สิ่งที่ชัยฏอนชี้นำให้ปฏิบัตินั้น
ล้วยแต่เป็นสิ่งที่เพียบพร้อมไปด้วยเหตุผลชวนเชื่อให้เลื่อมใสเป็นยิ่งนัก
ด้วยเหตุนี้มันจึงสามารถโน้มน้าวจิตใจมนุษย์ให้คล้อยตามได้โดยง่าย
และเมื่อถือปฏิบัติกัน และถ่ายทอดให้แก่ลูกหลาน ก็ทำให้ลูกหลานยึดถือมั่นยิ่งขึ้น
ว่าเป็นบัญญัติศาสนา และมองบัญญัติศาสนาตัวจริงว่าเป็นเรื่องเท็จ
ทั้งนี้เพราะไม่เคยเห็นบรรพบุรุษกระทำกัน
ด้วยเหตุนี้เมื่อมีผู้รู้ซึ่งหวังดีในพวกเขา กล่าวแนะนำพวกเขาว่า
จงหันมาปฏิบัติตามบัญญัติของอัลลอฮฺกันเถิด แต่แทนที่พวกเขาจะยินดี
กลับปฏิเสธโดยปราศจากความยำเกรงว่า ไม่หรอก
เราจะปฏิบัติตามที่พวกเขาเราได้เคยพบเห็นบรรพบุรุษของเราปฏิบัติมาเท่านั้น
โดยที่พวกเขาไม่คำนึงว่าบรรพบุรุษของเขากระทำโดยปราศจากความเข้าใจ
หรือไม่รับคำแนะนำที่ถูกต้องประการใด หน้าที่ของพวกเขา คือตามบรรพบุรุษอย่างเดียว
พระองค์อัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
يَا أَيُّهَا النَّاسُ كُلُوا مِمَّا فِي الْأَرْضِ حَلَالًا طَيِّبًا وَلَا تَتَّبِعُوا خُطُوَاتِ الشَّيْطَانِ إِنَّهُ لَكُمْ عَدُوٌّ مُّبِينٌ ( 168 )
"มนุษย์เอ๋ย! จงบริโภคสิ่งอนุมัติที่ดี ๆ จากสิ่งที่อยู่ในแผ่นดิน และจงอย่าตามบรรดาก้าวเดินของชัยฏอน แท้จริงมันคือศัตรูที่ชัดแจ้งของพวกเจ้า"
إِنَّمَا يَأْمُرُكُم بِالسُّوءِ وَالْفَحْشَاءِ وَأَن تَقُولُوا عَلَى اللَّهِ مَا لَا تَعْلَمُونَ ( 169 )
"ที่จริงมันเพียงแต่จะใช้พวกเจ้าให้ประกอบสิ่งชั่ว และสิ่งลามกเท่านั้น และจะใช้พวกเจ้ากล่าวความเท็จให้แก่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้"
وَإِذَا قِيلَ لَهُمُ اتَّبِعُوا مَا أَنزَلَ اللَّهُ قَالُوا بَلْ نَتَّبِعُ مَا أَلْفَيْنَا عَلَيْهِ آبَاءَنَا أَوَلَوْ كَانَ آبَاؤُهُمْ لَا يَعْقِلُونَ شَيْئًا وَلَا يَهْتَدُونَ ( 170 )
"และเมื่อได้ถูกกล่าวแก่พวกเขาว่าจงปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮ์ได้ทรงประทานลงมาเถิดพวกเขาก็กล่าวว่า มิได้ เราจะแฏิบัติสิ่งที่เราได้พบบรรดาบรรพบุรุษของเราเคยปฏิบัติมาเท่านั้นและแม้ได้ปรากฏว่า บรรพบุรุษของพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด และทั้งไม่ได้รับแนวทางอันถูกต้องก็ตามกระนั้นหรือ?"
