อัสลามมุอาลัยกุมวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุ

ครับ...มนุษย์ทุกคนล้วนปรารถนาชีวิต แต่ไม่ช้าก็เร็ว เขาก็ต้องได้พบกับความตาย ถึงแม้เขาจะทำอะไรเก็บไว้มากมาย แต่เมื่อความตายมาถึงมันก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันได้เตรียมตัว มนุษย์มักมีเป้าหมายที่จะสร้างความสำเร็จและความรุ่งเรืองขึ้นบนโลก แต่ความตายก็มาทำลายภาพลวงแห่งสำเร็จที่เขาได้วาดหวังไว้ ด้วยเหตุนี้ความตายจึงสอนเขาว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยก่อนตาย

เราจะต้องเรียนรู้ความจริงจากความตาย เพราะความลับของชีวิตถูกซ่อนไว้อยู่ในนั้น ความตายแสดงให้เราเห็นว่าเราไม่ใช่นายของตัวเอง เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราวเท่านั้นโลกนี้มิใช่สถานที่สำหรับการทำให้ความฝันของเราเป็นจริง ความตายสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไรมันบอกให้เรารู้ถึงหนทางไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงต่างหาก...!!!

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

การนอนตามแบบอย่างท่านนบี




 เวลานอนของท่านนบีมุหัมมัด ( صلى الله عليه وسلم ) 

ท่านนบีมุหัมมัด(صلى الله عليه وسلم )  น่าจะนอนภายหลังละหมาดอิชาอฺ
 ส่วนหลักฐานที่ระบุว่าท่านนบีนอนหลับหลังละหมาดอิชาอฺนั้น ไม่พบหลักฐานที่เจาะจงโดยตรง
 แต่หลักฐานโดยล้อมพออนุมานได้ว่า ท่านนบีน่าจะนอนภายหลังละหมาดอิชาอฺ

ดั่งที่ท่านอบูบัรฺซะฮฺเล่าว่า
" أن رسول الله صلى الله عليه وسلم كان يكره النوم قبل العشاء والحديث بعدها " 
ความว่า "ปรากฏว่าท่านรสูลุลลอฮฺรังเกียจการนอนหลับก่อนละหมาดอิชาอฺ และ (รังเกียจ) การพูดคุยหลังละหมาดอิชาอฺ" (บันทึกโดยบุคอรีย์ หะดีษที่ 535)

ท่านรสูลุลลอฮฺ (صلى الله عليه وسلم ) จะอาบน้ำละหมาดก่อนนอน

ก่อนนอน ท่านนบีมุหัมมัด(صلى الله عليه وسلم ) จะอาบน้ำละหมาด เหมือนอย่างที่ท่านอาบน้ำละหมาดเพื่อจะละหมาด

عَنِ الْبَرَاءِ بْنِ عَازِبٍ، قَالَ قَالَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم ‏"‏ إِذَا أَتَيْتَ مَضْجَعَكَ فَتَوَضَّأْ وُضُوءَكَ لِلصَّلاَةِ، ثُمَّ اضْطَجِعْ عَلَى شِقِّكَ الأَيْمَنِ، ثُمَّ قُلِ اللَّهُمَّ أَسْلَمْتُ وَجْهِي إِلَيْكَ، وَفَوَّضْتُ أَمْرِي إِلَيْكَ، وَأَلْجَأْتُ ظَهْرِي إِلَيْكَ، رَغْبَةً وَرَهْبَةً إِلَيْكَ، لاَ مَلْجَأَ وَلاَ مَنْجَا مِنْكَ إِلاَّ إِلَيْكَ، اللَّهُمَّ آمَنْتُ بِكِتَابِكَ الَّذِي أَنْزَلْتَ، وَبِنَبِيِّكَ الَّذِي أَرْسَلْتَ‏.‏ فَإِنْ مُتَّ مِنْ لَيْلَتِكَ فَأَنْتَ عَلَى الْفِطْرَةِ، وَاجْعَلْهُنَّ آخِرَ مَا تَتَكَلَّمُ بِهِ ‏"‏‏.‏ قَالَ فَرَدَّدْتُهَا عَلَى النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم فَلَمَّا بَلَغْتُ ‏"‏ اللَّهُمَّ آمَنْتُ بِكِتَابِكَ الَّذِي أَنْزَلْتَ ‏"‏‏.‏ قُلْتُ وَرَسُولِكَ‏.‏ قَالَ ‏"‏ لاَ، وَنَبِيِّكَ الَّذِي أَرْسَلْتَ ‏"‏‏ 

