَّاسِعَ »

“หากฉันมีชีวิตอยู่ถึงปีหน้า แน่นอนฉันจะถือศีลอดในวันที่ 9 (มุหัรฺร็อม) ด้วย” 

อีกรายงานหนึ่งระบุว่า

فَلَمْ يَأْتِ الْعَامُ الْمُقْبِلُ حَتَّى تُوُفِّىَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم

“ดังนั้นยังไม่ถึงปีหน้าเลย ท่านรสูลุลลอฮฺก็สิ้นชีวิตเสียก่อน” 
แต่อย่างไรก็ตาม การถือศีลอดในวันที่ 9 มุหัรฺร็อมถือว่าเป็นสุนนะฮฺ เพราะสิ่งที่ท่านรสูลุลลอฮฺพูดเอาไว้ถือว่าเป็นสุนนะฮฺเช่นกัน

4. ถือศีลอดในเดือนชะอฺบาน
ศาสนาส่งเสริมให้ถือศีลอดสุนนะฮฺมากๆ ในเดือนชะอฺบาน ซึ่งท่านนบีมุหัมมัดเองก็ถือศีลอดสุนนะฮฺในเดือนชะอฺบานมากเช่นกัน
ท่านหญิงอาอิชะฮฺเล่าว่า

وَمَا رَأَيْتُ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم اسْتَكْمَلَ صِيَامَ شَهْرٍ قَطُّ إِلاَّ رَمَضَانَ وَمَا رَأَيْتُهُ فِى شَهْرٍ أَكْثَرَ صِيَامًا مِنْهُ فِى شَعْبَانَ

“และฉันไม่เคยเห็นท่านรสูลุลลอฮฺถือศีลอดเต็มเดือนนอกจากเดือนเราะมะฎอน และฉันไม่เคยเห็นท่านรสูลถือศีลอด (สุนนะฮฺ) มากมายเท่ากับในเดือนชะอฺบานเลย” 

อีกหะดีษบทหนึ่งระบุว่า

ذَلِكَ شَهْرٌ يَغْفُلُ النَّاسُ عَنْهُ بَيْنَ رَجَبٍ وَرَمَضَانَ وَهُوَ شَهْرٌ تُرْفَعُ فِيهِ الأَعْمَالُ إِلَى رَبِّ الْعَالَمِينَ فَأُحِبُّ أَنْ يُرْفَعَ عَمَلِى وَأَنَا صَائِمٌ »

“นั่นเป็นเดือนที่อยู่ระหว่างเดือนเราะญับ กับเดือนเราะมะฎอน (คือเดือนชะอฺบาน) ผู้คนมักจะเพิกเฉยจากเดือนดังกล่าว และยังเป็นเดือนที่การงานต่างๆ จะถูกยกไปเสนอยังพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ดังนั้นฉันจึงชอบให้การงานของฉันถูกยก (ในเดือนดังกล่าว) ในสภาพที่ฉันถือศีลอด” 

5. ถือศีลอดในวันจันทร์ กับวันพฤหัสบดี
ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺเล่าว่า แท้จริงท่านรสูลุลลอฮฺส่วนใหญ่จะถือศีลอดในวันจันทร์กับวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ มีผู้ถามท่านรสูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านรสูลตอบว่า

« إِنَّ الأَعْمَالَ تُعْرَضُ كُلَّ اثْنَيْنِ وَخَمِيسٍ - أَوْ كُلَّ يَوْمِ اثْنَيْنِ وَخَمِيسٍ - فَيَغْفِرُ اللَّهُ لِكُلِّ مُسْلِمٍ أَوْ لِكُلِّ مُؤْمِنٍ إِلاَّ الْمُتَهَاجِرَيْنِ فَيَقُولُ أَخِّرْهُمَا »

“แท้จริงการงานต่างๆ จะถูกเสนอ (ยังอัลลอฮฺ) ทุกวันจันทร์กับวันพฤหัสบดี ดังนั้นพระองค์อัลลอฮฺจะอภัยโทษให้แก่มุสลิมทุกคน หรือมุอฺมินทุกคน ยกเว้นบุคคลสองคนที่ทะเลาะกัน จะกล่าวขึ้นว่า ประวิงเขาทั้งสองไว้ก่อน (ยังไม่อภัย จนกว่าจะคืนดีกันก่อน) ” 

6. ถือศีลอดในวันที่ 13, 14 และ15 ของเดือนอฺรับ
มีสุนนะฮฺให้ถือศีลอดสุนนะฮฺในวันที่ 13, 14 และ15 ของเดือนอฺรับ
ท่านอบูซัรฺรินเล่าว่า

« يَا أَبَا ذَرٍّ إِذَا صُمْتَ مِنَ الشَّهْرِ ثَلاَثَةَ أَيَّامٍ فَصُمْ ثَلاَثَ عَشْرَةَ وَأَرْبَعَ عَشْرَةَ وَخَمْسَ عَشْرَةَ »

“โอ้ท่านอบูซัรฺริน เมื่อท่านถือศีลอด 3 วันในหนึ่งเดือน ท่านจงถือศีลอดในวันที่ 13, 14 และ 15 (ของทุกเดือน) เถิด” 
อนึ่ง การทำความดี 1 เท่ากับ 10 ความดี กล่าวคือ ถือศีลอด 1 วัน เท่ากับ 10 วัน ฉะนั้น 3 วัน จึงเท่ากับ 30 วัน 1 เดือนพอดี

7. การถือศีลอดวันเว้นวัน
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า

« أَحَبُّ الصِّيَامِ إِلَى اللَّهِ صِيَامُ دَاوُدَ ، كَانَ يَصُومُ يَوْمًا وَيُفْطِرُ يَوْمًا

“การถือศีลอดซึ่งเป็นที่รักยิ่ง ณ พระองค์อัลลอฮฺ คือการถือศีลอดของนบีดาวูด คือถือศีลอดหนึ่งวัน และละทิ้งการถือศีลอดหนึ่งวัน” 

8. การถือศีลอด 9 วันแรกของเดือนซุลหิจญะฮฺ
นางฮุนัยดะฮฺ บุตรสาวของคอลิด ฟังจากภรรยาคนหนึ่งของท่านรสูลุลลอฮฺ โดยนางเล่าว่า

كَانَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَصُومُ يَوْمَ تِسْعِ ذِى الْحِجَّةِ

“ปรากฏว่าท่านรสูลุลลอฮฺจะถือศีลอด 9 วัน (ช่วงต้น) ของเดือนซุลหิจญะฮฺ”



والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น