(อัลกุรอาน
สูเราะฮฺอัลบะกอเราะฮฺ 1:168-170)
เมื่อมีผู้หวังดีกล่าวแนะนำพวกที่ปฏิบัติตามคำแนะนำของชัยฏอน ที่ไม่มีแบบอย่างจากท่านรสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮ์ ฮุอะลัยฮิวะซัลลัม หรือบรรดาศอหาบะฮฺ หรือชาวสลัฟทั้งทั้งมวล ว่า จงปฏิบัติตามบัญัติที่อัลลอฮฺทรงประทานลงมาเถิด
ความจริงน่าจะยินดีในคำแนะนำดังกล่าว เพราะว่าอัลลอฮฺนั้นก็เป็นพระเจ้าผู้ศรัทธา
บัญญัติใดที่มาจากอัลลอฮฺย่อมเป็นสิ่งจำเป็นที่เขาจะต้องปฏิบัติ
หรือถ้ายังสงสัยว่าสิ่งที่ถูกเรียกร้องให้ปฏิบัติตามนั้นเป็นบัญญัติของพระองค์ใช่หรือไม่
ก็น่าจะหันหน้าเข้ามาหาข้อเท็จจริง เพราะความจริงนั้นย่อมมีหลักฐานให้พิสูจน์เสมอ
แต่พวกเขาหาได้กระทำเช่นนั้นไม่ จะเนื่องมาจากความดื้อดันหรือเกียจคร้านที่จะใช้สติปัญญา
หรือความเคยชินต่อการเลียนแบบกันมาจากปู่ย่าตายาย
หรือไม่ศรัทธาต่อผู้ที่แนะนำก็ตาม พวกเขาได้กล่าวปฏิเสธคำแนะนำว่
“ไม่เอา”
พวกเราจะฏิบัติตามสิ่งที่พวกเราเคยพบเห็นบรรพบุรุษของเรา กระทำกันมาเท่านั้น"
โดยไม่คำนึงถึงว่าที่บรรพบุรุษของพวกเขากระทำกันมานั้น
เป็นสิ่งแปลงปลอมที่ชัยฏอนยัดเยียดให้
หรือว่าพวกเขากระทำเนื่องจากความไม่รู้ไม่เข้าใจ สรุปแล้วตามบรรพบุรุษตัวเดียว
แม้จะรู้ว่าผิดก็ตาม ใครจะทำไม ดังที่ว่า
“และแม้ได้ปรากฏว่า
บรรพบุรุษของเขาไม่เข้าใจสิ่งใด และทั้งไม่ได้รับแนวทางอันถูกต้องด้วยก็ตามกระนั้นหรือ?”
คือพวกเขาจะหลับหูหลับตาตามทั้งๆ
ที่ได้ปรากฏว่าบรรพบุรุษของพวกเขากระทำโดยปราศจากความเข้าใจ
และไม่มีใครแนะนำทางที่ถูกต้องให้แก่พวกเขา ก็จะตามกระนั้นหรือ
ดังกล่าวนี้เป็นการประณามอย่างรุนแรงยิ่ง และเป็นการแจ้งให้ทราบโดยปริยายว่า “ห้ามเลียนแบบคนอื่นอย่างหลับหูหลับตา”
ส่วนการปฏิบัติตามคนอื่นโดยที่รู้ว่าเป็นความจริงนั้น ไม่ถือว่าเป็นการเลียนแบบ
หากแต่ว่าเป้นการปฏิบัติตามสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประทานลงมา
ดังที่พระองค์อัลลลอตรัสไว้ว่า
وَمَا أَرْسَلْنَا مِن قَبْلِكَ إِلَّا رِجَالًا نُّوحِي إِلَيْهِمْ فَاسْأَلُوا أَهْلَ الذِّكْرِ إِن كُنتُمْ لَا تَعْلَمُونَ ( 43 )
"และเรามิได้ส่งผู้ใดมาก่อนหน้าเจ้า นอกจากเป็นผู้ชายที่เราได้วะฮีแก่พวกเขา ดังนั้น พวกเจ้าจงถามบรรดาผู้รู้ หากพวกเจ้าไม่รู้"
(อัลกุรอาน สูเราะฮฺอัน-นะห์ลฺ 16:43)
والله أعلم بالصواب
✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น