                อัลบัรรออ์ บินอาซิบ รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “เมื่อใดก็ตามที่เจ้าจะไปยังที่นอนของเจ้า ก็จงอาบน้ำละหมาดเหมือนกับอาบน้ำละหมาดเพื่อจะละหมาด, และจงเริ่มนอนด้วยการตะแคงด้านขวา หลังจากนั้นก็กล่าว (ดุอาอ์) ต่อไปนี้

اللَّهُمَّ أَسْلَمْتُ وَجْهِي إِلَيْكَ، وَفَوَّضْتُ أَمْرِي إِلَيْكَ، وَأَلْجَأْتُ ظَهْرِي إِلَيْكَ، رَغْبَةً وَرَهْبَةً إِلَيْكَ، لاَ مَلْجَأَ وَلاَ مَنْجَا مِنْكَ إِلاَّ إِلَيْكَ، اللَّهُمَّ آمَنْتُ بِكِتَابِكَ الَّذِي أَنْزَلْتَ، وَبِنَبِيِّكَ الَّذِي أَرْسَلْتَ‏.‏ فَإِنْ مُتَّ مِنْ لَيْلَتِكَ فَأَنْتَ عَلَى الْفِطْرَةِ، وَاجْعَلْهُنَّ آخِرَ مَا تَتَكَلَّمُ بِهِ 

                เขากล่าวว่า ฉันได้ทวนข้อความนี้กับท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม และเมื่อฉันอ่านมาถึงประโยคที่ว่า    اللَّهُمَّ آمَنْتُ بِكِتَابِكَ الَّذِي أَنْزَلْتَ  ฉันกล่าวต่อด้วยคำว่า    وَرَسُولِكَ   ท่านนบีกล่าวว่า ไม่ใช่  ที่ถูกต้องคือคำนี้     وَنَبِيِّكَ الَّذِي أَرْسَلْتَ  (บันทึกหะดิษโดยบุคคอรี/หมวดที่4/บทที่75/ฮะดีษเลขที่ 246)

ท่านรสูลุลลอฮฺ (صلى الله عليه وسلم )จะสะบัดที่นอนก่อนที่จะนอน

ท่านนบีมุหัมมัด(صلى الله عليه وسلم ) จะทำการสะบัดที่นอนด้วยชายผ้าด้านใน

ي فَارْحَمْهَا، وَإِنْ أَرْسَلْتَهَا فَاحْفَظْهَا بِمَا تَحْفَظُ بِهِ عِبَادَكَ الصَّالِحِينَ 

عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ رضي الله عنه قَالَ: قَالَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ: «إِذَا أَوَى أَحَدُكُمْ إِلَى فِرَاشِهِ فَلْيَنْفُضْ فِرَاشَهُ بِدَاخِلَةِ إِزَارِهِ فَإِنَّهُ لَا يَدْرِي مَا خَلَفَهُ عَلَيْهِ ثُمَّ يَقُولُ: بِاسْمِكَ رَبِّ وَضَعْتُ جَنْبِي، وَبِكَ أَرْفَعُهُ، إِنْ أَمْسَكْتَ نَفْسِي فَارْحَمْهَا، وَإِنْ أَرْسَلْتَهَا فَاحْفَظْهَا بِمَا تَحْفَظُ بِهِ عِبَادَكَ الصَّالِحِينَ» 
[متفق عليه].

รายงานจากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า : “เมื่อพวกท่านคนใดเข้าไปยังที่นอนของเขา ขอให้เขาจงสะบัดที่นอนด้วยชายผ้าด้านในของเขาเพราะเขาไม่รู้หรอกว่าอะไรมาอยู่บนนั้นหลังจากที่เขาจากไป จากนั้นให้กล่าวว่า

بِاسْمِكَ رَبِّ وَضَعْتُ جَنْبِى، وَبِكَ أَرْفَعُهُ، إِنْ أَمْسَكْتَ نَفْسِى فَارْحَمْهَا، وَإِنْ أَرْسَلْتَهَا فَاحْفَظْهَا بِمَا تَحْفَظُ بِهِ عِبَادَكَ الصَّالِحِينَ

ความว่า “ด้วยนามของพระองค์ โอ้พระเจ้าของฉัน ฉันขอวางสีข้างลงนอน และด้วยพระองค์ฉันยกมันขึ้น หากพระองค์กักดวงวิญญานฉันไว้(ให้ฉันตาย) ก็ขอโปรดทรงปรานีต่อมัน และหากพระองค์ปล่อยมันไป(ให้ฟื้นตื่น) ก็ขอโปรดทรงคุ้มครองมันอย่างที่พระองค์ทรงคุ้มครองปวงบ่าวที่ดีทั้งหลาย” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 6320 และมุสลิม หมายเลข 2714)

 ท่านอนของท่านรสูลุลลอฮฺ (صلى الله عليه وسلم ) 

ท่านรสูล(صلى الله عليه وسلم ) จะนอนตะแคงขวาโดยหันหน้าไปทางกิบละฮฺ


عَنِ الْبَرَاءِ بْنِ عَازِبٍ ، أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم ، كَانَ إِذَا أَخَذَ مَضْجَعَهُ وَضَعَ كَفَّهُ الْيُمْنَى تَحْتَ خَدِّهِ الأَيْمَنِ ، وَقَالَ : رَبِّ قِنِي عَذَابَكَ يَوْمَ تَبْعَثُ عِبَادَكَ

รายงานจาก อัลบุรออฺ บุตร อาซิบ  ว่า  "แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น  เมื่อท่านได้ทำการนอนตะแคง  ท่านจะทำการวางฝ่ามือขวาให้อยู่ใต้แก้มขวาของท่าน  และกล่าวว่า "ร๊อบบิ  กินี  อะซาบัก  เยาม่า  ตับอะษุ  อิบาดัก" (โอ้ อภิบาลแห่งฉัน  โปรดปกป้องฉันจากการลงโทษของพระองค์  ในวันที่พระองค์ทรงให้ปวงบ่าวฟื้นคืนชีพด้วยเถิด" (บันทึกหะดิษโดยท่านอัตติรมีซีย์  ,  อัชชะมาอิล อัลมูฮัมมะดียะฮ์ (244))

 สิ่งที่ทำก่อนนอน  ของท่านรสูลุลลอฮฺ (صلى الله عليه وسلم )

สิ่งที่ท่านนบีกระทำก่อนนอนเป็นประจำคือ ท่านรสูลนำมามาปะชิดกัน (เสมือนยกมือขอดุอาอฺ) แล้วเป่าลงมือทั้งสอง จากนั้นก็อ่านสูเราะฮฺอัลอิคลาศ,สูเราะฮฺอัลฟะลัก และสูเราะฮฺอันนาส จากนั้นก็นำมือมาลูบทั่วทั้งร่างกาย ท่านรสูลกระทำเช่นนั้น 3 ครั้ง, หรือบางครั้งท่านรสูลก็อ่านอายะฮฺกุรฺซีย์ด้วยเหมือนกัน

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ ร่อฎียัลลอฮุอันฮา เล่าว่า
"เมื่อท่านนบีมุหัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม  ต้องการจะล้มตัวนอนบนเตียงนอนของท่านทุกๆคืน ท่านนบีจะนำมือมาประสานกัน จากนั้นก็เป่าลงบนฝ่ามือทั้งสอง แล้วอ่านสูเราะฮฺ อัล-อิคลาศ , สูเราะฮฺ อัล-ฟะลัก และสูเราะฮฺอัน-นาส หลังจากนั้น ท่านบีก็ใช้มือทั้งสองลูบไปตามร่างกายเท่าที่มือทั้งสองจะสามารถลูบได้ โดยเริ่มตั้งแต่ศีรษะ ใบหน้า และถัดลงมาตามร่างกาย ท่านนบีกระทำเช่นนั้น 3 ครั้ง" (บันทึกหะดิษโดยบุคอรีย์ เล่ม 9 หน้า 62)

عَنْ حُذَيْفَةَ ، قَالَ : كَانَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم إِذَا أَوَى إِلَى فِرَاشِهِ ، قَالَ : اللَّهُمَّ بِاسْمِكَ أَمُوتُ وَأَحْيَا ، وَإِذَا اسْتَيْقَظَ ، قَالَ : الْحَمْدُ لِلَّهِ الَّذِي أَحْيَانًا بَعْدَمَا أَمَاتَنَا وَإِلَيْهِ النُّشُورُ 

จากฮุซัยฟะฮ์  เขากล่าวว่า  "ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมนั้น  เมื่อท่านต้องการจะเข้าไปที่นอน ท่านก็จะกล่าวว่า "อัลลอฮุ้มม่า บิสมิก้า อะมูตู้ วะ อะห์ยา" (โอ้อัลเลาะฮ์  ด้วยพระนามของพระองค์ ฉันได้ตาย(นอนหลับ)และฟื้นขึ้นมา(ตื่นจากนอน)  และเมื่อท่านตื่น  ท่านก็จะกล่าวว่า  "อัลฮัมดุลิลลาฮิลละซี  อะห์ยานา  บะอฺดะมา  อะมาต้านา วะอิลัยฮินนุชูร" (มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ซึ่งทำให้เราฟื้นขึ้นมาหลังจากทำให้เราได้ตาย(นอนหลับ)และไปยังพระองค์นั้นได้เราฟื้นคืน" (บันทึกหะดิษโดยท่านอัตติรมีซีย์)


عَنْ حُذَيْفَةَ بْنِ الْيَمَانِ رضي الله عنه قَالَ: «كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِذَا أَرَادَ أَنْ يَنَامَ قَالَ بِاسْمِكَ اللَّهُمَّ أَمُوتُ وَأَحْيَا وَإِذَا اسْتَيْقَظَ مِنْ مَنَامِهِ قَالَ الْحَمْدُ لِلَّهِ الَّذِي أَحْيَانَا بَعْدَ مَا أَمَاتَنَا وَإِلَيْهِ النُّشُورُ» 
[رواه البخاري]

รายงานจากหุซัยฟะฮฺ อิบนุล ยะมาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า
" ปรากฏว่าเมื่อท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม จะนอน ท่านจะกล่าวว่า

بِاسْمِكَ اللَّهُمَّ أَمُوتُ وَأَحْيَا

ความว่า “ด้วยพระนามของพระองค์ โอ้อัลลอฮฺ ที่ข้าพระองค์ตายและมีชีวิตอยู่”

และเมื่อตื่นจากการนอนท่านจะกล่าวว่า

الْحَمْدُ لِلَّهِ الَّذِي أَحْيَانَا بَعْدَ مَا أَمَاتَنَا وَإِلَيْهِ النُّشُورُ

ความว่า “การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ผู้ทรงให้เราได้มีชีวิตหลังจากที่ทรงให้เราตาย และยังพระองค์คือการฟื้นคืนชีพ”. (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์)

รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ เล่าว่า ท่านรสูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
“ในสูเราะฮิอัลบะเกาะเราะฮฺมีอายะฮฺหนึ่งซึ่งนับว่าเป็นสุดยอดของอายะฮฺทั้งหลายในอัลกุรอาน ซึ่งจะไม่ถูกอ่านในบ้านใดที่มีชัยฏอน นอกจากชัยฏอนตนนั้นจะต้องออกไป (เพราะการอ่านอายะฮฺนั้น) นั้นคือ อายะฮฺอัลกุรซีย์” (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ และอัลฮากิม)
รายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮฺ กล่าวว่า
“ผู้ใดอ่านอายะฮฺอัลกุรซีย์นี้ ก่อนจะเข้านอน ชัยฏอนจะไม่เข้าใกล้ที่นอนของเขากระทั่งรุ่งเช้า มาลาอิกะฮฺจะมาคอยดูแลรักษาเขาผู้นั้น” (บันทึกหะดิษโดยอัลบุคอรีย์)
عن نوفل الأشجعي رضي اللّه عنه قال: قال لي رسول اللّه صلى اللّه عليه وسلم: «اقْرأ: {قُلْ يَا أَيُّهَا الْكَافِرُون} ثُمَّ نَمْ على خاتِمَتِها، فإنَّها بَرَاءَةٌ مِنَ الشِّرْكِ» 
[رواه أبو داود، وحسنه لألباني]

รายงานจากเนาฟัล อัลอัชญะอีย์ เราะฎิยัลลอฮฺอันฮุ กล่าวว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวแก่ฉันว่า
“จงอ่าน กุลยาอัยยุฮัลกาฟิรูน (ซูเราะฮฺอัลกาฟิรูน) แล้วนอนพร้อมกับการจบของมัน เพราะแท้จริงแล้ว นั่นเป็นการบริสุทธิ์ห่างไกลจากชิริก”.  (บันทึกโดยอบู ดาวูด และชัยคฺอัล-อัลบานีย์กล่าวว่าเป็นหะดีษหะสัน)

عن عائشة رضي اللّه عنها قالت: «كَانَ النَّبِيُّ صَلَّى اللّهُ عَلَيهِ وَسَلَّمَ لا يَنَامُ حَتَّى يَقرَأَ بَنِي إِسرَائِيلَ وَالزُّمَر.» 
[رواه الترمذي وقال: حديث حسن، وصححه الألباني]

รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า
"ปรากฏว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม นั้นจะไม่นอนจนกว่าจะได้อ่าน “บนีอิสรออีล” (ซูเราะฮฺ อัลอิสรออ์) และ “อัซซุมัร”  (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ และเขากล่าวว่าเป็นหะดีษหะสัน; ส่วนอัล-อัลบานีย์กล่าวว่าหะดีษนี้เศาะฮีหฺ)

والله أعلم بالصواب

✿ ▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬ ✿

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น